ค้านสุดตัว!!! ชาวอ่างทองฮือต้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน หวั่นมลพิษ

 

 

ค้านสุดตัว!!! ชาวอ่างทองฮือต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเอกชน หวั่นมลพิษกระทบวิถีชีวิต ติดป้ายค้านตามสี่แยกสายหลัก แต่ถูกเอาลงจนชมรมคนรักษ์อ่างทอง ต้องแจ้งความทุก สภ.ในจังหวัด

 

จากกรณีที่บริษัทไทยเรย่อนจำกัด มหาชนได้ดำเนินการทำเรื่องขอขยายโรงงาน เพื่อก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหินในการผลิตกระแสไฟฟ้า  จนเป็นเหตุให้ผู้นำชุมชนและประชาชนในจังหวัดอ่างทองออกมาต่อต้าน จนนายประสาร สิปานี่ ประทานบริษัทไทยเรย่อน  พร้อมทีมงาน ได้มาขอชีแจงเกี่ยวกับการสร้างโรงงานไฟฟ้าถ่านหินภายในบริษัทว่าจะไม่เกิดผลกระทบต่อชุมชนและจะกลับไปหารือกันอีกครั้ง  แต่เหตุการณ์ยังไม่จบแค่นั้นเมื่อทางชมรมคนรักษ์อ่างทองได้นำป้ายคัตเอ้าขนาดใหญ่ที่เขียนคำว่า "ไม่เอาถ่านหิน STOP COAL " ติดตามสี่แยกสายหลักในจังหวัดอ่างทอง แต่ถูกเอาป้ายลง  จนทางชมรมคนรักษ์อ่างทอง เข้าแจ้งความทุก สภ.ในจังหวัดอ่างทองและประกาศในวันจันทร์ที 1 ก.พ. 59 จะนำมวลชนไปยังศาลากลางจังหวัดอ่างทองเพราะเห็นว่าทางราชการเข้าข้างบริษัท   แต่ไม่นานผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทองพร้องรองผู้ว่าฯได้เข้าเจรจาพูดคุยและให้นำป้าย"ไม่เอาถ่านหิน STOP COAL " ขึ้นติดดังเดิม แต่เหตุการณ์ก็ไม่จบ

ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (1 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า    นางกิ่งกาญจน์   อารักษ์พุทธนันท์ ประธานชมรมคนรักษ์อ่างทอง พร้อมด้วย นายชูศักดิ์ ศรีราชา อดีต สว.อ่างทอง และรองประธานชมรมคนรักษ์อ่างทอง พร้อมมวลชนพันกว่า คนได้เดินทางมายังศาลากลางจังหวัดอ่างทองเพื่อยื่นหนังสือคัดค้านการที่บริษัทไทยเรยอนจะใช้ถ่านหินมาเป็นพลังงานที่ใช้ผลิตกระแสฟ้าแก่นายวีร์รวุทธ์ ปุตระเศรณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทองผ่านไปยังนายกรัฐมนตรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหาร และจ้าหน้าที่ อส.คอยดูแลความเรียนร้อยกว่า 200 นาย
             

นายชูศักดิ์  กล่าวว่า  สำหรับหนังสือที่มายื่นในครั้งนี้เป็นหนังสือปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ส่งให้ผู้ว่าผ่านไปยังหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ ท่านพลเอกประยุทธ  จันทร์โอชา  ซึ่ง บริษัทไทยเรย่อยตั้งอยู่กลางชุมชนและกำลังจะดำเนินการนำถ่านหินมาใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า   ซึ่งพวกตนและชาวบ้านยอมไม่ได้เพราะถ่านหินจะสร้างมลภาวะต่อชุมชนแน่นอน  หากเกิดขึ้นใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ทุกวันนี้เราก็รับกลิ่นเหม็นของสารเคมีจากโรงงานมานานถึง 40 ปีแล้วก็ไม่มีใครแก้ได้แม้จะร้องเรียนไปยังหน่วยราชการหลายต่อหลายครั้งก็ตาม  แล้วจะมาสร้างมลภาวะให้กับชุมชนอีก   บัดนี้บริษัทไทยเรยอนได้ดำเนินการขออนุญาตขยายโรงงานเพื่อผลิตไอน้ำและไฟฟ้าโดยใช้ชื้อเพลิงคือถ่านหินครั้งที่ 11   จำนวนปีละ 32000 ตัน จะทำให้เกิดผลกระทบอย่างมากมายโดยมีการทำประชาคมเมื่อเดือนมิถุนายน 58 มาแล้วแต่ไม่ผ่านความเห็นของประชาชน

 

 

             

เราจึงต้องแสดงพลังออกมาเรียกร้องเพื่อความสงบสุขและความเป็นอยู่ของประชาชน ที่ออกมาแสดงพลังในวันนี้ก็มีวัตถุประสงค์หลักๆ 3 ข้อคือ  คัดค้านไม่ให้มีการนำถ่านหินเข้ามาในกระบวนการผลิตกระแสไฟฟ้า   ให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการ 3 ฝ่าย เพื่อตรวจสอบและควบคุมกระบวนการผลิตของโรงงานมิให้นำถ่านหินเข้ามาใช้ในการผลิตทุกขั้นตอน และให้โรงงานทำการขจัดกลิ่นเหม็นที่รบกวนและส่งผลกระทบต่อชุมชน
             

 

ทั้งนี้ หลังจากนายวีร์รวุทธ์ มาถึงที่ชุมนุมแล้วได้พูดคุยกับกลุ่มผู้ชุมนุมและรับหนังสือจากกลุ่มผู้ชุมนุมก็รับปากจะดูแล เพราะเข้าใจถึงประชาชนที่คัดค้านไม่เอาถ่านหิน ซึ่งเกรงจะเกิดอันตรายที่จะตามมาจากการใช้ถ่านหินเป็นตัวในการผลิตกระแสไฟฟ้า และพร้อมเจรจาทุกฝ่าย หาข้อยุติในการก่อสร้างและคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหินในการผลิตกระแสไฟฟ้า ต่อไป อย่างไรก็ตามจะต้องเก็บข้อมูลจากฝ่ายราชการ ชุมชน และบริษัทเพื่อนำข้อมูลส่งส่วนกลางต่อไป

 

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศในการชุมนุมประชาชนต่างถือป้ายคัดค้านไม่เอาถ่านหินโดยมารวมตัวกันที่สนามหน้าศาลากลางหลังเก่า  โดยมีนายชูศักดิ์  กล่าวปราศรัยถึงเหตุผลที่ไม่ยอมให้เกิดโรงไฟฟ้าถ่านหิน จากนั้นปลัดจังหวัดอ่างทองก็เดินทางมาถึงเพื่อจะรับหนังสือแทนผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ก็โดนประชาชนร้องตะโกนว่าไม่เอาต้องการยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเท่านั้น  จนผู้ว่าราชการจังหวัดต้องลงมาพบประชาชนเองและได้พูดคุยกับประชาชนก่อนจะรับหนังสือ  และเชิญตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวน 100 คนไปประชุมพูดคุยที่ห้องประชุมบนศาลากลางจังหวัดอ่างทอง   ส่วนตามถนนก็มีการนำป้ายไม่เอาถ่านหินติดอย่างต่อเนื่อง

 

ภาพจาก : 77jowo.com