- 24 ก.ย. 2560
หนุ่มขับรถเห็นคันหลังเปิดไฟขอทางคิดว่ารถพยาบาล ไม่รีรอรีบหลบให้ แต่พอเห็นชัดๆ เท่านั้น ถึงกับอึ้งรีบโพสต์ลงโซเชียลด่วน ต้องขนาดนี้เลยหรือ??
เมื่อวันที่ 23 ก.ย.60 ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อ วิษณุ จันทวงศ์ ได้โพสต์คลิปวิดีโอหนึ่งซึ่งเป็นรถที่ติดสัญญาณไฟวิ่งโดยในตอนแรกผู้โพสต์เข้าใจว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถพยาบาลฉุกเฉินกำลังเกิดเหตุจึงเปิดไฟวิ่งเพื่อขอทาง จึงได้หลบให้แต่หลังจากที่รถคันดังกล่าวได้วิ่งแซงขึ้นไปถึงกับงงเนื่องจากรถคันดังกล่าวไม่ใช่รถพยาบาล แต่เป็นรถส่งอาหาร โดยผู้โพสต์ได้ระบุเพียงสั้นๆว่า... "โปรดหลีกทางให้ น.พยาบาลไก่ย่าง บางขัน-หนองเสือ"
และเมื่อโพสต์นี้ถูกเผยแพร่ออกไปได้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก โดยบางส่วนกล่าวว่า... "มันก็เป็นซะแบบเนี้ย รถพยาบาล จริงๆ มาเค้าเลยไม่ค่อยอยากหลบ" "บ้านเราสัญญาณไฟวับวาบไม่ศักสิทธิ์แล้วครับ ใครๆก็ติดได้ เป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว อาสาฯเองก็เปิดกันพร่ำเพรื่อ จนไม่รู้ว่าอันไหนฉุกเฉินจริงๆ อันไหนเปิดลองไฟ" "ได้ เขาของสด เขารีบไปส่ง เลยขอทางไง" "ผิดแน่นอนคับไฟวับวาบใช้โดยไม่ใด้รับอนุญาตที่สำคัญผิดซึ่งหน้าด้วยทำไมตำรวจไม่จับ" "ไก่ย่างของทางการหรือป่าวครับ หรือว่าเดี๋ยวนี้มีรถฉุกเฉินเอาไว้รับไก่ป่วยไปโรงพยาบาล" "ถึงคนขับจะเป็นอาสากู้ภัยจริงๆ แต่ก็ไม่สามารถติดสัญญานไฟนี้ได้ เพราะรถไม่ได้รับอนุญาตและผิดประเภท"
ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 4 ได้ให้คำนิยามของ “รถฉุกเฉิน” ไว้ว่า รถดับเพลิงและรถพยาบาลของราชการบริหารส่วนกลาง ราชการบริหารส่วนภูมิภาคและราชการบริหารส่วนท้องถิ่น หรือรถอื่นที่ได้รับอนุญาตจากอธิบดีให้ใช้ไฟสัญญาณแสงวับวาบ หรือให้ใช้เสียงสัญญาณไซเรนหรือเสียงสัญญาณอย่างอื่นตามที่จะกำหนดให้ และ พ.ร.บ.ดังกล่าว ได้บัญญัติเกี่ยวกับการปฏิบัติของรถฉุกเฉินไว้ ดังนี้
มาตรา ๗๕ ในขณะที่ผู้ขับขี่ขับรถฉุกเฉินไปปฏิบัติหน้าที่ ผู้ขับขี่มีสิทธิดังนี้
1. ใช้ไฟสัญญาณแสงวับวาบ ใช้เสียงสัญญาณไซเรน หรือเสียงสัญญาณอย่างอื่นตามที่อธิบดีกำหนดไว้
2. หยุดรถหรือจอดรถ ณ ที่ห้ามจอด
3. ขับรถเกินอัตราความเร็วที่กำหนดไว้
4. ขับรถผ่านสัญญาณจราจรหรือเครื่องหมายจราจรใด ๆ ที่ให้รถหยุด แต่ต้องลดความเร็วของรถให้ช้าลงตามสมควร
5. ไม่ต้องปฏิบัติตามบทแห่งพระราชบัญญัตินี้หรือข้อบังคับการจราจรเกี่ยวกับช่องเดินรถ ทิศทางของการขับรถหรือการเลี้ยวรถที่กำหนดไว้
ในการปฏิบัติตามวรรคหนึ่ง ผู้ขับขี่ต้องใช้ความระมัดระวังตามควรแก่กรณี
มาตรา ๗๖ เมื่อคนเดินเท้า ผู้ขับขี่ หรือผู้ขี่หรือควบคุมสัตว์เห็นรถฉุกเฉินในขณะปฏิบัติหน้าที่ใช้ไฟสัญญาณแสงวับวาบ หรือได้ยินเสียงสัญญาณไซเรน หรือเสียงสัญญาณอย่างอื่นตามที่อธิบดีกำหนดไว้ คนเดินเท้า ผู้ขับขี่ หรือผู้ขี่หรือควบคุมสัตว์ต้องให้รถฉุกเฉินผ่านไปก่อนโดยปฏิบัติดังต่อไปนี้
