มาแล้ว!!! "พระทัตตชีโว" เดินเข้ารับทราบข้อกล่าวหา พบอัยการตามหมายเรียก เหลือก็แต่ "พระธัมมชโย" เท่านั้น!! (รายละเอียด)

ยิ้มระรื่น!?!? "ทัตตชีโว" มารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว เหลือก็แต่ "ธัมมชโย" !! (รายละเอียด)

วันนี้(22 มี.ค.60) เวลาประมาณ 08.40 นายปัญญา หัวหน้าทีมทนายความลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย ได้เดินทางมาถึง สำนักงานอัยการธัญญบุรี ทั้งนี้นายปัญญา ยืนยันว่า พระทัตตชีโว และพระมหาสมชายจะเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาแน่นอนและยืนยันว่าจะต่อสู้คดี 

การเข้าพบพนักงานอัยการ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ตามหมายเรียก ฝ่าฝืนคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)  พระทัตตชีโว หรือพระเผด็จ ทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายและพระมหาสมชาย  ฐานวุฑโฒ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เดินทางมาที่สำนักงานอัยการจังหวัดธัญบุรี ในเวลาประมาณ 09.30 น. โดยใช้เวลาในการเซ็นรับทราบข้อกล่าวหาประมาณ 5 นาที จากนั้นก็ขึ้นรถกลับทันที โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ เพียงแต่ยิ้มให้กับสื่อเท่านั้น
 
นายปัญญา ถาวรอัครนิล ทนายความ ที่ดูแลด้านกฎหมายให้พระผู้ใหญ่ของวัดพระธรรมกาย ระบุว่า ในวันนี้ทางอัยการนัดให้พระทัตตชีโว และ พระมหาสมชายเข้ามาเซ็นรับทราบข้อกล่าวหาเพียงเท่านั้น โดยพนักงานอัยการไม่ได้สอบถามหรือพูดคุย กับพระทัตตชีโว และพระมหาสมชาย แต่ได้นัดให้พระทั้ง 2 รูป ให้มารับฟังความเห็นของพนักงานอัยการว่าจะมีความเห็นสั่งฟ้อง หรือ ไม่ฟ้อง ในวันที่ 28 มีนาคมนี้ พร้อมยืนยันว่าจะต่อสู้คดีให้ถึงที่สุด และจะเอาความจริงเข้าสู้ตามกฎหมาย นายปัญญา ระบุว่า ส่วนตัวรับดูแลเพียงคดีฝ่าฝืนคำสั่งคสช. เพียงคดีเดียวเท่านั้น ส่วนคดีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับพระทัตตชีโว ยังไม่ได้รับมอบหมาย

 

มาแล้ว!!! "พระทัตตชีโว" เดินเข้ารับทราบข้อกล่าวหา พบอัยการตามหมายเรียก เหลือก็แต่ "พระธัมมชโย" เท่านั้น!! (รายละเอียด)

มาแล้ว!!! "พระทัตตชีโว" เดินเข้ารับทราบข้อกล่าวหา พบอัยการตามหมายเรียก เหลือก็แต่ "พระธัมมชโย" เท่านั้น!! (รายละเอียด)

พระทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสและอดีตรักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาขัดคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังเหลือเพียงแต่ พระธัมมชโยที่ยังไม่มารับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าว

มาแล้ว!!! "พระทัตตชีโว" เดินเข้ารับทราบข้อกล่าวหา พบอัยการตามหมายเรียก เหลือก็แต่ "พระธัมมชโย" เท่านั้น!! (รายละเอียด)

มาแล้ว!!! "พระทัตตชีโว" เดินเข้ารับทราบข้อกล่าวหา พบอัยการตามหมายเรียก เหลือก็แต่ "พระธัมมชโย" เท่านั้น!! (รายละเอียด)

 "พระทัตตชีโว" ที่ "ธัมมชโย" ไว้ใจที่สุด

มาแล้ว!!! "พระทัตตชีโว" เดินเข้ารับทราบข้อกล่าวหา พบอัยการตามหมายเรียก เหลือก็แต่ "พระธัมมชโย" เท่านั้น!! (รายละเอียด)

 

พระทัตตชีโว ถือเป็นบุคคลสำคัญอันดับที่ 2 รองจากพระธัมมชโยในวัดพระธรรมกาย โดยมีความสัมพันธ์กันมาตั้งแต่ครั้งเป็นนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์รวมทั้งมีพระอุปัชฌาย์เดียวกันคือ เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ (ช่วง วรปุญโญ ป.ธ.9) ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่ พระเทพวรเวที

 

นอกจากนี้ยังศึกษาปฏิบัติธรรมเรียน “วิชชาธรรมกาย” กับ “คุณยายอาจารย์จันทร์ ขนนกยูง” ที่บ้านธรรมประสิทธิ์ ในวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ร่วมกันอีกต่างหาก

