จะปรองดองกับพวกล้มเจ้าได้อย่างไร!!?? แฉจะๆ พฤติกรรมสุดต่ำช้า มีสายสัมพันธ์อย่างไรกับพรรค-มวลชนไหน!!??(รายละเอียด)

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) กล่าวถึงกรณีรัฐบาลตั้งคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความปรองดอง (ป.ย.ป.) ว่า ตนสนับสนุนในสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช.ดำเนินการทั้งยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ เนื่องจากเป็นเจตนารมย์ของมวลมหาประชาชนในการสร้างระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

แต่อย่างไรก็ตาม มีความเป็นห่วงเรื่องแนวทางในการสร้างความปรองดอง เนื่องจากจะต้องไม่ไปลบล้างความผิดมาตรา 112 หรือล้างความผิดคนเผาบ้านเผาเมือง รวมถึงความผิดของบุคคลที่ฆ่า ทหาร ตำรวจ และประชาชน เนื่องจากจะทำให้เกิดปัญหาในอนาคต

 

 

 

เราจะยกตัวอย่าผู้ที่มีพฤติกรรมดังที่กล่าวมาข้างต้นดังนี้

มนูญ ชัยชนะ หรือ เอนก ชัยชนะ หรือ เอนก ซานฟราน

 

สำหรับประวัติของ มนูญ ชัยชนะ หรือ เอนก ชัยชนะ หรือ เอนก ซานฟราน แหล่งข่าวในสหรัฐฯ ระบุว่า นายเอนกเดิมทีเป็นคนกรุงเทพฯ มีภูมิลำเนาอยู่ใกล้ค่ายทหารถนนสามเสน บิดาเป็นอดีตนายตำรวจยศร้อยตำรวจโทนอกราชการ ก่อนมาอยู่อเมริกานายเอนกเคยเป็นทหารและอาศัยอยู่ในประเทศอิสราเอลจนได้รับสัญชาติและถือหนังสือเดินทางอิสราเอล
     
เอนกเข้ามาอยู่ที่เมืองซานฟรานซิสโก มลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกาตั้งแต่ราว 20 ปีก่อน โดยมาอาศัยทำงานอยู่กับพี่ชายชื่อ นายธนู ชัยชนะ ที่ร้านอาหาร Your Place เมืองเบิร์กเลย์ ทั้งยังออกหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ชื่อสยามนิวส์ และเป็นคอลัมนิสต์ในหนังสือนิวชุมชนของเชาว์ ซื่อแท้ โดยเชาว์นั้นเป็นอดีตบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งในประเทศไทย และในเวลาต่อมากลายเป็นแกนนำกลุ่มเสื้อแดงในนครลอสแองเจลิส
     
ในส่วนของชีวิตครอบครัว ในหมู่คนไทยในซานฟรานซิสโกต่างทราบดีว่า เมื่อมาใช้ชีวิตในสหรัฐฯ เอนก เป็นคนกว้างขวาง ทั้งยังเจ้าคารมคมคาย ทำให้ต่อมาแต่งงานอีกสองครั้งกับสาวไทยในสหรัฐฯ และมีทายาททั้งหญิงและชายหลายคน

เอนก ซานฟราน มีธุรกิจร้านอาหารหลายสาขาโดยใช้ชื่อว่า King of Thai Noodle หรือราชาก๋วยเตี๋ยวเรือ ขณะเดียวกันก็เปิดบ้านให้คนไทยเช่าด้วย สำหรับร้านก๋วยเตี๋ยวที่เป็นธุรกิจหลักของเอนกนั้น เขาเคยร่วมหุ้นกับนายตำรวจใหญ่ของไทยหลายนายเพื่อเปิดสาขา King of Thai Noodle บนถนน Taraval โดยนายตำรวจกลุ่มดังกล่าวหลายคนเมื่อส่งลูกหลานมาเรียนที่ซานฟรานซิสโก ก็อาศัยให้นายเอนกช่วยดูแล
     
 ร่ำลือกันว่าสถานที่ปักหลักอีกหนึ่งแห่ง คือ วัดพุทธประธีป ซานฟรานซิสโก ในเมืองซานบรูโน โดยเอนกสนิทสนมกับเจ้าอาวาสพระพุทธประทีป ชื่อ พระครูวรสิทธิวิเทศ (สิทธิพร มิตรวิเชียร) โดยวัดนี้มีโอกาสต้อนรับคนในตระกูลชินวัตรหลายครั้ง ทั้งนี้เมื่อมีชาวไทยมาถือป้ายต่อต้านระบอบทักษิณ นายเอนกก็มักจะออกมาข่มขู่ขับไล่
     
 เมื่อครั้ง ทักษิณ ชินวัตร บินมาเยือนนครซานฟรานซิสโกในเดือนสิงหาคม 2555 นายเอนก ชัยชนะ ได้เปิดร้านอาหาร King of Thai Noodle สาขานอร์ทบีชของตนให้ พ.ต.ท.ทักษิณใช้รับประทานอาหารค่ำกับคณะนักธุรกิจเอเชีย-อเมริกัน ด้วย

“นายเอนก ชัยชนะ นักธุรกิจร้านอาหารในเมืองซานฟรานซิสโก เจ้าของร้านอาหาร King of Thai Noodle แกนนำคนเสื้อแดงในซานฟรานฯ ได้ปิดร้านอาหารตั้งแต่เวลา 19.00 น. เพื่อจัดงานเลี้ยงต้อนรับ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นการส่วนตัว โดยมีการขึ้นป้ายภายในร้านว่า ‘คนเสื้อแดงซานฟรานฯ ยินดีต้อนรับ ฯพณฯ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร’ โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงในซานฟรานฯ เดินทางเข้ามาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด...”

นอกจากนี้ ที่ร้านอาหารดังกล่าวของนายเอนกยังใช้เป็นที่เปิดตัวสำนักงานองค์กรภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน หรือทีเอเอชอาร์ (The Thai Alliance for Human Rights : TAHR) เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ความช่วยเหลือเรื่องสิทธิมนุษยชนของคนไทยทั่วโลกที่อยู่ในต่างประเทศและในประเทศไทย ซึ่งมีนายเพียงดิน รักไทย ดำรงตำแหน่งประธาน ทั้งนี้ไม่เพียงนายเพียงดิน ซึ่งมีชื่อกระฉ่อนในการจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงที่รู้จักสนิทสนมกับนายเอนก แต่ยังมี นายชูพงศ์ ถี่ถ้วน “โรส ฉัตรวดี” หรือ น.ส.ฉัตรวดี อมรพัฒน์ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลซึ่งหลบหนีหมายจับคดีหมิ่นเบื้องสูง
 

เดือนสิงหาคมปี 2549 นายเอนกเคยถูกกลุ่มคนไทยในแคลิฟอร์เนียหลายสิบคนเข้าชื่อแจ้งความต่อสถานกงสุลไทยในลอสแองเจลิสให้ดำเนินคดีข้อหาหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์จากกรณีการเลือกตั้ง 2 เม.ย.เป็นโมฆะ ทั้งนี้เป็นที่ทราบกันดีว่านายเอนกมักจะออกรายการวิพากษ์วิจารณ์การเมือง และกล่าววาจาดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูงในรายการชื่อความจริงประเทศไทยอยู่บ่อยครั้ง โดยมีการเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ยูทิวบ์ และเว็บไซต์ของกลุ่มคนเสื้อแดง
ด้วยเหตุนี้ชื่อของ เอนก ซานฟราน จึงติดอยู่ในรายชื่อผู้ต้องหาคดีพิเศษที่เข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูงของกรมสอบสวนคดีพิเศษถึง 2 คดี ได้แก่คดีพิเศษที่ 41/54 กล่าวหา นายมนูญ หรือ เอนก ชัยชนะ เผยแพร่คลิปภาพและเสียงเนื้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ฯ ผ่านเว็บไซต์

และคดีพิเศษที่ 42/54 กล่าวหา นายมนูญ หรือ เอนก ชัยชนะ โทรศัพท์แสดงความคิดเห็นกับสื่อท้องถิ่นประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2549 กรณีการเลือกตั้งเป็นโมฆะ มีข้อความพาดพิงสถาบันเบื้องสูง มีการดำเนินการขอให้มีการส่งตัวนายมนูญเป็นผู้ร้ายข้ามแดน แต่เนื่องจากสหรัฐอเมริกาไม่มีความผิดข้อหานี้ จึงไม่เข้าเงื่อนไขของการส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน
 

หลังการรัฐประหาร 22 พ.ค. 57 นายเอนกมีรายชื่ออยู่ในลำดับที่ 10 ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 49/2557 ลงวันที่ 4 มิ.ย. 57 เรื่องให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม โดยในเวลานั้น นายเอนกให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าจะไม่เดินทางกลับมารายงานตัวต่อ คสช.เด็ดขาดโดยระบุว่าเพราะตนเป็นพลเมืองของประเทศอื่น ทั้งยังขู่ที่จะฟ้ององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) อีกด้วย ทั้งนี้หลังรัฐประหาร 2557 เฟซบุ๊กร้านอาหาร King of Thai Noodle ยังปรากฎว่ามีการโพสต์เผยแพร่ข้อมูลของคนเสื้อแดงและการต่อต้านรัฐประหารในประเทศไทยจำนวนมาก

