หัวโล้นผ้าเหลืองอยู่นี่โง่เป็นควายก็มี

ใน Facebook พระอริยเจ้า @Buddhistarhat ได้โพสต์ข้อความ เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน เวลา 20:00 น. ระบุคำพูดของหลวงปู่คำบ่อ ฐิตปัญโญ ที่วัดใหม่บ้านตาล ต.โคกสี อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร

ใน Facebook พระอริยเจ้า @Buddhistarhat ได้โพสต์ข้อความ เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน เวลา 20:00 น.  ระบุคำพูดของหลวงปู่คำบ่อ ฐิตปัญโญ ที่วัดใหม่บ้านตาล ต.โคกสี อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ช่วงหนึ่งว่า

"มันเป็นอนิจจังนะ พระพุทธเจ้าท่านว่า ให้พิจารณาอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่อย่างนั้น อยู่บ้านมันก็เป็นพระอรหันต์กันไปหมดน่ะซี้ มันอยู่ที่ว่าอยู่ไหนแล้วก็ให้มีปัญญา อยู่วัดก็ไม่ใช่ว่ามีปัญญาก็มีนะ หัวโล้นผ้าเหลืองอยู่นี่โง่เป็นควายก็มี"

 

หัวโล้นผ้าเหลืองอยู่นี่โง่เป็นควายก็มี

 

หัวโล้นผ้าเหลืองอยู่นี่โง่เป็นควายก็มี

 

ประวัติและปฏิปทา หลวงพ่อคำบ่อ ฐิตปัญโญ

 

วัดใหม่บ้านตาล ต.โคกสี อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร

ชาติกำเนิดและชีวิตปฐมวัย

 

ข้าพเจ้ามีนามเดิมที่โยมคุณตาตั้งให้ ชื่อ คำบ่อ พวงสี เกิดเมื่อวันพุธที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2474 เวลาประมาณ 03.00 น. ตรงกับวันขึ้น 2 ค่ำ เดือน 12 ปีมะแม ณ บ้านตาล ต.โคกสี อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร โยมบิดา-โยมมารดาชื่อ นายทองและนางภู่ พวงสี มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันทั้งหมด 7 ข้าพเจ้าเป็นบุตรคนที่ 1

 

ในปฐมวัย ข้าพเจ้าได้เข้าเรียนชั้นประถมศึกษาที่ศาลาวัดศรีษะเกษ บ้านตาล จ.สกลนคร จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เมื่อจบแล้ว โยมบิดา-โยมมารดาจะให้บวชเป็นสามเณร จึงตอบท่านไปว่า ยังไม่บวช จะอยู่ทำงานไปอีกสักระยะหนึ่งก่อนจึงจะบวช โยมบิดา-โยมมารดาท่านก็ไม่ว่าอะไรแม้แต่คำเดียว

 ตั้งแต่วันนั้นข้าพเจ้าก็ทำหน้าที่การงานช่วยบิดามารดาให้ดีที่สุด จะไม่ทำให้ท่านเป็นทุกข์เพราะเรา ตระกูลนี้ไม่เจริญเพราะเราก็จะไม่ให้เสื่อมเพราะเรา ตระกูลเจริญเพราะเราก็จะไม่ให้เสื่อมเสียเพราะเรา นี้เป็นความรู้สึกลึกๆ อยู่ในหัวใจของข้าพเจ้า จนบิดามารดาไว้เนื้อเชื้อใจ จะซื้อจะขายอะไรที่จะต้องใช้เงินทองจำนวนมาก ท่านจะมาถามแทบทุกครั้ง ถ้าข้าพเจ้าตกลงอย่างไร ท่านก็จะเอาอย่างนั้น เพราะความไว้เนื้อเชื้อใจในตัวของข้าพเจ้า

 ท่านทั้งสองเป็นพุทธมามกะ เลื่อมใสในบวรพระพุทธศาสนา เพราะเชื่อว่าความดีก็มีเหตุ ความชั่วก็มีเหตุ ความดีก็เกิดจากการกระทำดีนั้น ความชั่วก็เกิดจากการกระทำชั่วนั้น ฉะนั้น ท่านทั้งสองจึงพยายามสร้างความดี ทำความดี ตามกำลังกายกำลังทรัพย์ กำลังปัญญาของท่าน จนกระทั่งท่านทั้งสองจากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับ

 ฉะนั้น ตระกูลพวงสีนี้จึงเป็นตระกูลเคารพนับถือบวรพระพุทธศาสนาอย่างไม่ลืมเลือนไปจากหัวใจ ในตระกูลพวงสีนี้ ก็นับว่าโชคดีที่ยึดเอาคำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นหลักปฏิบัติในการครองเรือน จึงทำให้ชีวิตความป็นอยู่ของตระกูลพวงสีพอกินพอใช้ไม่รวยและก็ไม่จน พอมีพอกินตามสภาพคนบ้านนอก

  ชีวิตเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์

 เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2495 ปีมะโรง อายุได้ 21 ปี วันนั้นคุณตามาที่บ้านประมาณ 1 ทุ่ม ท่านถามว่ากินข้าวเสร็จหรือยัง เลยบอกท่านว่ายัง ท่านเลยบอกให้รีบไปกินข้าว วันนี้จะพาไปมอบนาคที่วัดตาลนิมิต บ้านตาล ต.โคกสี อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร แบบนี้เขาเรียกว่าแบบจู่โจมไม่ให้รู้ตัว โยมบิดา-โยมมารดาไม่บอกให้ทราบ แต่ข้าพเจ้ากลับรู้สึกดีใจ จะได้หมดหนี้บุญคุณของท่านเสียที หนี้บุญคุณของบิดามารดา ยังฝังอยู่ในจิตใจไม่หลงลืมตลอดมา

 ถ้ายังไม่ได้บวชให้ท่านก่อนแล้ว ก็จะไม่แต่งงานเป็นอันขาด เพราะได้ยินญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่า ตาของเธอเขาดีใจมากเพราะได้หลานคนแรกเป็นผู้ชาย ท่านบอกว่าท่านได้กำไรแล้ว คำว่ากำไรคงหมายถึงความดีเท่านั้น คำพูดของท่านคำนี้จึงไม่ลืมเลือนไปจากจิตใจของข้าพเจ้าตลอดมาจนกระทั่งทุกวันนี้

 เมื่อไปอยู่วัดป็นนาคแล้ว ก็ได้มีเพื่อนคนหนึ่งได้ตามไปเพื่อจะบวชเหมือนกัน เราก็ดีใจเพราะได้เพื่อน เมื่อเพื่อนไปเป็นนาคอยู่ด้วยกันได้ 3 วันก็มีเรื่องให้แตกกัน เนื่องจากหลวงพี่สงฆ์ให้ไปช่วยงานที่บ้าน อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ชวนให้ไปด้วยกันแกก็ไม่ไปตาม สุขเพราะความมีเพื่อนก็เลยหายไปอย่างง่ายๆ แต่ข้าพเจ้าได้พูดคุยกับครูบาอาจารย์แล้วก็ต้องไป

 คิดว่าไปไหนก็ต้องมีพระเป็นเพื่อน ไปหาพระก็ต้องมีพระเป็นเพื่อน ไปหาคนก็ต้องมีคนเป็นเพื่อน และไปช่วยสร้างพระอุโบสถที่ยังไม่แล้วเสร็จ ออกเดินทางประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ ที่วัดเจริญราษฎร์บำรุง บ้านมาย อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร มีทั้งหญิง ชาย คนหนุ่ม คนแก่ จำนวนมากช่วยงาน แต่อยู่ไปประมาณเดือนมีนาคม ครูบาอาจารย์อาจมองเห็นว่าจะมองว่าใกล้ไฟ มันร้อนใกล้ค้อนมันเจ็บ ท่านเลยลัดคิวบวชเป็นสามเณรให้

 ท่านก็ได้จับบวชเป็นสามเณรที่โบสถ์น้ำ เรียกว่า อุทกุกเขปสีมา เป็นสามเณรจนกระทั่งเดือนเมษายนอุโบสถที่สร้างก็เสร็จ ทำพิธีพัทธสีมาแล้วทำพิธีบวช โดยมี พระมหาเถื่อน อุชุกโร เป็นพระอุปัชฌาย์, พระลี ฐิตธัมโม เป็นพระกรรมวาจารย์ และ พระโง่น โสรโย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2495 เวลา 09.45 น. ณ วัดเจริญราษฎร์ เสร็จแล้วก็เดินทางกลับมาที่วัดตาลนิมิต อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร