- 13 ก.ย. 2560
ไม่ใช่แค่ สวย แกร่ง เก่ง....แต่เสียสละสุดๆ!!พร้อมแล้ว!! 121"เหยี่ยวดำ"ทหารพรานหญิง นย.รุ่นแรกลงใต้.ผบ.ทร.ให้กำลังใจ และชื่นชมประดู่เหล็กหญิง
กองร้อย ทหารพรานหญิงนาวิกโยธิน 121 นาย ที่เป็น กองร้อย ประดู่เหล็กหญิง รุ่นแรก ที่ ทร.คัดเลือกและฝึกเข้ม เป็นส่วนหนึ่งในกำลังพล 1,083 นาย ร่วมทีม ฉก.นาวิกโยธิน สับเปลี่ยนกำลัง ลง ชายแดนใต้ ในสัปดาห์หน้านี้แล้ว
พลเรือเอก ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือเป็นประธานในพิธี ส่งกำลังพล และ ให้โอวาทเพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจแก่กำลังพลที่จะทำการเคลื่อนย้ายจากที่ตั้งปกติที่ไปปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ที่ ค่ายพระมหาเจษฎาราชเจ้า สัตหีบ ชลบุรี
ทั้งนี้หน่วยบัญชาการ นาวิกโยธิน ได้กำหนดผลัดเปลี่ยนกำลังพลประจำปีงบประมาณ 2561 ที่จะครบวาระในการปฏิบัติราชการในวันที่ 30 กันยายน 2560
หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ได้กำหนดผลัดเปลี่ยนกำลังพลที่จะปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในพื้นที่รับผิดชอบของหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ จำนวน 1,083 นาย
โดยจัดกำลังจากหน่วยในพื้นที่ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี 1. กรมทหารพรานนาวิกโยธิน 2. กองพันลาดตระเวน กองพลนาวิกโยธิน 3. กองพันทหารช่าง กองพลนาวิกโยธิน 4. กองพันแพทย์ กรมสนับสนุน กองพลนาวิกโยธิน 5. หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง 6. กรมสรรพาวุธทหารเรือ 7. หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ 8. กรมการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศทหารเรือ 9. กรมการขนส่งทหารเรือ 10. กรมอิเล็กทรอนิกส์ทหารเรือ 11. กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ 12. กองพันสารวัตรทหารเรือที่ 3 กรมสารวัตรทหารเรือ
ในจำนวนนี้ เป็น นาวิกโยธิน 472 นาย ในจำนวนนี้ เป็น ทหารพรานหญิง นย. รุ่นแรก 121 นาย ด้วยพลเรือเอก ณะ กล่าว ขอบใจ กำลังพลทุกนาย เพราะถือว่า เป็นการเสียสละ ไปปฏิบัติภารกิจ เพื่อประเทศชาติ
ทั้งนี้ ถือเป็น ครั้งแรก ที่ได้มีการส่ง "อาสาสมัครทหารพรานหญิง นาวิกโยธิน" เข้าร่วมในภารกิจรักษาความสงบเรียบร้อย และอธิปไตยของชาติ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ทั้งนี้ ทหารพรานหญิง ทั้งหมด ได้ผ่านการคัดเลือก จาก ผู้สมัครทั่วประเทศกว่า 1,600 คน โดยคัดไว้แค่ 120 คน ที่มาฝึกฝน เข้มข้น มาเป็นเวลา เกือบ 2 เดือน มีการเตรียมความพร้อมที่มากด้วยประสบการณ์ ทั้งด้านองค์บุคคล และยุทโธปกรณ์ มาเป็นอย่างดี ตลอดจน การมีมวลชนสัมพันธ์ที่จะเข้าถึงประชาชนในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้เกิดความเข้าใจ ความปรองดอง ระหว่างทหารกับประชาชน
และนับเป็นความภาคภูมิใจยิ่งแก่กองทัพเรือ และประเทศชาติ ที่ทหารพรานหญิงเหล่านี้ ต่างไม่เกรงกลัวต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในภายภาคหน้า พร้อมใจที่จะร่วมสละเลือดเนื้อและชีวิต ในการปกป้องผืนแผ่นดินให้สงบสุข