 

ดารุณี กฤตบุญญาลัย

สำหรับพฤติกรรมของดารุณี กฤตบุญญาลัย ทางสำนักข่าวทีนิวส์ได้สรุปโดยรวมมาให้ดังนี้

22 ก.พ. 2555 ท็อคโชว์บนเวทีปราศรัย ในงานครบรอบ 1 ปีการถูกจองจำของนาย สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ ด้วยการพูดคำสรรพนามถึงบุคคลที่สามว่า ไอ้นั่นกับอีนี่ พร้อมกับพูดถึงความหมายโดยอ้อมว่าเรื่องราวของบุคคลทั้งสอง ถูกปิดเป็นความลับ ทำให้ประชาชนหูหนวกตาบอดเป็นใบ้ เพราะเห็นอะไรก็พูดไม่ได้

ในงานฌาปนกิจศพนายอำพล ตั้งนพกุลเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2555 นางดารุณีก็พูดถึงประมวลกฎหมายอาญามาตรา112 ว่าเป็น "มาตราบังคับรัก"

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 31ธ.ค.2554 ในงาน COUNTDOWN หน้าเรือนจำพิเศษ ด้วยการร้องเพลงตะโกนบอกฟ้า ซึ่งเป็นรหัสลับในหมู่คนเสื้อแดง ที่ต่างรู้กันดีว่าฟ้าที่ว่านั้นหมายถึงใคร

การพูดถึงวาทะกรรมฟ้า ถูกตอกย้ำครั้งแล้วครั้งเล่า ยกตัวอย่างการปราศรัยที่ อ.พนัสนิคม เมื่อวันที่ 5 ก.พ.2555 ว่า สิทธิมนุษยชนคนไทย จะต้องเท่าเทียมกัน / กฎหมายไม่บังคับใช้อย่างเท่าเทียมกันแล้วจะอยู่กันอย่างไรในประเทศนี้ จึงอยากจะตะโกนบอกฟ้า ถ้าคุณเข้าใจความเป็นมนุษย์ทุกคน ว่าเราคือเสรีชน สุรชัย , สมยศ , ดาร์ ตอปิโด ต้องได้สิทธิขั้นพื้นฐานในการประกันตัว

อีกครั้งที่เวทีวงเวียนใหญ่ วันที่ 4 ส.ค.2555 หลังจากร้องเพลงตะโกนบอกฟ้า ก็ได้ ชื่นชมสมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ ที่ทรงร่วมพิธีเปิดลอนดอนเกมส์ 2012 พร้อมกับทำการเปรียบเทียบว่าความเคารพเป็นสิ่งที่ต้องทำให้ได้มา ไม่ใช่การบังคับ หรือออกคำสั่ง ไม่มีใครสามารถสั่งให้ใครรักใครได้ ม.112 เป็นมาตราที่มันรอนกดขี่ ปชช.

แม้นางดารุณีจะไม่กล่าวโจมตีสถาบันแบบตรงไปตรงมา แต่จากพฤติกรรมที่หมิ่นเหม่เหล่านี้ ก็น่าที่จะเพียงพอต่อการแสดงให้เห็นถึงเจตนาที่แท้จริงของนางดารุณีได้เป็นอย่างดีใช่หรือไม่ และคงเรียกว่าสิ้นข้อกังขาเมื่อการร้องอีกหนึ่งบทเพลงสัญลักษณ์ของคนเสื้อแดง เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2555 ที่มีชื่อเพลงว่า“ลุงสมชาย ป้าสมจิตร”

เพลงที่มีชื่อว่าลุงสมชาย ป้าสมจิต ถือเป็นอีกบทเพลงที่กระจายตัวอยู่ในหมู่คนเสื้อแดง โดยทั้งผู้ร้องและผู้ฟังต่างรู้ดีว่า ลุงสมชาย และป้าสมจิตร นั้นหมายถึงใคร

 วาทะกรรมลุงสมชาย ป้าสมจิตร ไม่ได้ถูกมาทำเฉพาะบทเพลงเท่านั้น แต่ยังมีการนำเสนอเป็นเรื่องราว ซึ่งถูกเผยแพร่อย่างกว้างขวางในเวปไซต์ของคนเสื้อแดง พร้อมกับการเฉลยด้วยว่าลุงสมชายและป้าสมจิตรคือใคร จนต้องมีการบล็อกเวปไซต์ที่นำเสนอเนื้อหาดังกล่าว แต่ทว่าฝ่ายคนเสื้อแดงก็พยายามทุกวิถีทางในการหาช่องทางนำเสนอ

