ข้อควรปฎิบัติตน ใน"วันมาฆบูชา"วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.Tnews.co.th

ปัจจุบัน มีชาวพุทธจำนวนมากละเลยข้อปฎิบัติ หรือ คำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จนทำให้บ้านเมืองเกิดเหตุการณ์วุ่นวาย และมีพระสงฆ์หลายรูป มีความประพฤติย่อหย่อน หลงติดในลาภยศสรรเสริญ  ถึงขั้นพุทธศาสนิกชนหลายท่านเกิดปัญหาวิกฤต"การเสื่อมศรัทธา"

 

เนื่องด้วย วันนี้เป็นวันมาฆบูชา  ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ กลางเดือน ๓ หรือประมาณราวเดือนกุมภาพันธ์ วันสำคัญของทางพุทธศาสนา ข้าพเจ้าจึงขอยกเกร็ดประวัติเล็กๆ น้อยๆ และข้อพึงปฎิบัติเพื่อให้เกิดความเข้าใจ มาให้ทุกท่านได้อ่านกัน

 

วันมาฆบูชา ย่อมาจากคำว่า "มาฆปุรณมีบูชา" แปลว่า การบูชาพระในวันเพ็ญเดือน ๓ ถือเป็น "วันจาตุรงคสันนิบาต" แปลว่า การประชุมอันประกอบด้วยองค์ ๔ ซึ่งเป็นเหตุการณ์อัศจรรย์เกิดขึ้นพร้อมกันในสมัยพุทธกาล โดยมีดังนี้

 

๑. พระสงฆ์จำนวน ๑,๒๕๐ รูป ซึ่งจาริกไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในสถานที่ต่างๆ เดินทางมาเฝ้าพระพุทธเจ้า ณ เวฬุวันมหาวิหาร กรุงราชคฤห์ แคว้นมคธ


๒. พระสงฆ์จำนวน ๑,๒๕๐ รูปเหล่านี้ ล้วนเป็นพระอรหันต์ และได้รับการบวชจากพระพุทธเจ้าโดยตรง ด้วยวิธีเอหิภิกขุอุปสัมปทา


๓. พระสงฆ์จำนวน ๑,๒๕๐ รูป ต่างมาประชุมพร้อมเพรียงกันโดยมิได้มีการนัดหมาย


๔. วันที่มาประชุม ตรงกับวันเพ็ญเดือนมาฆะ (วันเพ็ญกลางเดือน ๓) เป็นวันที่พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงธรรมเทศนา อันเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา คือ โอวาทปาติโมกข์ แปลว่า ข้อธรรมย่ออันเป็นหลักหรือหัวใจสำคัญของพระพุทธศาสนา ๓ ประการ  ได้แก่


๑. ไม่ทำความชั่วทั้งปวง เว้นจากความชั่วด้วยกาย วาจา ใจ


๒. ทำความดีให้ถึงพร้อม ด้วยกาย วาจา ใจ


๓. ทำจิตใจให้หมดจดบริสุทธิ์ผ่องใส

 

ทั้งนี้  ในวันนี้ เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ขอให้ ชาวพุทธทุกคนควรจะชาวพุทธทุกคนควรจะทำจิตใจให้สงบก่อนจะเข้าวัดทำบุญรักษาศีล สวดมนต์ และทำจิตใจบริสุทธื์ผ่องใส ในการเวียนเทียนเพื่อระลึกถึงคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า