- 22 ต.ค. 2560
มนต์ดำเขมร สิ่งลี้ลับที่จับต้องไม่ได้ แต่ทำให้คนตายมานักต่อนัก ปัจจุบันยังมีหลงเหลือให้เห็น ในรูปแบบดังต่อไปนี้...
วันนี้ผู้เขียนจะขอเสนอเรื่องราวของคุณไสยกันต่อค่ะ โลกยุคปัจจุบันหากมีใครสักคนพูดถึงเรื่อง โดนของ
หรือถูกกระทำ ไสยศาสตร์ มนตร์ดำ เข้าตัวแล้วล่ะก็ จะต้องถูกมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระงมงายทันทีเพราะ
ผู้คนสมัยนี้ส่วนมากจะไม่มีความเชื่อว่าการกระทำของ หรือ ไสยศาสตร์ ยังคงมีอยู่จริงและมีจำนวนมากเลยทีเดียว
ที่เป็นแบบนี้ คงเพราะว่ายังไม่มีใครเคยพบเคยเจอและเคยโดนเข้าจังๆกับตัวเองก็เป็นได้
“ไสยศาสตร์”คือ วิชาเกี่ยวกับเวทมนตร์คาถาอาคม และเลขยันต์ กอรปด้วยหลักการใช้อำนาจสมาธิจิต ต่อด้วยการกล่าวสาธยายเวทมนตร์คาถาตามศาสตร์ตำราโบราณ ซึ่งใช้ในการภาวนาปลุกเสกอันเป็นสิ่งลี้ลับแห่งศาสาตร์โลก จริงๆแล้วคำว่า “ไสยศาสตร์”ที่เกี่ยวข้องผนวกกับเวทมนตร์คาถาอาคม สมัยโบราณอันเป็นต้นตำรับนั้น เดิมทีเขาใช้กันเพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่นที่ได้รับความเดือดร้อนทุกข์ยากทรมานและรักษากันเองภายในวงศ์ตระกูลเท่านั้นไม่ได้จะเอามาใช้สร้างประโยชน์พล่ำเพรื่อสนองกิเลสตัวเองเช่นคนสมัยนี้ เพราะว่าคนสมัยโบรณเขามีคุณธรรมในใจสูง หรือ จะเรียกว่าเขารู้จักคิดรู้จักยับยั้งชั่งใจไม่ปล่อย กิเลส อยู่เหนือกว่าคุณธรมและความถูกต้องจารีตขนบธรรมเนียมประเพณี ไม่มีความโลภเป็นที่ตั้งและไม่มีความเห็นแก่ตัวเป็น สรณะ
แต่หลังๆมา ความมีคุณธรรมในใจของผู้คนเสื่อมถอยลงถูกครอบงำกลืนกินด้วยกิเลสความโลภและความเห็นแก่ตัว จึงมีจิตใจต่ำทรามไม่รู้อะไรดีอะไรชั่วพากันนำ”ศาสตร์”วิชาเหล่านี้ไปประยุกต์ดัดแปลงให้กลายเป็นอาวุธใช้สังหารฝ่ายตรงข้ามอย่างโหดเหี้ยมอำมหิต ในที่สุดก็กลายเป็น”ไสยศาสตร์มนตร์ดำ “สำหรับใช้ประกอบอาชีพ “รับจ้างฆ่า”ซึ่งถือว่าเป็นอาวุธร้ายแรงที่ทรงพลังอำนาจความลี้ลับอาถรรพ์ อันน่าสะพรึงกลัว มากที่สุด และไม่ผิดกฎหมายบ้านเมืองเนื่องจากไม่สามารถตรวจพิสูจน์หาหลักฐานมัดตัวเอาความผิดจากใครได้ จึงจำเป็นต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเวรกรรมไปเพราะอย่างน้อย “กฏแห่งกรรมนั้นก็มีความยุติธรรมที่เสมอภาคสำหรับทุกคนเสมอ” ไม่มีข้อละเว้นสำหรับผู้กระทำความเลวทรามต่ำช้าสามานย์ทั้งปวง
ของเขมรที่น่ากลัวมีอยู่หลายอย่าง ซึ่งได้มีพิธีกรรมสืบทอดเอาไว้จากรุ่นต่อรุ่นจวบกระทั่งยุคสมัยปัจจุบัน และนับวันก็ยิ่งทวีคูณความร้ายกาจความน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมากในอานุภาพความโหดเหี้ยมอำมหิตของ”คุณไสยมนตร์ดำ”
