คีย์แมนคดีรถหรู  !!! "อัยการ" เลื่อนสั่งคดี "รถเบนซ์สมเด็จช่วง"...มาฟังเหตุผลจากทนาย ทำไม "หลวงพี่แป๊ะ" ไม่มาตามนัด

หลังคณะทำงานอัยการคดีพิเศษ 1 นัดฟังคำสั่งคดีรถยนต์เบนซ์โบราณ ทะเบียน ขม 99 กรุงเทพมหานคร ในความครอบครองของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วงเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ที่มีพระมหาศาสนมุนี (ธนก

หลังคณะทำงานอัยการคดีพิเศษ 1 นัดฟังคำสั่งคดีรถยนต์เบนซ์โบราณ ทะเบียน ขม 99 กรุงเทพมหานคร ในความครอบครองของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วงเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ที่มีพระมหาศาสนมุนี (ธนกิจ ศรีอุ่นเรือน) หรือหลวงพี่แป๊ะ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และเอกชนประกอบกิจการอู่รถ กับชิ้นส่วนรถโบราณ ตกเป็นผู้ต้องหา นั้น

 

ล่าสุด นายสุรพงษ์ สิทธิกรณ์ ทนายความของหลวงพี่แป๊ะ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้ส่งทีมทนายไปที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก เพื่อยื่นคำร้องต่อพนักงานอัยการ โดยระบุว่าหลวงพี่แป๊ะอาพาธ ต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ไม่สามารถเดินทางมาฟังคำสั่งคดีได้ อัยการจึงเลื่อนนัดสั่งคดีออกไป เป็นวันที่ 19 ธันวาคม 2559

 

ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้เดินทางมายื่นคำร้องขอความเป็นธรรมให้กับหลวงพี่แป๊ะ ถึงกรณีที่พนักงานสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ไม่ดำเนินคดีกับนายวิชาญ รัษฐปานะ เจ้าของอู่วิชาญ บุคคลที่ขายรถเบนซ์โบราณคันดังกล่าวให้หลวงพี่แป๊ะ ทั้งที่ นายวิชาญ ซึ่งเป็นผู้ขายต้องทราบดีอยู่แล้วว่ารถคันดังกล่าวเสียภาษีไม่ครบถ้วน แต่กลับนำมาขายให้ จึงร้องขอให้พนักงานอัยการมีคำสั่งให้ ดีเอสไอ สอบสวนนายวิชาญ เพิ่มเติมด้วย

ย้อนกลับไป หลังจากที่กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอออกมายืนยันอย่างชัดเจนว่ารถเบนซ์ของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ เป็นรถผิดกฎหมาย

 

พร้อมกับเปิดเผยรายชื่อของตัวละครสำคัญที่คาดว่าน่าจะถูกดำเนินคดีทั้งหมด ฐานกระทำผิดกฎหมายตามข้อกล่าวต่างๆนั้น เพื่อให้เกิดความชัดเจนเราจะได้ย้อนมาพิจารณาว่าบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ว่านั้นมีใครบ้าง

1.หลวงพี่แป๊ะ ก็คือพระมหาศาสนมุนี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ซึ่งเป็นผู้ที่ไปติดต่อให้อู่แห่งหนึ่งทำการประกอบรถยนต์

2.นายวิชาญ รัษฐปานะ เจ้าของอู่รถโบราณวิชาญ ซึ่งเป็นผู้ทำหน้าที่ประกอบรถยนต์คันดังกล่าวขึ้น

3.นายชลัช  นิติฐิติวงษ์  เป็นผู้ที่นำเอาเอกสารไปชำระภาษีสรรพสามิต แต่ได้มีการปลอมลายเซนต์ ของนางกาญจนา  มากเหมือน เจ้าของ อู่ N.P.การาจ

4.นายสมนึก บุญประไพ ที่ได้รับการว่าจ้างจากนายชลัชให้นำรถไปจดทะเบียนที่กรมการขนส่งทางบกและได้มีการปลอมลายเซนต์ของนางกาญจนาก่อนจะทำการโอนลอยไปให้กับสมเด็จช่วง

5.ผู้ครอบครองรถ ก็คือสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ

 และจากพฤติการณ์ทั้งหมดของกลุ่มบุคคลดังกล่าว ก็คาดกันว่าจะถูกดำเนินคดีมากกว่า 10 ข้อหาเลยทีเดียว

  ทั้งนี้ จากข้อเท็จจริงทั้งหมดผู้ที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าและจดประกอบรถคันดังกล่าว ต้องถูกดำเนินคดีไม่น้อยกว่า 10 ข้อหา ประกอบด้วย

1.ร่วมกันหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร

2.ร่วมกันซ่อนเร้น จำหน่าย เอาไปเสีย ซื้อหรือรับไว้โดยประการใด ทั้งที่รู้ว่าเป็นของที่นำเข้าในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากร

3.ร่วมกันขายหรือมีไว้เพื่อขายสินค้า ซึ่งรู้ว่ามิได้เสียภาษี

4.ครอบครองซึ่งสินค้าโดยรู้ว่าเป็นสินค้าที่ไม่ได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน

5.แจ้งข้อความเป็นเท็จ ตอบคำถามด้วยถ้อยคำอันเป็นเท็จ นำพยานหลักฐานเท็จมาแสดง

6.ร่วมกันทำผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่มีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ต้องเป็นไปตามมาตรฐานโดยไม่ได้รับอนุญาต

7.ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน

8.ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ

9.ร่วมกันปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม

10.ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร

12.พ.ร.ก.พิกัดอัตราศุลกากร

13.พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต

14.พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม

15และกฎหมายอาญา มาตรา 137, 267, 264, 265 และ 268

ทั้งนี้จากการตรวจสอบของสำนักข่าวทีนิวส์ จากข้อมูลในเวปไซต์ alittlebuddha.com พบว่ามีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับหลวงพี่แป๊ะและ ความสัมพันธุ์ระหว่างวัดปากน้ำภาษีเจริญและวัดธรรมกาย เป็นจำนวนมาก

 

 

พระมหาศาสนมุนี พระโนเนม จากเด็กถือย่ามตามก้นสมเด็จวัดปากน้ำ วันนี้ พาสชั้นขึ้นเป็น "กรรมการโครงการหมู่บ้านศีลห้าระดับประเทศ" สามารถ "คุมวัดปากน้ำ" ได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ถึงขนาด "ออกงานเปิดป้ายสำนักงานหมู่บ้านศีลห้า" ในวัดปากน้ำเสียเอง ก็ไม่รู้ว่า นอกจากสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์แล้ว วัดปากน้ำคงไม่มีพระเถรานุเถระผู้มีอายุพรรษา วิทยฐานะ และตำแหน่งแห่งหนอื่นๆ อีกแล้ว ถึงได้ปล่อยให้ให้ "พระมหาศาสนมุนี " ออกหน้า เสมือนเป็นเจ้าอาวาสวัดปากน้ำเสียเอง งานนี้ก็ชี้ชัดว่า "แค่ในวัดปากน้ำเองยังไม่สมานฉันท์กันเลย" ทุกคนต่างโบ้ยออกนอกตัว ไม่มีใครช่วยงานสมเด็จ โยนให้พระมหาศาสนมุนี ทำคนเดียว ทั้งๆ ที่คุยแล้วคุยอีกว่า เป็นโครงการของสมเด็จฯและรัฐบาล เป็นโครงการแห่งชาติ โครงการนี้แหละที่จะ "รื้อโครงสร้างการบริหาร" ภายในวัดปากน้ำอย่างพลิกแผ่นดิน

 

 

ทำเนียบพระราชาคณะวัดปากน้ำ

1. สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ ป.ธ.9) เจ้าอาวาส ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช

2. พระวิสุทธิวงศาจารย์ (วิเชียร อโนมคุโณ ป.ธ.9) รองเจ้าอาวาส เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ กรรมการมหาเถรสมาคม

3. พระพรหมโมลี (สุชาติ ธมฺมรตโน ป.ธ.9) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส เจ้าคณะภาค 5 แม่กองบาลี กรรมการมหาเถรสมาคม

4. พระธรรมรัตนากร (สงัด อํสุมาลี) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส

5. พระเทพปริยัติวงศ์ (พาย ภทฺทโก) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส

6. พระเทพวรเวที (บุญศรี ปุญฺญสิริ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส

7. พระราชสุตาภร์ (ประชัน ฐิตปญฺโญ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส

8. พระราชมังคลาจารย์ (พุ่ม อคฺคธมฺโม) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส

9. พระปริยัติกวี (สุบิน ธีรวํโส ป.ธ.9) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส

10. พระปิฎกโกศล (นิกร มโนกโร ป.ธ.9) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส

11. พระศรีคัมภีรญาณ (สมจินต์ สมฺมาปญฺโญ ป.ธ.9) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส

12. พระศาสนานุรักษ์ (ทรงเกียรติ ปุณฺฑริโก) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส

13. พระวิเชียรกวี (วิศิษฏ์ ทสฺสนีโย) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส

14. พระมหาศาสนมุนี (ธนกิจ สุภาโว) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส

15. พระวิเทศโพธิคุณ (ผดุงพงษ์ สุวํโส) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส

16. พระศาสนพิลาส (ไพรัตน์ ฐิตเปโม) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส

17. พระปิฎกเมธี (ทองดี ปญฺญาวชิโร ป.ธ.9) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส

18. พระวิเทศธรรมมงคล (น้อม กาญจนรํสี) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส

19. พระมหาสิทธิวิเทศ (สิทธิผล สิทฺธิผโล) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส

 

 

จำนวนพระภิกษุสามเณร วัดปากน้ำภาษีเจริญ

 พระภิกษุ 243 รูป

 สามเณร 59 องค์

 แม่ชี 127 ท่าน

 

 

เรียบเรียงโดย ชนุตรา สำนักข่าวทีนิวส์