อึ้งกันทั้งโลก!! ยก"ธัมมชโย"เป็นสถาบัน  ถวายฎีกาอ้างระงับเหตุรุนแรงระหว่างจนท.รัฐกับสถาบันพระพุทธศาสนา

ติดตามข่าวเพิ่มได้ที่ www.tnews.co.th

วันนี้ ( 9 ธ.ค. 59)  จากกรณีมีข่าวออกมาว่าคณะศิษยานุศิษย์พระเทพญาณมหามุนีหรือพระธัมมชโยประกาศล่ารายชื่อทางออนไลน์ และนำรายชื่อยื่นถวายฎีกาเพื่อให้ยุติการดำเนินคดีกับพระธัมมชโยเมื่อเวลา15.30 น.ที่ผ่านมานั้น  สำหรับรายละเอียดในหนังสือที่จะยื่นถวายฎีการะบุว่า 


เรื่อง  การกราบบังคมทูลฯถวายฎีการ้องทุกข์ ขอพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อม ระงับเหตุรุนแรงอันจะบังเกิดขึ้นได้ ระหว่างสถาบันชาติกับสถาบันพระพุทธศาสนา
 
เนื่องด้วยขณะนี้ สถานการณ์ส่อว่าจะบังเกิดเหตุรุนแรง ระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐกับสถาบันพระพุทธ ศาสนา อันเนื่องมาจากการดำเนินการโดยไม่เป็นธรรม ดังนี้

1. การดำเนินการของพนักงานสอบสวนในคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด และคดีอื่นที่เกี่ยวโยงกัน มีความไม่เป็นธรรมหลายประการ  อาทิ มีการแจ้งความดำเนินคดี และพนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อหาคณะศิษยานุศิษย์ที่ช่วยกันบริจาคเงินเพื่อเยียวยาแก่สหกรณ์ฯคลองจั่น   ว่ามีความผิดข้อหาเรี่ยไร ทั้งที่เงินนั้นก็เป็นเงินของศิษยานุศิษย์แต่ละท่าน และเสียสละมาเยียวยาแก่สหกรณ์ฯ ตามข้อตกลงในศาล และศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ถอนฟ้องทั้งวัดพระธรรมกายและพระเทพญาณมหามุนี อีกทั้งสหกรณ์ฯ  ทั้งนี้ ยังมีหนังสือขอบคุณแก่คณะศิษยานุศิษย์  เจ้าหน้าที่ของรัฐแทนที่จะมอบรางวัลแสดงความชื่นชมในน้ำใจเสียสละให้กับศิษยานุศิษย์ แต่คณะศิษยานุศิษย์กลับถูกดำเนินคดีตกเป็นผู้ต้องหา แสดงถึงเจตนาในการหาเรื่องกลั่นแกล้งไม่เป็นธรรม

2. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) ได้ดำเนินคดีพระเทพญาณมหามุนี ข้อหาบุกรุกป่า และข้อหาก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างทับลำรางสาธารณะ ที่สวนป่าหิมวันต์ อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย และที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมเวิลด์ พีซ จังหวัดนครราชสีมา ตามลำดับ โดยอ้างอิงความเห็นของนายวิฑูรย์ ชลายนนาวิน ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญการวิเคราะห์แผนที่ภาพถ่ายทางอากาศของศาล   ทั้งที่นายวิฑูรย์ฯ ซึ่งเคยเป็นอดีตรองอธิบดีกรมป่าไม้ และถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เพราะทำความผิดฐานวิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศบิดเบือนความจริง สร้างความเสียหายต่อราชการหลายกรรมหลายวาระ และสำนักงานศาลยุติธรรมไม่ต่อทะเบียนการเป็นผู้เชี่ยวชาญฯของศาล 

นายวิฑูรย์ฯ จึงมิได้เป็นผู้เชี่ยวชาญฯของศาลแล้ว ซึ่งทางวัดพระธรรมกายได้ขอให้ผู้เชี่ยวชาญฯของศาลที่แท้จริง วิเคราะห์ตรวจสอบด้วยแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศของกรมแผนที่ทหาร ปรากฏผลการตรวจสอบว่า พื้นที่ดังกล่าวไม่ได้อยู่ในเขตป่า และไม่มีลำรางสาธารณะแต่อย่างใด  แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส. กลับเลือกที่จะเชื่อผลการวิเคราะห์ฯของนายวิฑูรย์ฯ ซึ่งมีพฤติกรรมมัวหมองร้ายแรงจนถูกไล่ออกจากราชการ ไม่เชื่อผลการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญฯของศาลที่แท้จริง และไปขอออกหมายจับพระเทพญาณมหามุนี

3.  กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ขอให้ กสทช.สั่งหยุดการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม DMC โดยไม่มีการไต่สวน ทั้งที่เนื้อหามีแต่การสวดมนต์ นั่งสมาธิ สอนธรรมะให้ประชาชนเป็นคนดี

4.  พฤติกรรมดังกล่าวข้างต้นของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส.โดยการนำของพลตำรวจเอกศรีวราห์ฯ  ทำให้คณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายมีความรู้สึกว่าพระเทพญาณมหามุนีและวัดพระธรรมกายถูกกลั่นแกล้งดำเนินคดีโดยไม่เป็นธรรม สร้างความรู้สึกทุกข์ร้อนคับแค้นใจอย่างแสนสาหัส

5.  พลตำรวจเอกศรีวราห์ฯ ได้แถลงข่าวแก่สื่อมวลชนว่า  ขณะนี้ได้เตรียมกำลังตำรวจ 6 - 7 กองร้อย พร้อมบุกเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย  เพื่อจับกุมตัวพระเทพญาณมหามุนี  โดยได้เตรียมสุนัขตำรวจ  เฮลิคอปเตอร์  หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด  และได้ประสานไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียงให้เตรียมแพทย์พยาบาล  ส่อให้เห็นว่าจะใช้ความรุนแรงเข้าปราบปรามจับกุมคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย  ที่มาสวดมนต์นั่งสมาธิอยู่ในวัดจำนวนนับหมื่นคนด้วยความเป็นห่วงพระเทพญาณมหามุนี  ซึ่งจะทำให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก จะกลายเป็นข่าวอื้อฉาวสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ประเทศชาติในสายตาชาวโลกอย่างยิ่ง และจะเป็นบาดแผลความขัดแย้งอย่างลึกซึ้ง ระหว่างสถาบันชาติกับสถาบันพระพุทธศาสนาอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ชาติไทย

6.  ในช่วงเวลานี้เป็นห้วงเวลาพิเศษที่ชาวไทยทั้งประเทศรวมถึงคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย  ได้ร่วมใจกันจัดพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นประจำทุกวัน  ยิ่งกว่านั้นยังเป็นโอกาสมหามงคลอันประเสริฐที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ได้เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นมิ่งขวัญของประชาชนชาวไทย ควรจะเป็นห้วงเวลาที่ชาวไทยทุกคนได้สมานฉันท์เป็นหนึ่งเดียวกันรักษาสังคมบ้านเมืองที่สงบสันติสุขเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเสริมพระบรมเดชานุภาพของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยให้ปรากฏแก่ชาวโลก ไม่ควรที่จะมีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ เกิดขึ้น  ซึ่งคณะศิษย์วัดพระธรรมกายได้ร่วมใจกันเจริญพระพุทธมนต์บทธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ครบจำนวน 10,101,010 จบ เป็นครั้งแรกของโลก เพื่อเฉลิมฉลองเทิดพระเกียรติการขึ้นทรงราชย์เป็นรัชกาลที่ 10 ในพระบรมราชจักรีวงศ์ ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร

7.  เวลานี้เหลือที่พึ่งสุดท้ายหนึ่งเดียวที่จะพึ่งได้คือ สถาบันพระมหากษัตริย์ จึงจำต้องขอพระบรมราชานุญาตกราบบังคมทูลถวายฎีการ้องทุกข์ต่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร อันเปรียบประดุจพระบิดาของประชาชนชาวไทยทั้งชาติ 
เพื่อขอพึ่งพระบารมีให้ยุติการดำเนินคดีที่มิชอบดังกล่าวข้างต้น  และมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ความรุนแรงทำร้าย ทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายต่อประชาชนผู้เป็นพสกนิกรของพระองค์ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นผู้หญิงและคนชรา
 
คณะศิษยานุศิษย์พระเทพญาณมหามุนี
9 ธันวาคม 2559