ตูนนายแน่มาก!!!  นักวิชาการมุสลิม อุสตาซ ประสานเสียง เชิญชวนคนไทยมุสลิมร่วมบริจาค บอกการบริจาคครั้งนี้คือความดีที่ไม่สิ้นสุด

ตูนนายแน่มาก!!! นักวิชาการมุสลิม อุสตาซ ประสานเสียง เชิญชวนคนไทยมุสลิมร่วมบริจาค บอกการบริจาคครั้งนี้คือความดีที่ไม่สิ้นสุด

จากปรากฎการณ์ที่ตูน บอดี้สแลมได้เริ่มต้นไว้กับโครงการก้าวคนละก้าวเพื่อ11โรงพยาบาลทั่วประเทศ กำลังเป็นสิ่งที่ถูกกล่าวขวัญถึงอย่างกว้างขวาง  แม้โครงการจะเริ่มต้นขึ้นในระยะเวลาแค่เพียง5วัน แต่ตูนได้สร้างปรากฎการณ์ที่ยิ่งใหญ่ กับภาพของความรักที่มีให้แก่กัน ภาพแห่งรอยยิ้ม และภาพแห่งน้ำใจของคนชายแดนใต้ ด้ามขวานของไทย

โดยไม่มีการแบ่งแยกใดๆ ว่าคุณคือไทยพุทธหรือ คุณคือไทยมุสลิม กล่าวได้แค่เพียงคุณคือ "คนไทย" และปรากฎการณ์นี้ก็ไม่ได้สร้างแค่รอยยิ้มให้เฉพาะคนชายแดนใต้เท่านั้น ภาพที่เกิดขึ้นยังขยายวงสร้างรอยยิ้ม และน้ำตาแห่งความดีใจเปี่ยมสุขมายังคนไทยทั้งประเทศอีกด้วย

ตูนนายแน่มาก!!!  นักวิชาการมุสลิม อุสตาซ ประสานเสียง เชิญชวนคนไทยมุสลิมร่วมบริจาค บอกการบริจาคครั้งนี้คือความดีที่ไม่สิ้นสุด

ตูนนายแน่มาก!!!  นักวิชาการมุสลิม อุสตาซ ประสานเสียง เชิญชวนคนไทยมุสลิมร่วมบริจาค บอกการบริจาคครั้งนี้คือความดีที่ไม่สิ้นสุด

 

 

 

และสำหรับในสังคมมุสลิมจังหวัดชายแดนใต้ประเด็นนี้ก็กำลังเป็นประเด็นที่ถูกนำมากล่าวถึงเช่นกัน อุสตาซอับดุชชะกรู บินชาฟิอีย์ กรรมการสภาประชาสังคมชายแดนใต้ ได้กล่าวในเรื่องไว้ใน
deepsouthwatch.org ว่า 

"ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขแด่ศาสนทูตมูฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

จากโครงการ"ก้าวคนละก้าวเพื่อ11โรงพยาบาลทั่วประเทศ"ระยะทาง2191 กิโลเมตร จากใต้สุดที่อ.เบตง จ.ยะลา สู่เหนือสุดอ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อนำรายได้จัดซื้อเครื่องมือแพทย์ให้โรงพยาบาลศูนย์11แห่งของตูน นักร้องนำวงบอดี้สแลม พร้อมด้วย ก้อย รัชวิน และทีมงานโดยปัจจุบันได้ผ่านชุมชนต่างๆชายแดนใต้ซึ่งส่วนใหญ่มีคนชื่นชม แต่หลังจากมีภาพสาว หรือ สตรีมุสลิมในพื้นที่มากมายถ่ายภาพเซลฟี่ทำให้ นักเลงคีย์บอร์ดบางส่วนออกมาโจมตี แต่ก็มีนักวิชาการมุสลิมบางท่านหรือหลายท่านออกมาชี้แจง หนึ่งในนั้นคือท่าน

อับดุลกอเดร มัสแหละ ได้เขียนบทความผ่านเฟสท่านในหัวข้อ จากกระทงมาถึงตูน....โดยมีรายละเอียดดังนี้

