- 06 เม.ย. 2559
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.tnews.co.th
ต้นไม้ที่ว่านี้คือ ต้นแมนชินีล (Manchineel Tree) ซึ่งมีรากศัพท์มาจากภาษาสเปนในอดีตคือ manzanilla ที่แปลว่า แอปเปิลผลน้อย ส่วนชาวสเปนยุคปัจจุบันเรียกมันว่า manzanilla de la muerte หรือ แอปเปิลผลน้อยแห่งมัจจุราช
เจ้าต้นแอปเปิลแห่งความตายนี้ สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในแถบอเมริกากลาง รัฐฟลอริดา ตอนเหนือของทวีปอเมริกาใต้ และตามเกาะบนทะเลแคริบเบียน มันมีความสูงราว 9-15 เมตร ผลกลมสีเขียวอ่อนดูคล้ายผลแอปเปิล มักงอกเป็นต้นใหญ่แถบชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน แซมไปกับต้นโกงกาง
ส่วนพิษของมันก็เรียกได้ว่ามีอยู่รอบตัวเลยทีเดียว เริ่มตั้งแต่ผลของมัน ที่อาจคร่าชีวิตคนได้ทันทีหากรับประทานเข้าไป พิษในผลจะทำให้ปากและลำคอเกิดอาการบวมพอง รวมถึงยังส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหารอีกด้วย
ส่วนยางไม้สีขุ่นคล้ายน้ำนม ที่เกาะอยู่ตามเปลือกไม้ มีปริมาณสารฟอร์บอลเอสเทอร์ และสารพิษอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองบนผิวหนัง ซึ่งสามารถกระตุ้นโรคผื่นแพ้สัมผัสอย่างรุนแรงได้โดยง่าย
ถ้าหากเกิดฝนตกฟ้าร้อง ก็ขอให้เลิกล้มความคิดที่จะไปยืนใต้ต้นแมนชินีลได้เลย เพราะน้ำฝนจะพาเอาสารพิษตามใบลงมาเปรอะเปื้อนผิวหนัง และแน่นอนว่าต้องเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง
อันตรายขนาดนี้ก็น่าจะเผาหรือโค่นทิ้งไปให้สิ้นเรื่อง จริงไหม ? แต่ช้าก่อน ควันที่เกิดจากการเผาทำลายต้นแมนชินีล อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อมนุษย์หลายอย่าง ทั้งอาการสำลัก คันคอ ที่อาจก่อให้เกิดโรคกล่องเสียงอักเสบและโรคหลอดลมอักเสบ และหากเข้าตาละก็ อาจทำระคายเคืองอย่างรุนแรงจนถึงขั้นตาบอดได้เลย
นักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนตามชายหาดทะเลแคริบเบียนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ก็มักจะมาพึ่งพิงร่มเงาของเจ้าต้นแมนชินีลต้นนี้ จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากมันไปหลายรายเลยทีเดียว
ฉะนั้น หากคุณมีโอกาสได้ไปพักร้อนที่หาดแถบทะเลแคริบเบียน อย่าลืมนึกถึงบทความนี้ และอย่าเข้าใกล้ต้นแมนชินีลเป็นอันขาดเลยเชียว
ภาพจาก wikipedia, ziplinestthomas, tusentakk2, ngjyra
ขอบคุณข้อมูลจาก scoopwhoop
ที่มา KAPOOK

