ปะการังยังทำลาย!!!...ศูนย์ปฏิบัติธรรม หรือรีสอร์ท สาขาธรรมกาย เกาะยาวน้อย จัดไปอีก1ข้อหา(รายละเอียด)

วานนี้ 22 ธันวาคม  เจ้าหน้าที่ ตรวจสอบกรณีมูลนิธิธรรมกายบุกรุกที่ดิน ป่าสงวนแห่งชาติควนจุก เกาะยาวน้อย นั้น วานนี้ (22 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากร ทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 นำโดย นายสุชาติ รัตนเรืองศรี ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลพร้อมด้วยพนักงานสอบสวนสภ.เกาะยาว เข้าตรวจสอบพื้นที่สวนมุกตะวัน 1 ม.4 ต.เกาะยาวน้อย อ.เกาะยาว จ.พังงา ซึ่งเป็นสถานปฏิบัติธรรมของวัดธรรมกาย หลังจากที่ นายวัชรินทร์ ถิ่นถลาง ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่ 6 ได้รับการประสานจากผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พบมีการครอบครองซากปะการังจำนวนมาก

 

 จากการตรวจสอบพบ มีการนำซากปะการังหลายชนิดไปถมเป็นพนังกั้นป้องกัน การพังทลายของดินเป็นเนื้อที่กว้าง 1 เมตร ยาว 25 เมตร รวม 25 ตารางเมตร และนำซากปะการังไปประดับตกแต่งบริเวณโคนต้นไม้และอาคารที่พัก ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 19 ห้ามครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าสงวน หรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง และมีความผิดตาม มาตรา 47 จำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงได้ทำการตรวจยึดซากปะการังบางส่วนจำนวน 30 ก้อน และเศษซากชิ้นเล็กๆ น้ำหนักรวม 37 กิโลกรัม ส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจ อำเภอเกาะยาว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับเจ้าของและผู้ครอบครองสวน มุกตะวัน 1 ต่อไป

 

สำหรับ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535

มาตรา 19 ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าสงวน หรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง         เว้นแต่จะเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดที่กำหนดตามมาตรา 17 ที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ หรือซากของสัตว์ป่าดังกล่าว และโดยต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดี และ.ต้องปฏิบัติตามของกำหนดในกฎกระทรวงและเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตการขออนุญาตและการอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง    ความในวรรคหนึ่งและวรรคสอง มิให้ใช้บังคับแก่

    (1) การครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองของผู้รับใบอนุญาตเพาะพันธุ์ตามมาตรา 18 (1) ที่มีไว้เพื่อการเพาะพันธุ์หรือได้มาจากการเพาะพันธุ์ หรือซากของสัตว์ป่าดังกล่าว

    (2) การครอบครองสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าสงวนหรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครองเพื่อกิจการสวนสัตว์สาธารณะของผู้รับใบอนุญาตให้จัดตั้งและดำเนินกิจการสวนสัตว์สาธารณะตามมาตรา 29 และได้จัดแสดงไว้ในสวนสัตว์สาธารณะที่ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งขึ้น

 

  มาตรา 47 ผู้ใดฝ่าฝืน มาตรา 16  มาตรา19  มาตรา 20 วรรคหนึ่งหรือมาตรา 23วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน สี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

 

ย้อนกลับไป เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ด้านความมั่นคง พล.ต.อ.เดชา ชวยบุญชุม รรท.ที่ปรึกษา (สบ10) คณะตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทหารเรือ กรมป่าไม้ ได้เดินทางไปยังเกาะยาวน้อย อ.เกาะยาว จ.พังงา เพื่อตรวจสอบกรณีมูลนิธิธรรมกายบุกรุกที่ดิน ป่าสงวนแห่งชาติควนจุกเกาะยาวน้อย

  