"เมื่อคืน3/11/60)เป็นคืนลอยกระทงสังคมไทยเป็นสังคมที่อยู่ริมน้ำ พวกเรามุสริมก็อยู่ริมน้ำเช่นกัน 
กระทงกับคนไทย กระทงกับมุสลิม มันก็อยู่ก็เห็นกันมานาน ตั้งแต่อดีตมาก็ไม่เห็นจะมีปัญหาตรงไหน

มุสลิมไม่ลอยกระทงก็รู้กันมาตั้งนาน เพราะมันไม่ใช่ประเพณี วัฒนธรรมของมุสลิม ก็ไม่เห็นจะมีปัญหากันตรงไหน
แต่ปัจจุบันกลับมีปัญหา ก็ไม่ทราบว่ามันเกิดการขัดข้องทางเทคนิคตรงไหน เมื่อไหร่ หรือมุสลิมหย่อนยาน หรือว่ามุสลิมเกิดเคร่งเกินไป

เคร่งไม่เป็นไร แต่อย่าเคร่งจนล้ำเส้น ไม่ว่าเทศกาลอะไรมา มุสลิมเป็นได้วิจารณ์แหลก หลายคนก็วิจารณ์ล้ำเส้น แบบขาดความเกรงใจ

ผมก็ไม่เห็นว่ามีใครมาชวนมุสลิมไปลอยกระทงและมุสลิมบางคนที่แอบไปงานลอยกระทงก็ไม่มีใครมาชวนสักหน่อย
การที่มุสลิมบางคนไปวิพากษ์ วิจารณ์เกินความพอดี ผมไม่เห็นด้วย หลายครั้งวิจารณ์เกินเลยมากไป  ไปกระทบความเชื่อของเขา

ทำไมล่ะใครจะทำตามความเชื่อของใคร มันเกี่ยวอะไรด้วย ทำไมเราต้องเดือดร้อนด้วย ในเมื่อสิ่งเหล่านี้เราก็เคยเห็น และมันก็อยู่กับพหุวัฒนธรรมมาโดยตลอด

เราจะจัดงานอะไร ก็ไม่มีใครมาว่าอะไรเรา วันอีดเราจะมีอะไร เพื่อนๆต่างศาสนิกก็ไม่เคยมาก้าวก่ายเรา แล้วทำไมเมื่อเขามีเทศกาลของเขาเราต้องวิพากษ์จนเกินเลย  อุมมุเตาวะสะฎอ มันหายไปไหนหมด

คนในอดีตเคร่งกว่าคนยุคนี้ เขาก็ไม่เห็นจะต้องไปล้ำเส้นกัน เขาถึงอยู่ได้อย่างมีความสุขท่ามกลางการเข้าใจซึ่งกันและกัน
เช่นเดียวกันที่ตูน บอดี้สแลม ออกวิ่งรณรงค์ซื้อเครื่องมือแพทย์ให้โรงพยาบาล ผมก็งงมากที่บางคนออกมาต่อว่าเสียๆหายๆ
ภาพลักษณ์ที่พี่น้องมุสลิมสามจังหวัดร่วมกันบริจาค 

เป็นภาพลักษณ์ที่สวยงาม เพราะเป็นการบริจาคเพื่อมนุษยธรรม หลายฝ่ายชื่นชมสิ่งที่ออกมามันตรงกันข้ามกับความโหดร้าย
แต่ก็แปลกเกิดมีคนรู้สึกไม่พอใจ ผมงงมาก ...โดยเอาภาพที่มีคนถ่าย "เซลฟี่"กับตูนมาวิจารณ์ทั้งๆที่ตูนก็นอบน้อมเกรงใจ เขาก็คงเรียนรู้วัฒนธรรมประเพณีของคนมุสลิม

แต่ภาพ"เซลฟี"เราควรตำหนิใคร หรือเราไม่ได้สอนคนของเราเอง แต่ไปตำหนิคนอื่นมันเลยไม่ต่างกันกับลอยกระทง  คนของเราหนีไปเที่ยวเอง แต่เรากลับไปโทษเทศกาลลอยกระทง

ถามว่า"ตูน" ใครๆก็รู้จัก เมื่อผู้คนจะชื่นชมยินดี มันก็เป็นเรื่องปกติ  ส่วนสาวๆมุสลิมที่ออกจะเกินเลยถามว่าจะโทษใคร

