- 20 ต.ค. 2560
หมดไปอีกของดีเมืองไทย!สิ้น“ครูแป๊ะ”ปิดตำนานมอญรำบางลำพู-ขนมกลีบลำดวนตำหรับวังเจ้าเจ๊ก
ยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปสู่ความทันสมัย มรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชายหลายอย่างค่อยๆสูญหาย เนื่องจากไร้คนสืบทอดและขาดการดูแลอนุรักษ์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะที่เป็นวิถีของชุมชนที่หลากหลายหลอมรวมจนเป็นชาติในปัจจุบัน เพจเฟซบุ๊ค “บ้านบางลำพู ครูสุดจิตต์” รายงานความสูญเสียในเรื่องนี้หลังการเสียชีวิตของ ครูแป๊ะหรือ นางบรรเลง ฉัตรเอก สุขโสภี ทายาทรุ่นหลานของครูศุข-แม่แถม ดุริยประณีต ผู้สร้างตำนานมอญรำบางลำพู และ ขนมกลีบลำดวนตำหรับวังเจ้าเจ๊ก
“เช้าวันจันทร์ที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๖๐ บ้านบางลำพูสูญเสีย ครูแป๊ะหรือ นางบรรเลง ฉัตรเอก สุขโสภี ทายาทรุ่นหลานของครูศุข-แม่แถม ดุริยประณีต ล่วงลับไปอีกท่าน
ครูแป๊ะ เกิดเดือนเมษายน ๒๔๗๒ เป็นบุตรีคนหัวปีของแม่ชุบ ดุริยประณีต ซึ่งเป็นทายาทคนแรกของครูศุข-แม่แถม ดุริยประณีต กับ พ่อระเบียบ ฉัตรเอก นับเป็นรุ่นที่ ๓ หรือรุ่นหลานตามศักดิ์ผู้มีอาวุโสสูงสุด และมีอายุยืนสุดถึง ๘๘ ปี ๖ เดือน
ครูแป๊ะ เกิดหลังแม่สุดจิตต์ ดุริยประณีต อนันตกุล เพียง ๘ เดือน นับร่วมรุ่นด้วยกันครั้งแม่แถมคิดทำธุรกิจปี่พาทย์มอญครบวงจรในเมืองกรุง โดยตั้งคณะ “มอญรำบางลำพู” ขึ้นเป็นคณะแรกเมื่อเห็นวงปี่พาทย์มอญบ้านดุริยประณีตมั่นคงแข็งแรงดีแล้วทั้งการประดิษฐ์เพลงขับร้อง และทางบรรเลงปี่พาทย์จาก ๓ แหล่ง คือ ปากเกร็ด ปทุมธานี และ ปากลัด
รวมถึงเพลงที่ใช้บรรเลงให้มอญรำยังดัดแปลงมาใช้เป็นเพลงมอญ “ชุดย่ำเที่ยง” จนปัจจุบัน ปี่พาทย์มอญบางลำพูจึงพร้อมบรรเลงสนองผู้รำ ทุกคณะ ทุกตำบล ที่อาจตัดทอนเพิ่มเติมท่ารำได้ตามถนัด
สมัยปี ๒๔๙๐ นั้น มอญปากเกร็ด รำ ๑๒ ท่า มอญสามโคก ปทุมธานี รำ ๑๓ ท่า ส่วนมอญปากลัด พระประแดง รำ ๑๐ ท่า (๗๐ ปี หลังมานี้อาจเปลี่ยนแปลงไปไกล)
แม่แถมเริ่มต้นจากสิ่งที่มีใกล้มือ จับลูกและหลานสาววัยรุ่นไล่เลี่ยกันได้ ๕-๖ คน รุ่นลูกมี ทัศนีย์-สุดจิตต์ ดุริยประณีต รุ่นหลานมี บรรเลง ฉัตรเอก บุตรีแม่ชุบ, วิเชียร-ชูวงศ์ ดุริยประณีต บุตรีครูโชติ, แอ๊ว ดุริยประณีต บุตรีครูชื้น รวมตัวกันหัดรำมอญทางปากเกร็ด ๑๒ ท่า ที่ชานบ้านบางลำพูช่วงค่ำโดยมีแม่มณเฑียร ภรรยาครูชื้น (แม่ครูมอญรำคนงามบ้านปี่พาทย์ชื่อดังที่เกาะเกร็ดซึ่งครูชื้นไปเล่าเรียนอยู่หลายปี) เป็นผู้ถ่ายทอดตามแบบฉบับที่รับถ่ายทอดมาแต่ต้นกรุงแม่แถมรับงานให้มอญรำบางลำพูคณะนี้ออกแสดงจนเป็นที่นิยมจ้างหา ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มรับเงินค่าจ้างวงปี่พาทย์ได้ราคาขึ้น และสร้างภาพลักษณ์สำนักดนตรีปี่พาทย์ดุริยประณีตให้ดูยิ่งใหญ่ในสายตาผู้คนได้อีกไม่น้อย