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า จากการตรวจพื้นที่เกาะยาวน้อย มีการสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรมเวิล์ดพีซมุกตะวัน 3 แห่ง พบ พื้นที่มุกตะวัน 1 มีพื้นที่ทั้งหมด 137 ไร่ ไม่มีเอกสารสิทธิ จำนวน 40 ไร่ เป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 21 ไร่ เป็นพื้นที่ป่าไม้ 19 ไร่ คิดเป็นมูลค่าเสียหาย 2.7 ล้านบาท และจากการตรวจสอบของกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) พบว่า พื้นที่ดังกล่าวมีมูลนิธิธรรมกาย เป็นผู้ถือครองโดยมี พระธัมมชโย เป็นประธานจากการตรวจสอบมีการอ้างว่า มีเอกสารสิทธิ นส.3 ก. จำนวน 33 แปลง รวม 140 ไร่ ซึ่งเป็นของมูลนิธิธรรมกาย จำนวน 28 แปลง มีนายเพชร์ แก่นทรัพย์ อายุ 54 ปี ชาว อ.ภูเรือ จ.เลย ถือครอง 4 แปลง และ มี น.ส.นวลนิตย์ หงส์วิวัฒน์ ถือครองจำนวน 1 แปลง ตรวจสอบพบว่าที่ดินของนายเพชร์ มีการเพิกถอนเอกสารสิทธิ ไปแล้ว 1 แปลง จำนวน 13 ไร่ 75 ตารางวา เมื่อปี 2547 จากการตรวจสอบพบว่านายเพชร์ ยังเป็นผู้รับมอบจากมูลนิธิธรรมกายหรือเรียกว่านอมินี รวมทั้งว่า นาย เพชร์ มีความเชื่อมกับการรุกป่าในพื้นที่อื่นๆ ด้วย เช่น วัลเล่ย์เวิลด์พีซ จ.เลย

 

นอกจากนี้ ยังพบการก่อสร้างอาคาร 18 หลังในมุกตะวัน 1 บนเกาะยาวน้อย และพบว่าเคยก่อสร้างลานจอดเฮลิคอปเตอร์ด้วย แต่เพิ่งมีการรื้อถอนเมื่อไม่นานมานี้ ทั้งนี้ได้สั่งการให้กรมป่าไม้ตรวจพื้นที่ป่าที่มีการบุกรุก แผ้วถาง อ้างเอกสารสิทธิ สร้างอาคาร โดยให้ตรวจสอบว่าการอนุญาตให้สร้างอาคาร แผ้วถาง ของ อบต.เกาะยาว ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ พร้อมทั้งให้ตรวจสอบการเสียภาษีต่างๆ

  

จากการตรวจสอบพบพิรุธในการออกเอกสารสิทธิในพื้นที่ มุกตะวัน 1  น.ส. 3 ก. เลขที่ 963 เกาะยาวน้อย เดิมที่ดินมีเพียง 2 ไร่ 80 ตารางวา มีการโอนสิทธิหลายครั้งจนกระทั่งเมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2539 มีการโอนจากผู้ได้สิทธิเดิมให้มูลนิธิธรรมกาย แต่พบว่าพื้นที่นี้มีการขยายจาก 2 ไร่ เป็น 15 ไร่ 2 งาน 72 ตารางวา และเมื่อดูรูปแปลงที่ดินแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

 

ทั้งนี้ในพื้นที่มุกตะวัน 1 มีที่ดิน น.ส. 3 ก.บวม รวม 4 แปลง มุกตะวัน 2 ที่ดินบวม 1 แปลง มุกตะวัน 3 ที่ดินบวม 3 แปลง ต้องเสนออธิบดีกรมที่ดินตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ และดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้อง"

  

