คาบสมุทรเกาหลีกำลังจะระอุ!! กองทัพเรือแปซิฟิกรัสเซีย เดินทางถึงจุดยุทธศาสตร์ สำคัญ "สหรัฐ" พร้อมรับมือหาก "มะกัน" โจมตีเกาหลีเหนือ!!

จากกรณีที่ เมื่อวันที่ 8 เมษายน เจ้าหน้าที่ของสหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่ากองเรือโจมตีของกองทัพเรือสหรัฐได้มุ่งหน้าไปยังบริเวณฝั่งตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก ใกล้กับคาบสมุทรเกาหลี โดยกองเรือโจมตีที่นำโดยเรือบรรทุกเครื่องบินคาร์ล วินสัน จะเดินทางจากประเทศสิงคโปร์มุ่งหน้าไปยังบริเวณคาบสมุทรเกาหลี

ข่าวระบุว่า การเคลื่อนกองเรือดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางความห่วงกังวลเกี่ยวกับโครงการพัฒนาอาวุธของเกาหลีเหนือ หลังจากเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา เกาหลีเหนือได้ทำการทดลองยิงขีปนาวุธสกั๊ดใช้เชื้อเพลิงเหลว
 

ต่อมาสำนักข่าวต่างประเทสได้รายงานว่า ทางการของเกาหลีเหนือ ได้มีการเผยแพร่แถลงการณ์ของนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือ ที่ได้ออกมาประณามการกระทำของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่อนุมัติคำสั่งให้กองทัพเรือสหรัฐฯ ใช้ขีปนาวุธโทมาฮอว์กถล่มฐานทัพอากาศของประเทศซีเรีย โดยไร้มนุษยธรรม ไม่เคารพกฏหมายระหว่างประเทศฃ
โดยนายคิม จอง-อึน ระบุด้วยว่า สหรัฐฯ คือผู้ก่อการร้ายตัวจริง ไม่ว่าจะเหตุการณ์สงครามอิรัก ที่สหรัฐฯ พยายามกล่าวหาอดีตประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน แห่งอิรัก ว่าครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ แต่ในความเป็นจริง สหรัฐฯ ต้องการปล้นทรัพยากรนํ้ามันและทองคำในอิรักเท่านั้น ผ่านมาหลายทศวรรษ

สหรัฐฯ ก็ยังพยายามก่อสงคราม สร้างแต่ความหายนะ โดยไม่สนใจว่าบ้านเมืองประเทศอื่นต้องพังพินาศหรือไม่ ขอแค่ได้ขายอาวุธ หรือได้ทรัพยากรในประเทศนั้น ๆ สหรัฐฯ ก็พอใจแล้ว และซีเรียเป็นอีกประเทศหนึ่งที่กำลังจะพังพินาศเหมือนอย่างอิรักที่เคยผ่านมา

ต่อมาล่าสุดบนเฟซบุ๊ค Paisal Puechmongkol ก็ได้มีการรายงานข่าวล่าสุดของสถานการณ์ดังกล่าวโดยระบุว่า 

ด่วนมาก 
รัสเซียส่งเรือธง จากกองเรือแปซิฟิกซึ่งเป็นกองทัพเรือที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซีย เดินทางถึงน่านน้ำตอนใต้ของเกาหลีใต้แล้ว 
มาเงียบๆแต่มาถึงก่อน 
ตรงนี้เป็นจุดยุทธศาสตร์ ที่กองเรือของอเมริกาที่เคลื่อนมาจากสิงคโปร์ ต้องการจะมาประจำที่ตรงจุดนี้ พื้นที่ตรงจุดนี้ สามารถถล่มเกาหลีใต้และญี่ปุ่น และกองเรืออื่นๆ ที่อยู่ฝ่ายตรงกันข้ามอย่างง่ายดาย และ เป็นจุดที่จะปกป้องเกาหลีเหนือจากน่านน้ำของเกาหลีใต้ได้เป็นอย่างดี 
แต่ที่น่าแปลกก็คือ รัสเซียส่งเรือไปแค่ 2 ลำ คือเรือธงลำหนึ่งและเรือบรรทุกน้ำมันอีกลำหนึ่ง ซึ่งต้องคอยติดตามจังหวะก้าว ต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก Paisal Puechmongkol