ถ้าจะเปรียบว่า คุณยายจันทร์ ขนนกยูง เป็นเสมือนจอมทัพในการก่อร่างสร้างอาณาจักรธรรมกาย เปรียบพระธัมมชโยเป็นเสนาธิการผู้คอยวางแผน พระทัตตชีโวก็เป็นขุนศึกผู้นำทัพลงสู่การปฏิบัติที่เป็นจริงไม่ว่าจะเป็นการจัดซื้อจัดหาที่ดินนับพันไร่ การสร้างศาสนสถาน สร้างอาคารปฏิบัติธรรม ฯลฯ ล้วนได้แม่ทัพชื่อ พระทัตตชีโว เข้าไปบริหารจัดการให้ลุล่วงไป

 

มาแล้ว!!! "พระทัตตชีโว" เดินเข้ารับทราบข้อกล่าวหา พบอัยการตามหมายเรียก เหลือก็แต่ "พระธัมมชโย" เท่านั้น!! (รายละเอียด)

พระทัตตชีโวมีนามเดิมว่า “เผด็จ ผ่องสวัสดิ์” ถือกำเนิดในครอบครัวชาวไร่ ที่จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2483 สำเร็จการศึกษาจากคณะเกษตรกรรมและสัตวบาล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ Diploma of Dairy Technology จาก Hawkesbury College, Australia

 

และได้ตัดสินใจบวชเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2514 ณ วัดปากน้ำภาษีเจริญ ได้รับฉายาว่า ทตฺตชีโว แปลว่า ผู้ถวายชีวิตแล้วแด่พระศาสนาต่อมาได้รับพระราชทานแต่งตั้งให้เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่ พระภาวนาวิริยคุณ เมื่อปี พ.ศ. 2535 จากนั้น ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่ พระราชภาวนาจารย์ วิ. ในปี พ.ศ. 2556

ซึ่งจากการสืบค้นประวัติก็พบว่าก่อนหน้าที่จะมาเรียน “วิชชาธรรมกาย” เคยผ่านการศึกษา “ไสยศาสตร์” และการฝึกวิชา “คงกระพันชาตรี” มาแล้ว

มาแล้ว!!! "พระทัตตชีโว" เดินเข้ารับทราบข้อกล่าวหา พบอัยการตามหมายเรียก เหลือก็แต่ "พระธัมมชโย" เท่านั้น!! (รายละเอียด)

ทั้งนี้พระทัตตชีโวได้เลยบอกเล่าเรื่องราวชีวิตส่วนตัว ตีพิมพ์ในหนังสือมุทิตาสักการะในวาระ 60 ปีทองของการสร้างบารมี 21 ธันวาคม พุทธศักราช 2543 และจากบันทึกที่เขียนไว้ในเรื่อง “ผจญมาร” ในหนังสือ “เดินไปสู่ความสุข” พิมพ์เมื่อปีพุทธศักราช 2512 ซึ่งแฟนเพจพระมหาเจดีย์ทัตตชีโว ต.เกาะสำโรง จ.กาญจนบุรี และเว็บไซต์ www.dmc.tv ได้นำมาถ่ายทอดให้กับศิษยานุศิษย์เอาไว้อย่างน่าสนใจ

โดยมีใจความตอนหนึ่งระบุว่า “...เมื่ออาตมามีอายุย่างเข้าวัยรุ่นนั้น อาตมารักการฝึกสมาธิมาก เริ่มต้นมาตั้งแต่ประมาณ ปี พ.ศ.2497-2498 ขณะเรียนหนังสืออยู่ชั้นมัธยม 4 แรกทีเดียวเป็นเพราะได้อ่านวิธีการฝึกสมาธิในคัมภีร์วิสุทธิมรรค ซึ่งรจนาโดยพระพุทธโฆษาจารย์ เมื่อประมาณ พ.ศ. 900 ที่เจอเพราะรักการอ่านหนังสือ เป็นชีวิตจิตใจนั่นเอง อาตมาอ่านหนังสือทุกประเภท อ่านจนหมดห้องสมุดประชาชนประจำจังหวัดกาญจนบุรี พออ่านคัมภีร์วิสุทธิมรรคแล้วก็อยากฝึกสมาธิ แต่ฝึกเองไม่ได้ผล จึงดั้นด้นค้นหาอาจารย์สอนสมาธิ ให้บังเอิญไปพบอาจารย์ที่ฝึกสมาธิเพื่อประโยชน์ทางอิทธิฤทธิ์เข้าก่อน จึงเลยเป็นไปตามฤทธิ์หนุ่ม คือฝึกวิชาหนังเหนียว รูดโซ่ ลุยไฟ สะเดาะกลอน สารพัด ใจมันอยากจะเป็นอย่างขุนแผนกับเขาบ้าง

 

