- 01 ก.ค. 2560
รายชื่อล่าสุด !!!!คณะกรรมการมูลนิธิหอชมเมืองกรุงเทพมหานคร (รายละเอียด)
หลังจากที่ได้มีการเปิดเผย สำหรับหอชมเมืองกรุงเทพมหานคร"
ล่าสุดมีการเปิดเผย
คณะกรรมการมูลนิธิหอชมเมืองกรุงเทพมหานคร (พ.ศ. 2558 ? 2560) ประกอบด้วย - ดร. พนัส สิมะเสถียร ประธานกรรมการมูลนิธิ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการกฤษฎีกา, กรรมการทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์,กรรมการบริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการบริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด
- คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม กรรมการมูลนิธิ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการเหรัญญิกสภากาชาดไทย, กรรมการธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน), กรรมการ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน), และกรรมการบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด - นางวัลลิยา ปังศรีวงศ์ กรรมการมูลนิธิ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการมูลนิธิเพื่อการศึกษาและประชาสงเคราะห์
- รองศาสตราจารย์ ดร.ภิญโญ สุวรรณคีรี กรรมการมูลนิธิ ปัจจุบันเป็นศิลปินแห่งชาติ และดำรงตำแหน่งราชบัณฑิตสำนักศิลปกรรม ประเภทสถาปัตยศิลป์
- ร้อยโท ดร. สุวิทย์ ยอดมณี กรรมการมูลนิธิ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานมูลนิธิเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ
- ดร.วิทย์ สุนทรนันท์ กรรมการมูลนิธิ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการ มูลนิธิพุทธรักษา
- ผู้ช่วยศาสตราจารย์กนิช บุณยัษฐิติ กรรมการมูลนิธิปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สำหรับ "หอชมเมืองกรุงเทพมหานคร" เกิดขึ้นจากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2559 ได้อนุมัติให้ดำเนินการโครงการ บนที่ราชพัสดุแปลงหมายเลข กท.3275 เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร ซึ่งตั้งอยู่ในซอยเจริญนคร 7
ต่อมา เมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา ครม.ได้อนุมัติให้ยกเว้นโครงการพัฒนาที่ดินราชพัสด โดยสามารถดำเนินการคัดเลือกเอกชนได้ โดยไม่ต้องใช้วิธีประมูลตามประกาศของคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ เพราะเห็นว่าหากให้มีการเปิดประมูลจะทำให้โครงการมีความล่าช้า ส่งผลกระทบต่อผลสัมฤทธิ์ของโครงการได้
โครงการดังกล่าวจะดำเนินการก่อสร้างโดย “มูลนิธิหอชมเมืองกรุงเทพมหานคร” ซึ่งเป็นองค์กรเอกชน มีนายพนัส สิมะเสถียร เป็นประธานฯ ได้ประเมินงบลงทุนไว้ที่ 4,422.96 ล้านบาท เป็นเงินตั้งต้นของมูลนิธิ 5 แสนบาท เงินกู้จากสถาบันการเงิน 2,500 ล้านบาท เงินบริจาคจากบริษัทเอกชนชั้นนำ 2,100 ล้านบาท ซึ่งประมาณการรายได้จากการจำหน่ายบัตรเข้าชม1,054 ล้านบาท/ปี ประมาณการราคาตั๋วที่ 750 บาท/คน คนไทยลด 50% มีค่าใช้จ่ายปีละ 892 ล้านบาท จ่ายดอกเบี้ยปีละ 38 ล้านบาท รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายนำไปบริจาคองค์กรสาธารณกุศล
และมูลค่าที่ดินราชพัสดุกว่า 198 ล้านบาท ซึ่งไม่ใช้งบประมาณของรัฐบาล
มาถึงตรงนี้ก็ต้อง ย้ำกันอีกที ว่าไม่ได้มีงบประมาณรัฐไปเกี่ยวข้องแต่อย่างใด และนอกจากนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังได้สั่งการกำชับเพิ่มเติมด้วยว่าการดำเนินการโครงการใหญ่จะต้องมีความโปร่งใส ให้เกิดความเป็นธรรมและไม่มีการเอื้อประโยชน์ต่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
ส่วนเงื่อนไขสำหรับที่เอกชนจะเข้ามาจัดทำโครงการคือ ให้จัดทำแผนบริหารการสัญจร การรักษาสิ่งแวดล้อม การพัฒนาชุมชนในบริเวณใกล้เคียง และแผนรับมือการจราจรบริเวณดังกล่าวเพื่อบรรเทาการจราจรติดขัด ตลอดจนให้กรมธนารักษ์และกรมการคลัง พิจารณานำรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ของมูลนิธิหอชมเมืองโดยมิให้นำมาแบ่งปันกัน
ทั้งนี้"หอชมเมืองกรุงเทพมหานคร" จะมีความสูง 459 เมตร เทียบกับตึกกว่า 90 ชั้น ในอนาคตจะเป็นเอกลักษณ์สำคัญของกรุงเทพมหานครและประเทศไทย เลยทีเดียว
โดยส่วนชั้นบนสุดของหอชมเมืองจะเป็นโถงเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชแห่งมหาจักรีพระบรมราชวงศ์เพื่อประดิษฐานพระบรมรูปของบูรพมหากษัตริยาธิราช
พร้อมทั้งพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของเมือง เยี่ยมชมทัศนียภาพมุมสูงหาชมได้ยากของกรุงเทพมหานครและวิวแม่น้ำเจ้าพระยา
มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติได้ โดยภายในอาคารจะไม่มีการแบ่งพื้นที่เพื่อการค้าเลย แต่จะเป็นพื้นที่เก็บเรื่องราวประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ซึ่งจะใช้รูปแบบสถาปัตยกรรม และเทคโนโลยีชั้นสูงในการก่อสร้าง






