ถูกกล่าวหาแต่นั่งพิจารณากฎหมาย! ‘บิ๊กป๊อด’ จะทำอะไรกับพ.ร.บ.ป.ป.ช.

ร้องยี้กันระงม หลังมีชื่อ “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ และพล.ต.ท.บุญเรือง ผลพาณิชย์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นั่งเป็นคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. …

ไม่ได้ยี้เพราะ “บิ๊กป๊อด” เป็นน้องในไส้ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ผู้มากบารมีในยุคปัจจุบัน เพราะในฐานะสมาชิกสนช. พล.ต.อ.พัชรวาท หนีไม่พ้นอยู่แล้วจะต้องนั่งเป็นกมธ.พิจารณากฎหมายฉบับใดฉบับหนึ่ง

 

 

แต่เพราะ “บิ๊กป๊อด” และพล.ต.ท.บุญเรือง เป็นบุคคลที่มีคดีความอยู่ในสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยทั้งคู่ถูกล่าวหาว่า ร่ำรวยผิดปกติกรณีร่วมกันเป็นเจ้าของคอกม้าชื่อดัง ‘รุ่งโรจน์ รุ่งพัชร’ ที่แก่งคอยมูลค่าเป็นร้อยๆ ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังถูกกล่าวหาว่า ทำนิติกรรมอำพรางด้วยการจดทะเบียนจัดตั้ง หจก.สมถวิลรีสอร์ท ที่มี “นางสมถวิล วงษ์สุวรรณ “คู่สมรส และ “น.ส.นวพร วงษ์สุวรรณ” บุตรสาว เป็นหุ้นส่วน เพื่อเป็นเจ้าของ “สมถวิลรีสอร์ต” มูลค่ากว่าร้อยล้านบาท
คดีนี้ยังไม่จบ ยังอยู่ระหว่างการไต่สวนข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน ดังนั้น ต่อให้ทางกฎหมายทั้งคู่จะเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ถือว่า มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรง

เพราะวันนี้กฎหมายที่ทั้งคู่กำลังจะพิจารณาเป็นกฎหมายที่ให้ “คุณ” และ “โทษ” กับตัวเองได้ แม้จะเป็นเพียงแค่ 2 เสียงจากทั้งหมด 35 เสียง  แต่อย่าลืมว่า “บิ๊กป๊อด” คือ “ผู้มากบารมี” ในสนช. ที่สามารถส่งซิกให้ทุกคนคล้อยตามได้ เพราะตัวเองมีภาพของ “พี่ชาย” อยู่

 

แม้จะมีการออกมาแก้ต่างแก้ตัวกันว่า ถ้าไม่เหมาะสมทั้งคู่ไม่จำเป็นต้องเข้าพิจารณาในเรื่องนั้นๆ แต่ในความสภาพความเป็นจริง เพื่อทำให้กฎหมายมีความศักดิ์สิทธิ์และมีความน่าเชื่อถือ การลาออกจากกมธ.เพื่อลดข้อครหาน่าจะเป็นเรื่องง่ายกว่า
เนื่องจากกฎหมายป.ป.ช.เป็นกฎหมายสำคัญในการแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น ถ้า “เครดิต” ต่ำเสียแล้ว ภายภาคหน้าอาจถูกนักการเมืองย้อนศร ไม่ให้ความเคารพย่ำเกรง

 

ในเมื่อไม่มีนัยสำคัญ หรือเป้าประสงค์อะไร ลำพังแค่กฎหมายฉบับเดียว ไม่ถือเป็นการเสียหน้าหากจะลาออก ยกเว้นแต่กำลังคิดจะทำอะไรอยู่เท่านั้นเอง.