ตอนนั้นไม่รู้เลยว่าวิชาเหล่านี้เป็นวิชามาร คิดว่าเป็นวิชาพระ เพราะมีคาถาประกอบเป็นบทสรรเสริญ พระพุทธคุณบ้าง บทสรรเสริญพระโมคคัลลาน์อัครสาวกผู้มีฤทธิ์บ้าง

“โชคดีที่อาตมามีความสนใจใคร่รู้เรื่องนรก-สวรรค์มาก ดังนั้นถึงแม้จะได้ร่ำเรียนวิชาที่ทำให้ มีอิทธิฤทธิ์มากเพียงใด วิชาเหล่านี้ก็ไม่สามารถดับความกระหายใคร่รู้เรื่องนรก-สวรรค์ได้เลย อาตมาจึงยังคงเสาะแสวงหาผู้รู้ในเรื่องนี้เรื่อยมา เมื่อมีเวลาว่างก็ดั้นด้นไปตามป่าตามเขา ไปฝึกสมาธิกับ พระเกจิอาจารย์ต่างๆ ได้โอกาสก็ถามท่านเรื่องนรก-สวรรค์เสียทุกคนไป แต่ไม่ว่าจะไปถามท่านใดทั้งที่เป็นพระภิกษุและฆราวาสว่า นรกมีจริงไหม สวรรค์มีจริงไหม เทวดานางฟ้ามีจริงไหม ก็ไม่มีใครให้คำตอบที่จริงจังชัดเจน น่าเชื่อตามได้สักรายเดียว อาตมาจึงเชื่อในสิ่งที่สามารถพิสูจน์ ได้เฉพาะหน้า คือ เชื่อเรื่องหนังเหนียว รูดโซ่ ลุยไฟ เพราะเขาทำให้เราดูได้ และเมื่อเราลองทำ ก็ทำได้จริงอีกด้วย ตอนนั้นรู้สึกภูมิใจมาก”

 

กระทั่งสุดท้าย พระทัตตชีโวก็ได้พบกับพระธัมมชโยซึ่งเป็นนิสิตรุ่นน้องและนำพาไปพบกับแม่ชีจันทร์ ขนนกยูง เพื่อร่ำเรียนวิชาธรรมกาย กระทั่งนำมาซึ่งการสร้างอาณาจักรธรรมกายร่วมกันในเวลาต่อมา

มาแล้ว!!! "พระทัตตชีโว" เดินเข้ารับทราบข้อกล่าวหา พบอัยการตามหมายเรียก เหลือก็แต่ "พระธัมมชโย" เท่านั้น!! (รายละเอียด)

แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นก็คือพระทัตตชีโยนั้นได้สร้าง‘พระมหาเจดีย์ทัตตชีโว’ ที่ศูนย์อบรมเยาวชนกาญจนบุรี ริมแม่น้ำแควน้อย อ.เมือง จ.กาญจนบุรี บนเนื้อที่ 150 ไร่ ห่างจากศาลากลางประมาณ 16 กิโลเมตร เป็นสาขาวัดพระธรรมกาย เพื่อบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพร้อมทั้งเป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ

แต่ก็ถือว่าเป็นโชคร้ายที่ที่ดินตรงนั้น นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นซื้อไว้เพื่อถวายวัดพระธรรมกาย จึงได้ถูกอายัดไปในที่สุด

วันที่ 8 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ถอดถอนสมณศักดิ์ มีรายละเอียดระบุว่า ด้วย พระราชภาวนาจารย์ (พระทัตตชีโว หรือเผด็จ ทัตตชีโว) วัดพระธรรมกาย จังหวัดปทุมธานี เข้าข่ายการเป็นผู้ต้องหาในคดีที่เกี่ยวเนื่องกับการให้ที่พักพิงแก่ผู้ต้องหา และการนําเงินของวัดพระธรรมกายไปเล่นหุ้น เป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ และยังเป็นผู้ต้องหากระทําความผิด โดยฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคําสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๕/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ โดยพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกให้ผู้ต้องหามาพบ และรายงานตัว แต่ผู้ต้องหาไม่มาตามกําหนด พนักงานสอบสวนจึงได้ออกหมายเรียกอีก จนถึงปัจจุบันผู้ต้องหาก็ยังไม่มาพบพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด จึงไม่สมควรดํารงอยู่ในสมณศักดิ์ต่อไป และได้นําความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมต่อไปแล้ว

บัดนี้ ได้มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ถอดถอน พระราชภาวนาจารย์ (พระทัตตชีโว หรือเผด็จ ทัตตชีโว) ออกจากสมณศักดิ์ ตั้งแต่วันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๖๐ ประกาศ ณ วันที่ ๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ผู้รับสนองพระราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

มาแล้ว!!! "พระทัตตชีโว" เดินเข้ารับทราบข้อกล่าวหา พบอัยการตามหมายเรียก เหลือก็แต่ "พระธัมมชโย" เท่านั้น!! (รายละเอียด)