สำนักข่าวที-นิวส์จำเป็นต้องทำการเซ็นเซอร์ เนื้อหาดังกล่าวบนเวปไซต์ของคนเสื้อแดง เนื่องจากเนื้อหาแทบทั้งหมดมีการพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์แทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น การบิดเบือนข้อมูลเรื่อง ลุงสมชายผู้พอเพียง ลุงสมชายร่ำรวยมหาศาลจริงหรือไม่ โครงการของลุงสมชายช่วยประชาชนไทยได้จริงหรือ เป็นต้น

ด้วยการฉายข้อมูลทั้งหมดทั้งมวล เชื่อว่าคุณผู้ชมหรือแม้แต่ตัวของนางดารุณีเอง ก็น่าที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร โดยเฉพาะนางดารุณีนั้นก็ควรที่จะบอกความจริงที่อยู่ในจิตใจของตนให้คนเสื้อแดงและคนไทยทั้งประเทศได้รับทราบว่ามีอุดมการณ์อย่างไรต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

 

เพราะการบอกว่าตนเองมีความจงรักภักดีและไม่เคยคุกคามสถาบันนั้น ล้วนเป็นคำพูดที่ดูจะสวนทางกับการกระทำที่เกิดขึ้นทั้งหมด และที่สำคัญควรประกาศจุดยืนของตนเองต่อสังคมให้ชัดเฉกเช่นนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล นายใจ อึ้งภากรณ์ นายชูพงศ์ ถี่ถ้วน และอีกหลายต่อหลายคน ที่เลือกแสดงทรรศนะอย่างเปิดเผยต่อสถาบันและก็ไม่ใช่แค่เพียงนางดารุณีเท่านั้น แกนนำนปช.และคนเสื้อแดงเหล่านี้ ก็คงถึงเวลาแล้วที่จะต้องประกาศจุดยืนให้ชัดเจนเช่นเดียวกัน เพราะหากเชื่อมั่นว่าสิ่งที่พูดและนำเสนอออกมาเป็นความจริง ก็ต้องกล้าที่จะเผชิญหน้า

สุนัย จุลพงศธร

ปัจจุบันนายสุนัย ที่หลบหนีไปอยู่ต่างประเทศ จากกรณีการฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. รวมไปถึงประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

และนอกจากนี้นายสุนัยยังเคลื่อนไหวผ่านทางโซเซียลมีเดีย ทางเฟซบุ๊คและยูทูป โจมตีสถาบันฯอย่างต่อเนื่อง

โดยล่าสุดได้ไปพบปะกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มาร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นกับคนเสื้อแดงที่ลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องในงานรำลึก 6 ตุลา 2519

ภายในงานมีการเตรียมโพเดียมให้นายทักษิณ ด้านหลังมีป้ายผ้าข้อความ ทักษิณ ชินวัตร จักยืนอยู่ในใจไทยรากหญ้า มีการพูดคุยสลับการถามคำถามตลอดเวลา เนื้อหาบางตอนนายทักษิณกล่าวว่า วันนี้ห่วงวิธีคิด ความแตกสามัคคี กระบวนการยุติธรรม สิ่งเหล่านี้เป็นแมคโคร ต้องรีบแก้ไข

ถ้าใครไม่แก้ แล้วมัวแต่มามองหน้าผม จะเขียนกฎหมายก็มานั่งมองหน้าผม พยายามไม่พูดไม่จา เพื่อไม่ให้เขาเห็นหน้าผม ไม่ไปยุ่ง ไม่ไปเกี่ยว เพื่อที่เขาจะได้ไม่เห็นหน้าผม ไม่รู้ที่บ้านเขามีรูปหน้าผมหรือเปล่า" (มวลชนและนายทักษิณหัวเราะชอบใจ)

จากนั้นคนเสื้อแดงในอเมริกาได้ตั้งคำถามว่า จะทำอย่างไรให้บ้านเรากลับมาเป็นเหมือนเดิม ต้องหาหมอผีมาปราบหรือไม่ นายทักษิณตอบว่า เจ้าของบ้านอย่ากลัวผี ถ้าเจ้าของบ้านไม่กลัว หมอผีก็ไม่มีความหมาย ผมยืนยันว่าไม่ใช่ผี ยินดีร่วมมือให้บ้านเมืองกลับมา ผมก็เฉยอยู่ ไปของผมไปเรื่อย แต่ก็มาสร้างข่าว ไม่เคยตอบโต้ เฉย รังแกน้องผมอย่างไม่เป็นธรรม ผมก็เฉย อดทนอยู่ จนแฟนหลายๆ คนทนไม่ไหวบอก ทำไมยอมเขาขนาดนี้ ก็ไม่อยากไปเป็นปัญหา อยากให้ทุกสิ่งทุกอย่างคลี่คลาย แต่ไม่เชื่อว่าจะทำได้ เพราะเขาเดินผิดทาง ยิ่งเดินยิ่งเป็นวัวพันหลัก ทหารนี่ ไม่ถามก็ไม่อยากเสือก เราพูดภาษาลูกทุ่ง อยู่เมืองนอกไม่ค่อยได้ยิน เดี๋ยวภาษาไทยเก่าๆ จะลืม"

 

มวลชนอีกคนถามว่า ถ้ามีโอกาสกลับไป หรือน้องสาวกลับมามีอำนาจอีกครั้ง ช่วยเอาเรื่องธรรมชาติ หรือศีลธรรมกลับมาได้หรือไม่ นายทักษิณซึ่งเป็นศิษย์แถวหน้าธรรมกายตอบมาว่า ผมนั่งสมาธิ แล้วก็อธิษฐาน ปวารณา ถ้าผมมีกรรมอะไรก็แล้วแต่ แต่เมื่อไหร่ มีโอกาสกลับไปประเทศไทย ผมปวารณาว่า ผมจะจรรโลงพระพุทธศาสนา

นายทักษิณยังกล่าวว่า การจะทำยุทธศาสตร์มันจะต้องเข้าใจโลกและเข้าใจตัวเอง เข้าใจโลกคือโลกไปไกลขนาดนี้ เรามีความสามารถจะไปไกลที่สุดได้แค่ไหน ไม่ใช่ใกล้หรือไกลที่สุดแค่ไหน แต่ไอ้นี่เข้าเกียร์ถอยหลัง เสร็จแล้วเร่งคันเร่งใหญ่เลย วันนี้เป็นห่วงสภาพบ้านเรา ยังไงสายเลือดมันก็คนไทย เจาะดีเอ็นเอออกมาตนก็เป็นคนไทย ผูกพันประเทศไทย และรักคนไทย ถึงแม้จะอยู่ที่นี่มานาน แต่ใจมันยังเป็นไทย เพราะเราไม่ลืมกำพืด ไม่ลืมถิ่นกำเนิด ไม่ลืมแผ่นดินของเรา

ไม่ต้องมาผลักว่าคนนั้นเป็นอย่างนั้นอย่างงี้ คนผลักทั้งหลายคือคนเห็นแก่ตัว ทำเพื่อตัวเองทั้งนั้น

วันนี้เป็นห่วงว่าถ้าเมืองไทยมัวแต่ทะเลาะกันเรื่องเหลืองๆ แดงๆ มีน้ำท่วมก็โทษรัฐบาลที่แล้ว สรุปแล้ว นายกฯ ปูนี่เป็นกระโถน แต่รัฐบาลก่อนหน้าบอกว่าบริหารจัดการน้ำไม่ดี น้ำท่วม พอมาถึงไอ้ตรงนี้ น้ำท่วมรัฐบาลที่แล้วไม่ดี สรุปแล้วคือว่าตกลงรัฐบาลก่อนไม่ดี หรือรัฐบาลหลังไม่ดีกันแน่"

เขาบอกว่า วันนี้ประเทศไทยเราควรจะไปได้ไกลกว่านี้ เสียดาย 10 ปีที่ผ่านมา เพราะไม่พอใจตนคนเดียว อุตส่าห์ปฏิวัติตั้งสองรอบ ปฏิวัติพี่แล้วยังปฏิวัติน้องอีก ไล่น้องเขยอีก วันนี้ก็เลยบอกว่า หยุดพักกันซักพักแล้วดูสิว่าเป็นยังไง แต่ปัญหาคือแล้วจะเอาชาติไปไหน จะพาไปไหน พาเข้าค่ายทหารหรือ "ขายยางก็ต้องขายดาวอังคาร มะนาวแพงก็ต้องปลูกเอง ผมไม่มีกองร้อยให้ปลูก"

นายทักษิณยังกล่าวถึงการเลือกตั้งและประเด็น นายกฯ คนนอกว่า การเลือกตั้งคราวหน้าเชื่อว่าแดงสไลด์อีกตามเคย แต่ที่เขาบอกว่าต้องยกมือให้นายกฯคนนอกนั้น ตนไม่ใช่นายกฯ คนนอก แต่เป็นนายกฯ เมืองนอก

Jirasak Tnews