นครพนมหวั่นวิฤกต!! น้ำเริ่มทะลักเข้าอ.นาแก สั่งประชาชนเฝ้าระวัง 24 ชม. เตรียมพร้อมอพยพ

     เนื่องจากพายุดีเปรสชัน “เซินกา” (SONCA) เข้าปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและประเทศลาวตอนบน ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยมีกำลังแรง คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง

     ส่งผลให้ช่วง 1-2 วันที่ผ่านมาประเทศไทยมีฝนตกหนัก ถล่มหลายพื้นที่ ทำให้พื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือวิกฤตหนัก โดยเฉพาะจังหวัดสกลคร ของแก่น อุบลราชธานี และทางภาคเหนือสุโขทัย

    

     ทั้งนี้ ทางด้านจังหวัดนครพนม ก็ได้เร่งสั่งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องคอยเฝ้าสังเกตสถานการณ์น้ำที่อาจจะวิกฤตได้ทุกเมื่อ เพราะยังคงมีฝนตลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำโขงหนุนสูงอยู่ที่ประมาณ 11 เมตร ห่างจากจุดวิกฤติประมาณ 2 เมตร ทำให้ลำน้ำสาขาสายหลักที่รองรับน้ำมาจากพื้นที่ จ.สกลนคร เกิดปัญหาน้ำท่วมเริ่มเอ่อท่วมในพื้นที่ลุ่ม บริเวณลำน้ำสงคราม ลำน้ำอูน โดยเฉพาะลำน้ำก่ำที่รองรับมวลน้ำจากตัวเมืองสกลนครมายังหนองหาน ก่อนไหลลงสู่ลำน้ำก่ำและไหลระบายลงสู่น้ำโขง ผ่าน อ.โพนนาแก้ว อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร  มายัง อ.นาแก อ.ธาตุพนม จ.นครพนม  ถือว่ายังวิกฤต เนื่องจากมีปริมาณน้ำเกินความจุกักเก็บ อีกทั้งยังสามารถไหลระบายลงน้ำโขงได้ช้า ทำให้ลำน้ำก่ำมีน้ำเต็มตลอดทั้งแนวกว่า 120 กิโลเมตร 

     เบื้องต้นทางจังหวัดนครพนมพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อำเภอนาแก ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและผู้นำชุมชนหมู่บ้านแจ้งประชาชนในพื้นที่เสี่ยง เฝ้าระวังจัดเก็บสิ่งของขึ้นที่สูงและหาที่ดูแลสัตว์เลี้ยงการเกษตร  นอกจากนี้ยังได้ระดมเจ้าหน้าที่ ตั้งจุดเฝ้าระวัง แจ้งเตือนลำน้ำก่ำ ทะลักล้นท่วม ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาตลอด 24 ชั่วโมง ล่าสุดพบว่า พื้นที่ ต.นาคู่ ต.พิมาน  อ.นาแก จ.นครพนม  เริ่มได้รับผลกระทบมีบ้านเรือนชาวบ้านมีน้ำทะลักเข้าท่วมแล้วบางส่วน สำหรับนาข้าวถูกน้ำท่วมขัง แล้วไม่ต่ำกว่า 2,000 ไร่ ซึ่งมีพื้นที่เสี่ยงได้รับผลกระทบไม่ต่ำกว่า 5,000 ไร่ ได้สั่งการะให้ประชาชนในจังหวัดเฝ้าระวังคอยสังเกตการณ์ และเตรียมเก็บข้าวของที่จำเป็นเพื่อการอพยพด่วน

     ในขณะเดียวกันพื้นที่รองรับน้ำจังหวัดสกลนคร เริ่มเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ลุ่ม พื้นที่การเกษตร นาข้าว และชุมชนที่ติดกับลำน้ำก่ำ ซึ่งมีพื้นที่เสี่ยงได้รับผลกนระทบหนักคือ อ.วังยาง อ.นาแก และ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม หากมวลน้ำจำนวนมหาศาล ไหลลงมารวมกัน