*****ซึ่งจากการสืบค้นผู้เขียนพบว่าของเขมรที่ยังคงมีเหลืออยู่ในปัจจุบันที่พอจะเรียบเรียงมาเล่าสู่ท่านผู้อ่านได้ก็มีดังต่อไปนี้ค่ะ
1.แบบฝังรูปฝังรอย น้ำมันพราย
2.แบบยาสั่ง สั่งตาย
3.แบบเสกหนังควาย ตะปูตอกฝาโลง เข็ม ดินอาถรรพ์ เศษแก้วป่น ใบมีดโกน..(เข้าท้อง)
4.แบบลมเพลมพัด
การทำคุณไสยนี้เมื่อทำแล้วผู้ถูกกระทำจะได้รับผลโดยมีอาการที่แตกต่างกันออกไปดังต่อไปนี้ค่ะ
1.ถึงแก่ความตาย
2.มีอาการบ้าเสียสติ
3.รักหลงงวยงง
4. หงุดหงิดโมโหร้าย ชอบเหม่อลอยพูดพร่ำคนเดียว
5.ปวดท้อง ท้องบวมขยายใหญ่ทรมานกระทั่งตาย
6.หน้าดำหมองคล้ำ ร้อนรนกระวนกระวายใจ อยู่ไม่ติดที่
7.อารมณ์ร้อน ใครทำอะไรก็ดูขวางหูขวางตา ไม่สบอารมณ์พาลหาเรื่องคนในบ้าน
8.มีอาการเห็นภาพหลอนไม่มีเรี่ยวแรง
9.หูแว่ว ได้ยินเสียงคนเรียก ได้ยินเสียงคนจะมาฆ่าตลอดเวลา
10.มีอาการใจสั่นเจ็บแน่นที่หน้าอก หายใจลำบาก
11.นอนไม่หลับ สะดุ้งตื่นฝันร้ายตลอด
12.กินข้าวกินปลาไม่ได้ มองเห็นภาพหลอน ขี้หวาดกลัวหวาดระแวงกลัวคนมาฆ่าไม่กล้ากินอะไรกระทั่งหมดแรงถึงแก่ความตายในที่สุด
13.อาเจียนเป็นเลือดสดๆเหม็นเน่ากลิ่นคาวคลุ้ง
14.มีอาการปวดหัวอย่างรุนแรง ราวกับมีคนเอาฆ้อนมาทุบ
15.มีแผลผุเปื่อยขึ้นเองตามส่วนต่างๆของร่างกาย มีน้ำเหลืองไหลเยิ้มกลิ่นเน่าคล้ายซากสัตว์ตาย
16.เจ็บปวดตามเนื้อตามตัว โดยเฉพาะบริเวณต้นคอท้ายทอยเหมือนมีอะไรมากดทับอยู่ตลอดเวลา ตรงบริเวณชายซี่โครงด้านซ้ายเจ็บปวดราวกับถูกอะไรทิ่มแทง
17.มีอาการคันไปทั้งตัวโดยหาสาเหตุไม่พบ และจะค่อยๆเน่าบาดแผลยุบลึกไปเรื่อยๆรักษาไม่หายจนกระทั่งถึงแก่ความตาย
18. มักปวดที่หัวเข่า ตามข้อเท้า ข้อมือบวมลักษณะคล้ายๆถูกหนังยางรัดไว้เป็นเวลานาน
19. นิ้วมือนิ้วเท้ามีลมขังแข็งเกร็งจะออกอาการบิดเบี้ยวเหมือนคนเป็นอัมพฤกษ์ เจ็บปวดทรมานมากๆ
20.บางรายมีอาการปวดบริเวณสะเอวเหมือนมีอะไรจิกกัดอยู่ข้างในตัว เรอติดต่อกันเป็นเวลานาน บางรายก็บ้านแตกสาแหรกขาด เลิกร้างรากันทะเลาะกันมีปัญหารุมเร้า!! เห็นไหมล่ะคะว่าอำนาจความอาถรรพ์ของ”ไสยศาสตร์มนตร์ดำ”มันร้ายแรงแค่ไหน?ทางที่ดีอย่าไปข้องแวะหรือเอาตัวไปเฉียดใกล้กับสิ่งเหล่านี้เป็นดีที่สุดค่ะ แล้วพบกันในตอนต่อๆไปนะท่านผู้ชม
ขอขอบคุณท่านผู้เป็นเจ้าของเครดิตภาพที่ผู้เขียนได้นำมาจาก (อินเตอร์เน็ต)เพื่อใช้ในการแสดงประกอบเนื้อหาสาระข้อมูลนี้ค่ะ..และขอขอบคุณแหล่งสาระความรู้ข้อมูลด้าน”ไสยศาสตร์มนตร์สายเขมร” (บางส่วน!!)จาก อินเตอร์เน็ต ค่ะ
เรียบเรียงโดย:โชติกา พิรักษา และ ศศิภา ศรีจันทร์ ตันสิทธิ์