เท่านั้นยังไม่พอ แม่แถมเชื้อเชิญแม่เฉลย ศุขวณิช มาช่วยสอนระบำรำฟ้อนเพิ่มเติมให้ลูกหลานรุ่นนี้จริงจังอย่างฟ้อนดวงดอกไม้ ฟ้อนเล็บ ฟ้อนเทียน ออกรับงานเป็นที่เอิกเกริก
ครูแป๊ะจึงเป็นทั้งมอญรำ และช่างฟ้อนของบ้านบางลำพู รุ่นแรกแม่ชุบ ดุริยประณีต เป็นบุตรีคนโตของครูศุขเรียนสีซออู้ที่สามัคยาจารย์ ร่วมรุ่นแม่ละม่อม ดุริยชีวิน แม่ละเมียด จิตตเสวี แต่ไม่มีโอกาสได้ออกแสดงฝีมือนักเพราะบ้านบางลำพูเน้นไปทางปี่พาทย์อย่างหนึ่ง อีกอย่างหนึ่งถูกแม่แถมมอบหมายให้รับหน้าที่เป็นต้นครัวดูแลอาหารการกินของที่บ้าน
และที่สำคัญเป็นผู้ปรุงอาหารให้พระยาเสนาะดุริยางค์(แช่ม สุนทรวาทิน) ซึ่งมาสอนที่บ้านบางลำพูช่วงเช้า รับประทานมื้อกลางวันก่อนลงเรือไปบ้านบางลำพูล่างของครูโนรี ดุริยพันธุ์ บางวันมีครูผู้ใหญ่มาร่วมด้วยเช่น หม่อมจันทร์ กุญชร ณ อยุธยา หม่อมต่วนศรี วรวรรณ เป็นต้น
แม่ชุบฝึกฝนทำอาหารและขนมหวานตำหรับชาววังจาก“แม่เหม” ต้นเครื่องวังเจ้าเจ็ก ในกรมหมื่นมเหศวรศิววิลาส บางลำพู ปรุงอาหารโดยมีบุตรี บรรเลง ฉัตรเอก เป็นลูกมือคู่ใจตลอดมา ทำให้ได้รับการถ่ายทอดทีเด็ดเคล็ดลับปรุงอาหารสูตรทำขนมตำหรับชาววังแม่นยำไปโดยปริยาย
เมื่อแม่ชุบและบุตรี ทำขนมไทยจากของที่เหลือใช้ในบ้านเช่นข้าวตังติดกะทะ ข้าวตากทำข้าวตู ออกขายหน้าบ้าน คราใดที่มีงานสำคัญรับงานทำขนมมงคล ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง อย่างงานแม่ทัศนีย์ กับครูประสงค์ พิณพาทย์วันดีคืนดีทำขนมกลีบลำดวนอบเครื่องหอมทดลองออกวางจำหน่าย กลับขายดิบขายดีกว่าอย่างอื่นต้องขยายเป็นโรงงานเล็กๆ ขึ้นที่ บ้าน ๑๑๓ (ติดบ้านครูเหนี่ยว) มีชื่อเสียงรู้จักดีทั่วกรุง ร้านค้าสั่งทำนำไปนับดอกขาย ผู้คนนิยมนำไปใส่กล่องเป็นของฝากให้ผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ ขึ้นชื่อขนมกลีบลำดวน “แม่ชุบ บางลำพู” ติดลมนานมา จนกระทั่งแม่แถมถึงแก่กรรมในปี ๒๕๑๕ แม่ชุบกลับไปอยู่บ้านสามีสัสดีที่อำเภอกระทุ่มแบนจึงเลิกกิจการ
เบื้องหลังผู้ลงแรงทำขนมกลีบลำดวนเป็นหลักก็คือพี่แป๊ะของน้องๆ ป้าแป๊ะ ของหลานๆ แทบทั้งสิ้น
วันเสาร์ที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ นี้ เวลา ๑๗.๐๐ น. มีพิธีฌาปนกิจศพ ครูแป๊ะ นางบรรเลง ฉัตรเอก สุขโสภี ณ วัดโสมนัสวิหาร
ปิดตำนานมอญรำรุ่นแรกของบ้านบางลำพู
ปิดตำนานขนมกลีบลำดวนตำหรับวังเจ้าเจ๊ก อันมีชื่อเลื่องลือทั่วกรุงและมีส่วนชักจูงให้ขนมหวานอย่างอื่นๆ ย่านบางลำพูเป็นที่รู้จักของนักชิมเมื่อ ๗๐ ปี ก่อนโน้น"
Cr.FB: บ้านบางลำพู ครูสุดจิตต์