นอกจากนี้ ยังพบว่ามูลนิธิธรรมกาย มีการขายแพกเกจปฏิบัติธรรม ตั้งแต่ราคา 1,900-5,900 บาท ถือเป็นการใช้พื้นที่ป่าโดยมิชอบหาประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งให้สรรพากรตรวจสอบเก็บภาษี ทั้งนี้แม้เป็นมูลนิธิแต่กลับมีการหารายได้ และจากการตรวจ นายเพชร์ พบว่า เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2549 มูลนิธิธรรมกายตั้งอยู่เลขที่ 23/2 ม.7 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้มอบอำนาจให้ทำนิติกรรมรับโอนที่ดินแก่นาย เพชร์ ซึ่งครั้งนั้นมีกรรมการมูลนิธิ 13 ราย แบ่งเป็นพระสงฆ์ 9 รูป และบุคคลทั่วไป 4 ราย โดยมีพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ตำแหน่งสมัยนั้น) หรือพระธัมมชโย เป็นประธานกรรมการ และมีพระปลัดสุธรรม สุธัมโม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดธรรมกายปัจจุบันเป็นกรรมการและเลขานุการ

 

ส่วน มุกตะวัน 2 มีการถือครองพื้นที่ทำประโยชน์ 162 ไร่ ระบุชื่อนายเพชร์ แก่นทรัพย์ เป็นผู้ครอบครอง แต่ตรวจสอบพบเป็นพื้นที่ไม่มีเอกสารสิทธิ และอยู่ในพื้นที่ป่าสวงวนแห่งชาติ รวม 82 ไร่ มูลค่าเสียหาย 5.6 ล้านบาท

 

 

ด้านมุกตะวัน 3 มีการยึดครองพื้นที่ทำประโยชน์ 100 ไร่ แต่เมื่อตรวจไม่มีเอกสารสิทธิและตรวจสอบพบอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนฯ 44 ไร่ มูลค่า เสียหาย 3 ล้านบาท อย่างไรก็ตามรวมพื้นที่รุกป่าของมูลนิธิธรรมกายและนอมินิ รวมทั้ง 166 ไร่

 

 

การบุกรุกพื้นที่ทั้งหมดเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ. 2484 ประมูลไม้ที่ดินพ.ศ. 2497 พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507

 

 

สำหรับ อำเภอเกาะยาว ตั้งอยู่ในจังหวัดพังงาเกาะยาว มีพื้นที่ประมาณ 137.6 ตร.กม. ประกอบด้วย 2 เกาะใหญ่ คือ เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่ อีกทั้งยังถูกล้อมรอบด้วยเกาะเล็กๆ อีกมากมาย มีอาณาเขตทางทะเลติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียงดังต่อไปนี้

 

ทิศเหนือ ทะเลอันดามันและอ่าวพังงา

ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอเมืองกระบี่ (จังหวัดกระบี่) และอ่าวพังงา

ทิศใต้ ติดต่อกับทะเลอันดามัน

ทิศตะวันตก ทะเลอันดามัน

 

การปกครองส่วนภูมิภาค อำเภอเกาะยาวแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 3 ตำบล 18 หมู่บ้าน ได้แก่

1.            เกาะยาวน้อย        (Ko Yao Noi)                       7 หมู่บ้าน              

2.            เกาะยาวใหญ่        (Ko Yao Yai)                         4 หมู่บ้าน              

3.            พรุใน                       (Phru Nai)                            7 หมู่บ้าน              

 

การปกครองส่วนท้องถิ่น

ท้องที่อำเภอเกาะยาวประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 4 แห่ง ได้แก่

เทศบาลตำบลเกาะยาว ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลเกาะยาวน้อย

เทศบาลตำบลพรุใน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลพรุในทั้งตำบล

เทศบาลตำบลเกาะยาวใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลเกาะยาวใหญ่ทั้งตำบล

องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะยาวน้อย ครอบคลุมพื้นที่ตำบลเกาะยาวน้อย (เฉพาะนอกเขตเทศบาลตำบลเกาะยาว)

 

 

เรียบเรียงโดย ชนุตรา สำนักข่าวทีนิวส์