- 17 ม.ค. 2560
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกเข้าจับกุมกลุ่มคนที่แอบอ้างว่าสามารถช่วยเหลือบุคคลที่ต้องการเข้ารับราชการทหารได้ โดยปลอมตัวใส่ชุดทหารและมีการจัดพิธีประดับยศให้จนเหยื่อหลงเชื่อเสียค่าดำเนินการให้กว่าล้านบาท
วันที่ 17 มกราคม 2560 พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ ผกก.6 บก.ป. พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ธราดล เหมพัฒน์ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.6 บก.ป. พ.ต.ท.สมบัติ มีมงคล สว.กก.6 บก.ป.ได้นำกำลัง พร้อมหมายศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 30-33/2560 ลงวันที่ 16 มกราคม 2560 เข้าตรวจค้นจับกุม นายธนินพัฒน์ จันทร์เรือง อายุ 31 ปี, น.ส.พนิดา มหรรฆตระกูล อายุ 36 ปี และ นายวัฒนา เพ็ชรปัญญา อายุ 35 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2042-44/2560 ลงวันที่ 19 ตุลาคม 2559 ตามลำดับ ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยจับกุมนายธนินพัฒน์ ได้ที่บ้านเลขที่ 9/32 ซอยสถิตยุทธการ 4 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี ส่วน น.ส.พนิดา จับกุมได้ที่ บ้านเลขที่ 39/294 หมู่บ้านสิริกานต์ ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี และ นายวัฒนา จับกุมตัวได้ที่บ้านเลขที่ 71/391 หมู่ 4 หมู่บ้านพฤกษา ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี
สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้มีกลุ่มผู้เสียหายซึ่งเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด รวม 5 คน ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป.เพื่อให้ดำเนินคดีกับ น.ส.เสาวนีย์ กับพวก รวม ทั้งหมด 9 คน ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากทั้งหมดอ้างว่ามีโควต้าสามารถช่วยเหลือบุคคลที่ต้องการเข้ารับราชการทหารได้ โดยไม่ต้องสอบบรรจุและได้มีการจัดพิธีประดับยศให้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี ซึ่งกลุ่มของ น.ส.เสาวนีย์ ได้แต่งเครื่องแบบทหาร เพื่อปลอมตัวหลอกว่าเป็นทหารยศสูง มาเข้าร่วมพิธีการดังกล่าวด้วย ทำให้ผู้เสียหายยิ่งหลงเชื่อและเข้าใจว่าได้เข้ารับราชการทหารแล้ว ทางผู้เสียหายจึงได้จ่ายเงินค่าดำเนินการให้กับ น.ส.เสาวนีย์ รวมเป็นเงินกว่า 1.43 ล้านบาท ซึ่งเหตุเกิดในพื้นที่ จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดนนทบุรี จังหวัดนครนายก และจังหวัดปทุมธานี โดยเหตุเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย.58 ถึงวันที่ 27 ส.ค.59 ต่อเนื่องกัน แต่ผู้เสียหายมาทราบภายหลังว่าถูก น.ส.เสาวนีย์ กับพวก ร่วมกันหลอกลวงและไม่ได้เข้าเป็นทหารแต่อย่างใด จึงรวมตัวกันเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกลุ่มทหารปลอมดังกล่าว โดยทาง พ.ต.อ.สมพงษ์ มอบหมายให้ พ.ต.ท.ธราดล ประสานกับพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป. เร่งรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ กระทั่งได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว 9 ราย แต่ขณะนี้ยังคงเหลือ น.ส.เสาวนีย์ สุนทร อายุ 24 ปี, นายธณรัสย์ นภิศสิริปภัสร์ อายุ 35 ปี, นายกฤตานนท์ หรือสุภัทร์ มั่งคล้าย อายุ 35 ปี และผู้ต้องหาที่ยังไม่ทราบชื่ออีก 3 ราย ที่ยังอยู่ระหว่างหลบหนีคดี
หลังจากสอบสวน น.ส.พนิดา ได้ให้การปฏิเสธกับทางเจ้าหน้าที่ โดยอ้างว่าตนเองก็เป็นหนึ่งในผู้เสียหายที่ถูก น.ส.เสาวนีย์ หลอกลวงว่าสามารถช่วยเหลือให้เข้ารับราชการทหาร สังกัดกรมยุทธศึกษาทหารบก ในตำแหน่ง ร.ต.หญิง แต่หลังจากเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ได้มอบเงินค่าดำเนินการไป 3 แสนบาท ต่อมาในเดือนมีนาคม น.ส.เสาวนีย์ ได้นัดหมายให้ตนไปพบที่หน้าที่ทำการภายในกรมยุทธศึกษาทหารบก โดยที่ น.ส.เสาวนีย์ แต่งกายคล้ายเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร มีเสื้อคลุมสีขี้ม้า ออกมารับ แล้วจัดการเกี่ยวกับเรื่องเอกสาร พร้อมกับพาไปตัดเครื่องแบบทหาร ทำให้ตนยิ่งเกิดความเชื่อถือ ซึ่งภายหลังจากเวลาผ่านไปนานกว่า 6 เดือนแล้ว ก็ยังไมได้เข้ารับราชการแต่อย่างใด จึงพยายามสอบถามไปยัง น.ส.เสาวนีย์ แต่กลับถูกบ่ายเบี่ยง สุดท้ายตนไม่สนใจที่จะเข้าเป็นทหารแล้ว จึงขอเงินค่าดำเนินการคืน ซึ่ง น.ส.เสาวนีย์ ยอมคืนเงินให้เพียง 6 หมื่นบาทเท่านั้น
นอกจากนี้น.ส.พนิดา ยังให้การอีกว่า ในช่วงระยะเวลา 6 เดือนที่ตนเองเข้าใจว่าได้เข้ารับราชการทหารในยศ ร.ต.หญิง แล้ว ยังถูก น.ส.เสาวนีย์ หลอกลวงให้แต่งเครื่องแบบทหารไปที่บ้านพักของ น.ส.เสาวนีย์ เพื่อไปให้โอวาทกับบุคคลที่จะเข้ารับราชการเป็นนายสิบทหารบกอีกด้วย ตนจึงขอยืนยันว่าเป็นผู้ที่ถูก น.ส.เสาวนีย์ หลอกลวง เช่นกัน ทั้งนี้ ชุดจับกุมยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ โดยควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป.เพื่อรับไว้ดำเนินคดีและขยายผลติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือมาดำเนินคดีต่อไป
อย่างไรก็ตามในส่วนของการแต่งเครื่องแบบทหารโดยไม่มีสิทธินั้น ทางพนักงานสอบสวนได้ประสานไปยังกองบัญชาการกองทัพบก กองบัญชาการกองทัพไทย และสำนักปลัดกระทรวงกลาโหมเพื่อพิจารณาดำเนินคดีในข้อหา แต่งกายเครื่องแบบทหารที่ยังใช้ในราชการโดยไม่มีสิทธิ ตาม พ.ร.บ.เครื่องแบบทหาร มาตรา 6 ต่อไป
เรียบเรียงโดย สำนักข่าวทีนิวส์...สินีนุช






