ตัดโควต้า "นมวังน้ำเย็น  5 %" หลังโผล่ขายเขมร

ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th

 

รมว.เกษตรฯ เผยตัดโควต้า "สหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น" 5 % หลังพบนมโรงเรียนโผล่ขายเขมร ฝ่ายปลัดเกษตรฯ เผยตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 5 วัน

 

วานนี้ (3 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ. ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงกรณีมีการโพสต์ในโซเซีลยอย่างต่อเนื่องที่มีผู้ไปพบนมโรงเรียนแบบกล่องยูเอชที วางขายในร้านสะดวกซื้อ ในประเทศกัมพูชา จนล่าสุดไปพบที่ร้านเอเซียมาร์เก็ต เมืองเสียมราฐ ว่าตนได้สั่งการให้นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม (มิลค์บอร์ด) ตรวจสอบถึงกรณีที่ได้รับการร้องเรียน และมีหลักฐานจากนักท่องเที่ยวรายหนึ่งว่ ามีโครงการสหกรณ์แห่งหนึ่งของไทย ได้นำผลิตภัณฑ์นมโรงเรียนไปวางจำหน่ายที่ร้านเอเชียมาร์เก็ต ในเมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชาโดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวข้างกล่องมีข้อความระบุชัดเจนว่าห้ามจำหน่าย ซึ่งประธานกรรมการสหกรณ์ดังกล่าว เปิดเผยถึงกรณีนี้และยืนยันว่าเป็นความจริงและไม่ผิด

 

"โดยองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการบริหารจัดการโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน จึงได้พิจารณาผลการดำเนินงานของสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น กรณีนี้เข้าข่ายการปฏิบัติที่ไม่เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม ลงวันที่ 5 เมษายน 2559 เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินงานโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ปีการศึกษา 2559 หมวด 1 ข้อ 6.6.6 ให้ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นม และผู้รับจ้างขนส่งดำเนินการจำหน่ายและขนส่งผลิตภัณฑ์นมเพื่อจำหน่ายเฉพาะภายในโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน และภายในประเทศไทยเท่านั้น ซึ่งจะมีบทลงโทษในหมวด 7 ข้อ 26.1.2กรณีผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นมไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขข้อ 6.6 ให้ลดสิทธิส่วนที่เหลือทันทีร้อยละ 5" รมว.เกษตรฯ กล่าว

 

 

ด้านนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงนำวางจำหน่ายประเทศกัมพูชาตั้งแต่เมื่อไหร่ มีส่วนใดเกี่ยวข้อง เพราะเป็นนมโครงการของรัฐบาลที่ให้กับเด็กนักเรียนไทยดื่มฟรี โดยได้มอบหมายให้นายศักดิ์ชัย ศรีบุญซื่อ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจ เพื่อพิจารณาหลักเกณฑ์แนวทางปฏิบัติ และการจัดสิทธิพื้นที่จำหน่ายนมโรงเรียนปีการศึกษา 2559 ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 5 วัน พร้อมทั้งให้เร่งดำเนินการประสานให้มีการประชุมโดยนำกรณีดังกล่าวเข้าพิจารณาโดยเร็วในคณะกรรมการบริหารจัดการโครงการอาหารเสริม (นม)โรงเรียน ซึ่งมีคณะกรรมการติดตามและแก้ไขปัญหาการจำหน่ายนมโรงเรียนและจะรายงานเสนอคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นมโดยเร็ว