- 06 ม.ค. 2560
ติดตามข่าวเพิ่มได้ที่ www.tnews.co.th
วันนี้ ( 6 ม.ค.) นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังประชุมศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยด้านการแพทย์และสาธารณสุข ติดตามการช่วยเหลือด้านแพทย์ประชาชนประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ว่า ขณะนี้มีสถานพยาบาลได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วมภาคใต้ 102 แห่งใน 9 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี พัทลุง นราธิวาส ตรัง สงขลา ยะลา ปัตตานี และชุมพร แต่ยังสามารถให้บริการได้ตามปกติ โดยมีสถานพยาบาลที่ต้องเฝ้าระวังใกล้ชิดอีก 66 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ซึ่งได้มอบหมายให้ นพ.เจษฏา ฉายคุณรัฐ สาธารณสุขนิเทศก์เขตสุขภาพที่ 11 ไปประจำที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยด่านหน้าของกระทรวงมหาดไทยที่ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อร่วมวางแผนช่วยเหลือประชาชน และได้กำชับให้สถานพยาบาลจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการประชาชนในพื้นที่เข้าถึงบริการยากลำบาก และให้ รพ.สต.ออกเยี่ยมให้บริการผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้สูงอายุ อย่างต่อเนื่อง และได้ส่งหน่วยแพทย์จากจังหวัดพังงา ภูเก็ต รวมทั้งทีมแพทย์สนามฉุกเฉินในเขตภาคใต้ 10 ชุด (MERT) ไปช่วยเหลือการจัดบริการประชาชน ขณะที่ส่วนกลางได้สนับสนุนยาและเวชภัณฑ์ไปแล้ว กว่า 200,000 ชุด
"นอกจากนี้ ยังกำชับให้หน่วยงานต่างๆ ของ สธ.สนับสนุนช่วยเหลือเหตุน้ำท่วมในครั้งนี้ โดยมอบให้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ผลิตยาชุดน้ำท่วมสำรองไว้ให้เพียงพอด้วย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ส่งอาหารน้ำดื่มสนับสนุน กรมสุขภาพจิตส่งทีมดูแลสภาพจิตใจผู้ประสบภัย กรมอนามัยสนับสนุนคลอรีนดูแลความสะอาดของน้ำ กรมควบคุมโรคเฝ้าระวังโรคระบาด และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ส่งทีมวิศวกรสำรวจความเสียหายหลังน้ำลด โดยมอบให้ นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองปลัด สธ.เป็นผู้ประสานงานและดูแลสถานการณ์น้ำท่วม" นพ.โสภณ กล่าว
นพ.โสภณ กล่าวยืนยันว่า สธ.ยังสามารถจัดการดูแลผู้ป่วยได้ แม้เป็นกรณีผู้ป่วยฉุกเฉินในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมก็ตาม อย่าง รพ.ชะอวด จ. นครศรีธรรมราช ซึ่งสถานการณ์ยังมีแนวโน้มท่วมต่อเนื่อง ขณะนี้ได้ย้ายผู้ป่วยหนักที่ต้องใช้ออกซิเจนไปยังไปยังโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราชแล้ว จำนวน 8 รายแล้ว เนื่องจากน้ำยังเข้ามาไม่ถึงตัวโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เพียงแต่ท่วมรอบๆโรงพยาบาลเท่านั้น ซึ่งได้เตรียมมีการเครื่องสูบน้ำไว้แล้วหากน้ำทะลักเข้ามา ส่วนผู้ป่วยทั่วไปอีก 40 รายที่เหลือนั้น หากระดับน้ำยังไม่ลดในวันที่ 7 ม.ค. ก็มีแผนจะส่งต่อผู้ป่วยไปโรงพยาบาลใกล้เคียง โดยมีหน่วยทหารในพื้นที่ให้การสนับสนุน
ด้าน นพ.ประภาส จิตตาศิรินุวัตร รองอธิบดี สบส. กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์ มีโรงพยาบาลได้รับผลกระทบ จำนวน 3 แห่ง ประกอบด้วย รพ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช น้ำท่วมบริเวณรอบนอกด้านหน้าโรงพยาบาล สูงประมาณ 1 เมตร การเดินทางเข้าออกยากลำบาก และ รพ.หลังสวน จ.ชุมพร ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 1 เมตร การเดินทางยากลำบาก สามารถให้บริการได้เฉพาะตึกผู้ป่วยใน สำหรับการดำเนินการของ สบส.มี 4 เรื่องเร่งด่วน ได้แก่ 1.ระดมทีมวิศวกรฉุกเฉิน 9 ทีม จากทั้งส่วนกลางและภูมิภาค ประกอบด้วย ทีมวิศวกรเครื่องมือแพทย์ การดูแลฟื้นฟูเครื่องมือแพทย์ ระบบไฟฟ้า ระบบการสื่อสารให้พร้อมใช้งาน และทีมวิศวกรโยธา ดูแลในส่วนอาคารสถานที่ ระบบบำบัดน้ำเสีย ให้มีความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง 2.จัดเตรียมระบบการสื่อสารสำรองในสถานพยาบาล 14 จังหวัดภาคใต้ ให้พร้อมใช้งานหากระบบการสื่อสารปกติไม่สามารถใช้การได้ 3.จัดชุดปฐมพยาบาล จำนวน 300 ชุด ให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ใช้ในการปฏิบัติงานดูแลผู้ประสบภัยที่เจ็บป่วย ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในบ้าน โดยในชุดปฐมพยาบาลประกอบด้วย ชุดทำแผล ยาแก้ปวดลดไข้ ยารักษาโรคน้ำกัดเท้า ผงน้ำตาลเกลือแร่ เป็นต้น และ 4.ระดมเรือท้องแบน/เรือไฟเบอร์ จากสำนักงานสนับสนุนบริการสุขภาพ เขต 3 จ.นครสวรรค์ อีก 5 ลำ เพื่อสนับสนุนเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานในพื้นที่น้ำท่วม
วิทย์ณเมธา สำนักข่าวทีนิวส์