- 26 ส.ค. 2559
ติดตามข่าวเพิ่มได้ที่ www.tnews.co.th
ในปัจจุบันผู้คนต่างให้ความใส่ใจในเรื่องสุขภาพอนามัย การเสริมสร้างบุคลิกภาพให้ดูดี จึงทำให้ตลาดเครื่องสำอางของไทยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีอัตราเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 10 ซึ่งนับว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ในปี 2558 เครื่องสำอางมีมูลค่าตลาดในประเทศถึง 2.1 แสนล้านบาท แบ่งเป็นตลาดในประเทศ 1.2 แสนล้านบาท และตลาดส่งออกที่ทำรายได้ให้ประเทศกว่า 9 หมื่นล้านบาท
แต่ในขณะเดียวกันการนำเข้าเครื่องสำอางจากต่างประเทศก็มีแนวโน้มสูงขึ้น อย่างในปี 2558 มีมูลค่านำเข้ากว่า 3 หมื่นล้านบาท ถึงแม้จะมีมูลค่าน้อยกว่าการส่งออก แต่ก็เป็นตัวเลขที่น่าจับตามอง เนื่องจากเครื่องสำอางเป็นสินค้าแฟชั่น ความนิยมโดยเฉพาะในหมู่วัยรุ่นขึ้นกับกระแสความนิยมในดาราต่างชาติ ดังนั้นการพัฒนาเครื่องสำอางเพื่อให้เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคจำเป็นต้องมีงานวิจัยสนับสนุน
ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร ผู้แทนกรรมการบริหารมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า มูลนิธิฯ ได้มีการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อส่งเสริมการพึ่งตนเองด้านสุขภาพของประเทศ และได้เสนอแนะภาครัฐให้ส่งเสริมการวิจัยพัฒนาเครื่องสำอางจากภูมิปัญญาไทยเพื่อสร้างดุลการค้า ทั้งนี้ การพัฒนาเครื่องสำอางจากสมุนไพรที่ผ่านมา ได้นำภูมิปัญญาสมุนไพรไทยมาใช้เป็นฐานในการพัฒนา ประกอบกับค้นคว้าการศึกษาวิจัยสมัยใหม่ที่ช่วยสนับสนุนการใช้สมุนไพรไทยนั้น ๆ และจากการทำงานกว่า 20 ปี ได้ค้นพบว่าสมุนไพรไทยถูกจดสิทธิบัตรโดยต่างชาติแล้วมากกว่า 100 ฉบับ สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าสมุนไพรไทยมีประสิทธิภาพและปลอดภัย และมีศักยภาพที่สามารถมาพัฒนาต่อยอดให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจได้
ภญ.ดร.สุภาภรณ์ กล่าวต่อว่า ในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติครั้งที่ 13 นี้ ทางมูลนิธิฯ จะรวบรวมสมุนไพรที่สามารถนำมาพัฒนาเป็นเครื่องสำอางได้หลากหลายชนิด โดยเฉพาะเรื่องฝ้าที่นับเป็นปัญหาของหญิงไทย เราก็จะนำเสนอสมุนไพรที่ใช้ได้ดีกับฝ้า ที่บางชนิดมีงานวิจัยและสิทธิบัตรในต่างประเทศแล้ว อย่าง มะขามป้อม ใบฝรั่ง หัวกลอย มะหวด ดู่ท่ง ตาลเดี่ยว เมล็ดบานเย็นและผักเบี้ยใหญ่ หรือกระแสของเวชสำอาง หรือ Cosmeceuticals ที่รวบรวมคุณสมบัติของเครื่องสำอางกับยาไว้ด้วยกันนั้น มีสมุนไพรที่น่าจะสามารถนำมาพัฒนาเป็นเวชสำอางต่อได้ อย่างอัญชัน ขมิ้นชัน บัวบก รางจืด ว่านหางจระเข้ ดาวเรือง ความรู้เหล่านี้เรารวบรวมไว้ในหนังสือบันทึกแผ่นดิน 9 สมุนไพรในภาวะโลกร้อน ที่แจกจ่ายให้กับประชนหรือผู้ประกอบการที่สนใจฟรีวันละ 200 เล่มในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ
" เราหวังว่าองค์ความรู้ภูมิปัญญาที่บันทึกในหนังสือจะจุดประกายให้ผู้ประกอบการหรือภาครัฐนำสมุนไพรไทยไปพัฒนาเป็นเครื่องสำอางและเวชสำอาง เพื่อสร้างมูลค่าเศรษฐกิจ ลดการนำเข้าได้มากขึ้น " ภญ.ดร.สุภาภรณ์ กล่าว
ผู้สนใจสมุนไพรและความรู้ภูมิปัญญาสามารถเข้าร่วมงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติครั้งที่ 13 ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม – 4 กันยายน 2559 อิมแพ็คเมืองทองธานี อาคาร 6-8 สนใจสอบถามข้อมูลได้ที่ 037-211-289