- 13 ก.ค. 2560
ไทยเนื้อหอมหลังรัฐบาลไฟเขียวไฮสปีดเทรน สมคิดระบุมีแหล่งเงินกู้เพียบยันดูผลประโยชน์โดยรวมไม่ใช่กู้แค่ดอกเบี้ยต่ำอย่างเดียว
ภายหลังการประชุมครม.เมื่อ 11 ก.ค. 2560 ภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการอนุมัติเมกกะโปรเจกต์โครงการรถไฟความเร็วสูงเส้นทาง กรุงเทพฯถึงหนองคาย ช่วงที่ 1 คือ กรุงเทพฯถึงนครราชสีมา ระยะทาง 253 กิโลเมตร มูลค่าลงทุนสูงถึง 179,413 ล้านบาท เพื่อสร้างโอกาสสร้างอนาคตประเทศหลังจากไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่มานาน ล่าสุดหลังข่าวการลงทุนครั้งมหาศาลของไทยถูกเผยแพร่ออกไปทั่วโลก งานนี้ทำให้บรรดาธนาคาร แหล่งเงินกู้ สถาบันการเงินขนาดใหญ่ทั้งในเอเชียและยุโรปหูผึ่ง พร้อมวิ่งโร่ขอเข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ในทันทีเพื่อเสนอความร่วมมือทางการเงินให้กับรัฐบาล ล่าสุดที่เป็นนกรู้และเร็วกว่าใครเพื่อนเห็นจะไม่มีใครเกินธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย หรือ เอไอไอบี (Asian Infrastructure Investment Bank :AIIB ) ที่หลังทราบผลการอนุมัติโครงการไฮสปีดเทรนของประเทศไทยได้เพียงแค่วันเดียว
ทางนายจิน ลี่ฉวิน (Mr.Jin Liqun) ประธานธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชียก็นำทีมงานคณะใหญ่เดินทางมาพบนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯด้านเศรษฐกิจ ก่อนช่วงบ่ายวานนี้จะเข้าเยี่ยมคาราวะพล.อ.ประยุทธ์ที่ทำเนียบรัฐบาล หนำซ้ำในวันศุกร์ที่ 14 ก.ค.นี้ ยังมีคิวพบปะกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่เชียงใหม่ด้วย
สำหรับการเดินทางมาเยี่ยมคาราวะ พล.อ.ประยุทธ์ ณ ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล แบบสายฟ้าแลบในครั้งนี้ถือเป็นการเดินเกมส์เร็วที่ไม่ยอมให้เสียโอกาสไม่ยอมพลาดทางธุรกิจ แถมเที่ยวนี้ยังมีการเชิญนายเจิง เผยเหยียน (Mr.Zeng Peiyan) อดีตรองนายกฯสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน ที่หลังพ้นจากตำแหน่งก็มารับงานเป็นรองประธาน Boao Forum for Asia มาเป็นแบ็กอัพให้เห็นว่ารัฐบาลจีนก็หนุนหลังด้วย นอกนี้ยังมีการจัดประชุมสัมมนา “ Boao Forum for Asia Thailand Conference” ในกรุงเทพฯเพื่อเอาใจพร้อมเชิญชวนนักลงทุนจีน นักลงทุนไทย นักลงทุนต่างชาติ เชื่อมโยงการค้าการลงทุนระหว่างกันโดยใช้ธนาคารเอไอไอบีหรือสถาบันการเงินของจีนเป็นแหล่งเงินกู้ เรียกว่ารอบนี้จีนมองการณ์ไกลไม่ใช่แค่เพียงแต่ขายเทคโนโลยีไฮสปีดเทรนให้ไทยเท่านั้น แต่ทางรัฐบาลจีนกับเอกชนจีนยังจับมือกันเหนียวแน่นในการเกี้ยวไทยให้กู้เงินจากจีนแบบเสร็จสรรพ ประมาณขายเทคโนโลยีรถไฟพ่วงปล่อยเงินกู้
อย่างไรก็ตามในส่วนของเงินลงทุนโครงการไฮสปีดเทรนกรุงเทพ-โคราชนั้น ทางนายสมคิดยังนั่งยันยืนยันนอนยันว่าไทยยังไม่ได้ตัดสินใจกู้จากจีนแต่อย่างใด ทั้งนี้สำหรับแหล่งเงินกู้ของไทยยังเปิดกว้างและมีสถาบันการเงินหลายแห่งพร้อมจะปล่อยกู้ให้กับไทย ไม่ใช่แค่ธนาคารเอไอไอบี ยังมีธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือ เอดีบี (Asian Development Bank – ADB) องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ ไจก้า (Japan International Cooperation Agency - JICA) แม้แต่ธนาคารโลก หรือ เวิล์ดแบงค์ (World Bank) รวมทั้งแหล่งเงินกู้ในประเทศไทยที่สถาบันการเงินของไทยก็มีสภาพคล่องส่วนเกินที่สูงมาก “ เรื่องแหล่งเงินกู้เราไม่มีปัญหา เพราะมีคนพร้อมปล่อยกู้เราอยู่แล้ว ตรงนี้เป็นหน้าที่ของกระทรวงการคลังที่เขาจะต้องไปหารือกับกระทรวงคมนาคม คณะกรรรมการอีอีซี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เขาต้องไปคิด ไปหาวิธี ไปหาแนวทาง ว่าจะใช้รูปแบบไหน กู้จากใคร ซึ่งมีทั้งในและต่างประเทศ ยุโรปก็มีแต่ถ้าในเอเชียจะพูดกันง่ายหน่อย” นายสมคิดหัวหน้าทีมเศรษฐกิจรัฐบาลระบุ
พร้อมให้คำมั่นเป็นสัญญาประชาคมกับคนไทยว่าการกู้เงินสร้างไฮสปีดเทรนไม่ว่าจะมาจากแหล่งใดจะในหรือต่างประเทศ ทั้งหมดจะต้องอยู่บนพื้นฐานของผลประโยชน์ในภาพรวมของประเทศเป็นที่ตั้ง “เรายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะกู้จากใคร แต่ใครให้ดอกเบี้ยต่ำเราก็สนใจทั้งหมด เขาก็ต้องแข่งกันเอง แต่เราก็ต้องมาพิจารณาบนพื้นฐานผลประโยชน์ในภาพรวมของประเทศ ไม่ใช่ดูดอกเบี้ยต่ำอย่างเดียว ต้องดูระยะเวลาในการผ่อน เงื่อนไขอื่นๆ ด้วยก่อนตัดสินใจ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ต้องดูทุกอย่างให้รอบครอบ เพราะคนจ้องเอาไปบิดเอาไปแปลกันผิดๆ มันมีอยู่เยอะ ” รองนายกฯด้านเศรษฐกิจระบุ
สุดท้ายปลายทายพล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาลไทย จะกู้เงินจากไหน จะในหรือต่างประเทศ สัดส่วนเท่าไหร่ เงื่อนไขอย่างไร ประชาชน สังคมต้องตามติดเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดเพราะเป็นเงินภาษีของคนไทยล้วนๆ