เริ่มแรกก็ผู้ปกครอง พ่อแม่เขานั้นแหละที่ต้องตักเตือนเป็นอันดับแรก ส่วนพวกเรานั้นก็ตักเตือนด้วยกับวิทยปัญญา การตักเตือนมันก็มีรูปแบบไว้แล้ว

การใกล้ชิดระหว่างหญิงสาว-ชายหนุ่มที่มิใช่เป็นญาติใกล้ชิด มัน "ฮาราม" ต้องห้ามตามหลักการอิสลาม ถามว่ามุสลิมไม่รู้หรือไง  รู้หมดละครับ

ก่อนจะไปด่า "กระทง" ก่อนจะไปต่อว่า "ตูน"

มาต่อว่าพวกเรากันเองไม่ดีกว่าหรือ...และการจะต่อว่าใครก็ควรมองถึงผลกระทบด้วยว่า มันเหมาะสมหรือไม่
ถ้าคิดว่าการบริจาคเงินผ่านตูนเพื่อไปซื้อเครื่องมือแพทย์ ไม่ดี สู้เอาเงินไปสร้างมัสยิดไม่ได้ คุณก็ทำไปเลย มีมัสยิดอีกมากมายที่ยังไม่แล้วเสร็จใครที่บริจาคเงินสร้างมัสยิดดีครับ ไม่มีใครว่าไม่ดี

แต่ถ้าเขาจะบริจาคเพื่อมนุษยธรรมแล้วไง...หรือเราคิดว่าคนที่บริจาคเงินผ่านตูน เขาไม่เคยบริจาคเงินสร้างมัสยิดหรือไง
แต่ถ้าจะมีมุสลิมคนใดจะไปช่วยซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ให้โรงพยาบาล โดยผ่านตูนซึ่งเขากำลังรณรงค์ นั่นก็เรื่องของเขา

ส่วนเรื่องที่คนของเราเกินเลย นั่นเราต้องมาว่ากันเอง การตักเตือนมิใช่การด่า หรือประจานผมว่าไปห้ามคนที่เอาเงินไปซื้อยาบ้า เล่นการพนันดีกว่ามั้ง ถ้าคุณทำแบบนี้ออกเฟสบุค รับรองได้มีคนเชียร์คุณเพียบ ยกเว้นคนขายยาบ้า และเจ้ามือบ่อนเท่านั้นที่ไม่พอใจ

อย่าทำอะไรให้คนเขาคิดว่า มุสลิมนี่หาความพอดีไม่ได้เลย ใครทำอะไรเป็นขวางหูขวางตาไปทุกเรื่อง มันเสียภาพลักษณ์มุสลิมผู้ใฝ่หาสันติหมด

 

ปรากฎการณ์ตูนได้สะท้อนให้สังคมมุสลิมจชต./ปตานีทุกภาคส่วนโดยเฉพาะโลกโซเชียลต้องมีทักษะด้านต่างๆอีกมาก เช่นมุมมองการบริจาคสาธารณประโยชน์ผ่านต่างศาสนิก ทักษะการสนับสนุนความดีละเว้นความชั่วตามมุมมองศาสนา
ทักษะการทำกิจกรรมสาธารณกับคนต่างวัฒนธรรม

ตูนนายแน่มาก!!!  นักวิชาการมุสลิม อุสตาซ ประสานเสียง เชิญชวนคนไทยมุสลิมร่วมบริจาค บอกการบริจาคครั้งนี้คือความดีที่ไม่สิ้นสุด

ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของผู้เขียน ผู้เผยศาสนธรรมและทุกคนจะร่วมด้วยช่วยกันอย่างไรในภารกิจหนุนเสริมความดีละเว้นความชั่วอย่างมีอารยะตามกรอบอิสลามเพราะอิสลามคือแนวทางการดำเนินชีวิต

ท้ายนี้ฝากชาวมุสลิมทุกท่าน2เรื่องกรณีตูนวิ่งการกุศลผ่านแต่ละพื้นที่

1.ร่วมกันบริจาคเพราะมันคือความดีที่ไม่สิ้นสุด
2.สำหรับมุสลิมผู้ที่เซลฟี่ขอให้อยู่ในกรอบของมารยาทและหลักการอิสลาม"

 

 

ขอบคุณ:ข้อมูลจาก deepsouthwatch