1. สำหรับคนเดินเท้าต้องหยุดและหลบให้ชิดขอบทาง หรือขึ้นไปบนทางเขตปลอดภัย หรือไหล่ทางที่ใกล้ที่สุด
2. สำหรับผู้ขับขี่ต้องหยุดรถหรือจอดรถให้อยู่ชิดขอบทางด้านซ้าย หรือในกรณีที่มีช่องเดินรถประจำทางอยู่ทางด้านซ้ายสุดของทางเดินรถ ต้องหยุดรถหรือจอดรถให้อยู่ชิดช่องเดินรถประจำทาง แต่ห้ามหยุดรถหรือจอดรถในทางร่วมทางแยก
3. สำหรับผู้ขี่หรือควบคุมสัตว์ต้องบังคับสัตว์ให้หยุดชิดทาง แต่ห้ามหยุดในทางร่วมทางแยก
ในการปฏิบัติตาม 1 และ 3 ผู้ขับขี่และผู้ขี่หรือควบคุมสัตว์ต้องรีบกระทำโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะกระทำได้และต้องใช้ความระมัดระวังตามควรแก่กรณี
มาตรา ๑๔๘ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๗๖ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าร้อยบาท
ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับการขออนุญาต ต้องดูประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์การขออนุญาตใช้ไฟสัญญาณวับวาบ และเสียงสัญญาณ
รถยนต์และรถจักรยานยนต์ในราชการทหารหรือตำรวจ รถดับเพลิง รถพยาบาล และรถยนต์ของทางราชการอื่น หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เป็นรถที่ใช้ปฏิบัติภารกิจด้านการถวายความปลอดภัย, การรักษาความปลอดภัย, การป้องกันปราบปรามอาชญากรรม, การจราจร, การปฏิบัติงานในทางเพื่อการบริการสาธารณะ ซึ่งหน่วยงานนั้นๆ มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด และรถดับเพลิงของเอกชน
สถานภาพของหน่วยงาน
- ต้องมีสถานภาพเป็นนิติบุคคล ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อกิจการบรรเทาสาธารณภัย สำหรับในกรุงเทพมหานคร ต้องเป็นสมาชิกของสมาคมอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยแห่งประเทศไทยด้วย
- ต้องมีระเบียบ ข้อบังคับ และต้องมีคณะกรรมการบริหารและสมาชิก ซึ่งผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรบรรเทาสาธารณภัย หลักสูตรการป้องกันและระงับอัคคีภัยจากกองบังคับการตำรวจดับเพลิงแล้ว ไม่น้อยกว่า ๕๐ คน
- ต้องมีสถานที่ทำการหรือสำนักงาน สถานที่จอดรถ สถานที่เก็บรถ ตลอดจนสถานที่ติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิงเพื่อกิจการบรรเทาสาธารณภัยเป็นของตนเอง หากเป็นสาธารณสถานหรือสถานที่ของผู้อื่น ต้องมีหนังสืออนุญาตจากเจ้าของสถานที่มาแสดงด้วย
สถานภาพของหน่วยงาน ต้องมีสถานภาพเป็นนิติบุคคลและมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในกิจการดังนี้
- นำส่งเครื่องอุปโภคบริโภคช่วยเหลือบุคคลซึ่งประสบเคราะห์กรรม กรณีอุบัติภัย หรือกิจการสาธารณประโยชน์ หรือกิจการสาธารณูปโภค อันเป็นกรณีจำเป็นเร่งด่วน หรือ
- การปฏิบัติงานในทางเพื่อความปลอดภัยของสาธารณชนอันเป็นกิจการสาธารณประโยชน์หรือใช้เป็นรถโรงเรียน
- ลักษณะรถและอุปกรณ์ประจำรถไม่จำกัด แต่ต้องมีสภาพใช้การได้ดีและต้องเป็นไปตามความเหมาะสมของวัตถุประสงค์ในการใช้
ขอบคุณ : วิษณุ จันทวงศ์ http://province.moph.go.th






