- 29 ก.ย. 2559
ติดตามข่าวเพิ่มได้ที่ www.tnews.co.th
วันนี้ ( 29 ก.ย.) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เวลา 09.00 น. นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาทางวิชาการ จัดโดยสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ในหัวข้อ "สถาบันพระมหากษัตริย์กับความมั่นคงของชาติ" ตอนหนึ่งความว่า สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่คู่สังคมไทยมายาวนานและช่วยให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากวิกฤต โดยเฉพาะรอดพ้นจากการเป็นประเทศอาณานิคมของชาติตะวันตก ทรงเสียสละและประกอบพระราชกรณียกิจเพื่อปวงชนชาวไทย ด้วยพระอัจริยะภาพ
นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กับความมั่นคงภายในประเทศ" สรุปความได้ว่า ขณะนี้โลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง เราต้องระมัดระวังตัว เตรียมสติเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งมีผลกระทบทั้งดีและร้าย เราต้องปรับตัวให้ได้ รัฐบาลได้ประกาศนำประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ซึ่งจะทำให้เราเดินสู่ความสำเร็จได้ แต่ต้องไม่ประมาท ต้องติดตามประเมินยุทธศาสตร์ทั้งรับและรุก
กล่าวสำหรับประเทศไทย ไม่กี่ปีมานี้พฤติกรรมคอร์รัปชั่นลุกลามไปทั่ว เปรียบเหมือนปลวกที่กำลังกัดกินบ้าน จนบ้านเกือบพังไปแล้วทั้งหลัง ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาใหม่ เกิดมาเป็นร้อยกว่าปี ในสมัยรัชกาลที่ 5 ก็ทรงห่วงปัญหานี้ มาถึงรัฐบาลชุดนี้ได้ประกาศให้เป็นปัญหาเร่งด่วน กระบวนการยุติธรรม ถ้าตรงไปตรงมา คนทุกชนชั้นสามารถพึ่งได้ คนโกงจะน้อยลงและถ้าปฏิรูปในส่วนนี้ สังคมจะสงบสุขขึ้น
" พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับสั่งกับองคมนตรี จะพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อจัดตั้งโครงการกองทุนการศึกษา เมื่อปี 2555 โดยมีพระราชประสงค์ให้สร้างโรงเรียนเพื่อสร้างคนดีให้กับบ้านเมือง ซึ่งมีความหมายมาก เพราะการศึกษา ที่จะทำให้คนมีคุณธรรม จริยธรรม ซึ่งจะส่งผลให้บ้านเมืองสงบกว่านี้ หน่วยงานของรัฐต่างๆ ก็ต้องช่วยกันสร้างคนดีให้บ้านเมืองด้วยเช่นกัน ถึงแม้พระองค์ได้ทรงรับสั่งว่า การสร้างคนดีเป็นเรื่องยากและยาวไม่ใช่เรื่องง่ายและสั้น จึงต้องเชิญทุกคนร่วมกันเป็นอาสาสมัครจึงจะช่วยได้เยอะ ที่ผ่านมา บ้านเมืองแบ่งสี แบ่งข้าง เผาบ้านเผาเมือง จึงทรงรับสั่งเรื่องการศึกษาว่า ให้สอนคนให้รู้จักการทำงานกันเป็นหมู่คณะและเอื้อเฟื้อต่อกัน ซึ่งไม่ใช่เฉพาะสังคมไทย แต่สังคมโลกก็ทำแบบนี้" องคมนตรี กล่าวและว่า พระองค์ยังทรงรับสั่งย้ำว่า ขอให้เป็นหน้าที่การสร้างคนดีให้บ้านเมือง แม้จะเป็นเรื่องยาก แต่พระองค์ทรงให้กำลังใจ และถ้าข้าราชการสร้างคนดีให้เกิดขึ้นในหน่วยงานต่างๆ ได้ประเทศจะเข้มแข็ง และจะสามารถเดินตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีได้ เชื่อว่าเป็นเรื่องที่ไม่ไกลเกินเอื้อม
อย่างไรก็ตาม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเฝ้ามองคนไทยมาตลอด 70 ปี ในฐานะพระมหากษัตริย์ ทรงดูแลช่วยเหลือราษฎรทุกหมู่เหล่า มีโครงการในพระราชดำริที่เข้าไปช่วยเหลือในพื้นที่ต่างๆ และมีคุณูปการที่ทรงสอนให้เราเฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงและเตรียมรับมือการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น รวมถึงแนวพระราชดำริเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่จะเป็นแนวทางเพื่อการบริหารอย่างยั่งยืน ซึ่ง นายกรัฐมนตรีได้นำแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปเผยแพร่ในการประชุม G77 ด้วย