- 23 เม.ย. 2560
แก๊งค์หลอกขาย "ไมโลคิวบ์" ไปไม่รอดถูกจับตัวได้เเล้ว รับ2ข้อหา ฉ้อโกง-นำข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์
จากกรณีเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2560 ที่ผ่านมา มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ หาญศีก แลพิทักษ์ ได้โพสต์เตือนภัย คนที่ต้องการอย่างสั่งซื้อ ขนมช็อกโกแลต ไมโลคิวบ์ ผ่านทางโซเชียล ขอให้ระวังบุคคลอันตราย เพราะตนเองได้สั่งซื้อไปกว่า 1.6 แสนบาท แต่สุดท้ายปิดเฟซบุ๊กหนีไปแล้ว จึงต้องมาแจ้งความเพื่อเอาผิดเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว
ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่นนายหาญศึก แลพิทักษ์ อายุ 39 ปี และ นางสาวสุภาภรณ์ โคตรหนองปิง อายุ 26 ปี เข้าให้ปากคำกัย พ.ต.ต.วัษณุ แสนคำ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมือง ขอนแก่น โดยมี พ.ต.อ.นพดล เพ็ชร์สุทธิ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น ร่วมปากปากคำ ผู้เสียหายด้วย ซึ่งผู้เสียหายทั้งสองคนได้นำหลักฐานเอกสารที่เป็นการพูดคุยผ่านโซเชียลมาเป็นหลักฐาน รวมทั้งเอกสารของธนาคารกสิกรไทย ที่มีชื่อนายวัชรินทร์ จันทร์หอม เจ้าของบัญชีมายื่นด้วย
นายหาญศึก แลพิทักษ์ ผู้เสียหาย บอกว่า ขณะนี้ได้มีการพูดคุยในกลุ่มพ่อค้าออนไลน์กัน พบว่ามีผู้เสียหายอีกประมาณ 4 คน ที่ถูกหลอกซื้อผลิตภัณฑ์ไมโลคิวบ์ถูกหลอกจากบุคคลเดียวกัน ซึ่งอยู่ในระหว่างการเตรียมหลักฐานเข้าแจ้งความตามสถานีตำรวจในพื้นที่ของผู้เสียหาย ซึ่งตนเองต้อง สูญเงินจำนวน 167,900 บาท ให้กับมิจฉาชีพรายนี้
นอกจากนี้ตนเองได้รับการติดต่อจากผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ระบุว่าถูกนำรูปมาใช้เป็นรูปประจำตัวหรือรูปโปรไฟล์ในการซื้อขาย และได้มีการแนะนำให้ไปแจ้งความ กับตำรวจไว้แล้ว พร้อมเตือนผู้ที่จะซื้อขายผ่านโลกออนไลน์ จะต้องมีการตรวจสอบประวัติและที่อยู่ให้ชัดเจน เพื่อป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพที่ใช้โลกโซเชียลในการหลอกลวงประชาชน
ซึ่งล่าสุดวันที่ 23 เมษายน 2560 พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ ผบช.ก. แถลงข่าว กก.4 บก.ป จับกุมผู้ต้องหาหลอกขายสินค้า(ไมโลคิวบ์) ทางเฟสบุ๊ค จำนวน 4 ราย
ทั้งนี้ตำรวจกองบังคับการปราบปรามสามารถยึดของกลางเป็น คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก โทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์ และ สมุดบัญชีเงินฝาก จากผู้ต้องหา 4 ราย คือ 1.นายวุฒิพงศ์ เหมมาลา 2.นางสาวนิศรา ลิ้มฉาย 3.นายวัชรินทร์ จันทร์หอม และ 4.นายนวพล ลิ้มฉาย
โดยพลตำรวจโทฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจกองบังคับการปราบปราม เปิดเผยถึงพฤติการณ์ของผู้ต้องหา ว่า ผู้ต้องหาได้ทำการเปิดเฟสบุ๊คปลอมชื่อ "ความ ทรงจำ" แล้วโพสต์ขายผลิตภัณฑ์ ไมโลคิวบ์ ในราคาถูกกว่าท้องตลาด จนทำให้มีผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินให้ หลังจากนั้นผู้ต้องหาก็ไปกดเงินออกจากบัญชี และไม่ติดต่อกลับ หรือ ส่งสินค้าให้ผู้เสียหายแต่อย่างใด
เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อหาฉ้อโกงประชาชนและนำข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง