- 27 ต.ค. 2560
"สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ" อีกบท"วัดใจ"ของหน่วยงานรัฐ
จากผลการดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ในช่วง3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้เกษตรกรได้รับประโยชน์ แต่ก็ยังไม่ทั่วถึง
เพื่อต้องการลดความซำ้ซ้อนและรวบรวมของงานด้านน้ำ ซึ่งปัจจุบันกระจายอยู่ใน 10 กระทรวง มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 30 หน่วยงาน มีกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 30 ฉบับ
นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคสช.จึงออกคำสั่งมาตรา 44 จัดตั้ง"สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ "ให้ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนการบริหารจัดการน้ำ ทั้งระบบ เตรียมรับมือและวางแนวทางป้องกันไม่ว่าจะน้ำแล้ง น้ำท่วม รวมถึงเตรียมการรองรับ พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ ที่ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนพิจารณาของสภานิติบัญัติแห่งชาติ (สนช.)
ซึ่งเดิม ได้เตรียมขยับโอนหน่วยงานด้านน้ำมารวมอยู่ในสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ โดยเริ่มจากกรมทรัพยากรน้ำ ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เพื่อให้เป็นหน่วยงานหลัก ขณะที่กรมชลประทาน ที่อยู่ในสังกัดของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเดิมมีบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหาเรื่องนำ้ กลับเป็นหน่วยงานระดับรองหรือระดับปฎิบัติ
เรื่องดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ถึงกับออกมาปฎิเสธ การยุบกรมชลประทาน เข้าไปรวมกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
นั่นเป็นเหตุผลสำคัญ ที่รัฐบาลออกเบรค พร้อมสั่งให้การชะลอ การโอนย้ายกรมทรัพยากรน้ำ ไว้ก่อน
ซึ่ง พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่า รัฐบาลได้พิจารณาในรายละเอียดแล้วพบว่า เรื่องน้ำ ไม่ได้อยู่ที่กรมทรัพยากรน้ำอย่างเดียว แต่มีกรมอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย
ซึ่งการจัดตั้งสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติขึ้นมาใหม่ อยู่ภายใต้การกำกับดูแลสำนักนายกฯ ทำหน้าที่ในการบูรณาการงานของกรมน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กรมอุตุนิยมวิทยา และกรมชลประทาน รวมบูรณาการข้อมูล แผนงานโครงการ งบประมาณ การติดตามประเมินผล และการควบคุมการปฏิบัติงาน
อย่างไรก็ตามกรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทำงานตามปกติเหมือนเดิม แต่อะไรที่เป็นเรื่องใหญ่ต่อการบริหารจัดการเพื่อป้องกันเหตุรุนแรง หรือแผนงานใหญ่ๆ สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติจะเป็นผู้ดำเนินการเอง
นี่เป็นเพียงระยะแรก ยังมีปัญหา"ชิงดี ชิงเด่น ..หวงอำนาจ"ระหว่างหน่วยงานขนาดนี้ และในระยะต่อไป รัฐบาลยังจะมีโปรเจคเตรียมตั้งกระทรวงน้ำอีก
จะเป็นอย่างไร ..ยังไม่อยากคิด
หากเป็นเช่นนี้ ประชาชน คงเจอสภาวะน้ำท่วม น้ำแล้ง ต่อไป