ตอกหน้าพวกชอบแซะ!!! "ไนกี้"ยกย่อง โครงการของตูนนั้นยิ่งใหญ่ ไม่ใช่แค่ในไทยแต่ถือว่ายิ่งใหญ่ระดับโลก ออกโรงช่วยเพิ่มศักยภาพตูน ใน "ก้าวคนละก้าว"!!!

เรียกได้ว่าในวันนี้นั้น ได้เข้าสู่ วันออกวิ่งวันที่ 8 ของโครงการ “ก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ” โดยคณะของตูน ได้เริ่มออกวิ่งจากบริเวณวัดน้ำน้อยนอก ม.1 ต.น้ำน้อย อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เเละมุ่งหน้าไปตาม ถ.กาญจนวนิช สู่ อ.เมืองสงขลา มีปลายทางในเซตเเรกอยู่ที่ปั้ม PT อ.เมืองสงขลา ระยะทาง 11.1 กิโลเมตร ซึ่งมีชาวเมืองสงขลา รวมท้งเด็กนักเรียน ออกมายืนรอต้อนรับ เเละมอบเงินบริจาคให้กับตูน โดยยอดบริจาคล่าสุดมากกว่า 111,700,000 บาท

ตอกหน้าพวกชอบแซะ!!! "ไนกี้"ยกย่อง โครงการของตูนนั้นยิ่งใหญ่ ไม่ใช่แค่ในไทยแต่ถือว่ายิ่งใหญ่ระดับโลก ออกโรงช่วยเพิ่มศักยภาพตูน ใน

ตอกหน้าพวกชอบแซะ!!! "ไนกี้"ยกย่อง โครงการของตูนนั้นยิ่งใหญ่ ไม่ใช่แค่ในไทยแต่ถือว่ายิ่งใหญ่ระดับโลก ออกโรงช่วยเพิ่มศักยภาพตูน ใน ตอกหน้าพวกชอบแซะ!!! "ไนกี้"ยกย่อง โครงการของตูนนั้นยิ่งใหญ่ ไม่ใช่แค่ในไทยแต่ถือว่ายิ่งใหญ่ระดับโลก ออกโรงช่วยเพิ่มศักยภาพตูน ใน

ตอกหน้าพวกชอบแซะ!!! "ไนกี้"ยกย่อง โครงการของตูนนั้นยิ่งใหญ่ ไม่ใช่แค่ในไทยแต่ถือว่ายิ่งใหญ่ระดับโลก ออกโรงช่วยเพิ่มศักยภาพตูน ใน

ตอกหน้าพวกชอบแซะ!!! "ไนกี้"ยกย่อง โครงการของตูนนั้นยิ่งใหญ่ ไม่ใช่แค่ในไทยแต่ถือว่ายิ่งใหญ่ระดับโลก ออกโรงช่วยเพิ่มศักยภาพตูน ใน

ล่าสุดผู้ใช้เฟซบุ๊กที่มีชื่ิอว่า "Jaroensook Limbanchongkit Pone" ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับโครงการนี้ไว้อย่างน่าสนใจว่า

ตลอดทั้งวันนี้ ได้มีการสร้างกระแสแซะเรื่อง “ไนกี้” กับ “ตูน บอดี้แสลม” 
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เกิดกระสุนด้านในการแซะและเสี้ยม “ตูน” กับการวิ่งในโครงการนี้ แม้จะได้มีการยัดสารพัดข้อหา แต่ก็แซะไม่ขึ้น เสี้ยมไม่ขึ้น
ล่าสุด ภายหลังจากที่ไนกี้ ซึ่งประทับใจในเรื่องราวของตูนตั้งแต่โครงการแรกของ #คนละก้าว เมื่อปีที่แล้ว พอมาถึงโครงการที่ 2 นี้ ไนกี้จึงได้นำเสนอเรื่องราวของตูนกับโครงการใหม่นี้ผ่านทางเว็บไซต์ Nike.com อันเป็นเว็บแม่ของไนกี้ โดยเขียนเป็นภาษาอังกฤษ
เพราะเห็นว่าโครงการของตูนนั้นยิ่งใหญ่ ไม่ใช่ยิ่งใหญ่แค่ในไทย แต่ถือว่ายิ่งใหญ่ในระดับโลก เพราะเป็นเรื่องราวของมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งที่ยอมอุทิศตัวเองเพื่อสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้แก่มวลมนุษยชาติ
ซึ่งไนกี้ได้เห็นความตั้งใจจริงของตูน ความมีน้ำใจอันยิ่งใหญ่ของตูน จึงอาสาเข้าช่วย เพราะรู้ว่าตูนเองก็เป็นแฟนพันธุ์แท้ของไนกี้
โดยไนกี้ได้ใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาและประสบการณ์ด้านการทำรองเท้าวิ่งมาช่วยตูนให้สามารถบรรลุฝั่งฝันได้ในการวิ่งให้ได้ต่อเนื่องตลอด 55วัน ๆ ละ 50 กม.
ทั้งนี้ พอไนกี้นำเสนอเรื่องราวของตูนผ่านเว็บไซต์ของไนกี้ ถ้าเป็นคนทั่วไป อ่านบทความนี้ก็คงปลื้มปริ่มกับตูนไม่น้อย
โดยไนกี้ ได้มองว่าโครงการ #ก้าวคนละก้าว ของตูนนั้นเป็นดั่ง “Epic” ยิ่งใหญ่ระดับ “มหากาพย์” หรือ “ตำนาน” แปลไทยเป็นไทยก็คือ “สุดยอด” ถ้าญี่ปุ่นก็ “สุโก้ย Sugoi”
แต่สำหรับพวกแซะ พวกเสี้ยม กลับมองเห็นเป็นโอกาสในการนำมาเขียนโยงทำนองว่าที่ “ตูน” วิ่งในโครงการ #ก้าวคนละก้าว มีไนกี้อยู่เบื้องหลัง โดยเป็นสปอนเซอร์รายใหญ่
ซึ่งทั้งที่จริงแล้ว หากไนกี้จะเป็นสปอนเซอร์จริงจะเสียหายอย่างไร ผมก็ยังสงสัยอยู่ แถมผมยังคิดต่อว่าดีเสียด้วยซ้ำที่ไนกี้จะมาเป็นสปอนเซอร์ เพราะจะทำให้มีเม็ดเงินบริจาคเพิ่มมากขึ้น
และต่อไปนี้เป็นบทแปลเนื้อหาจากเว็บไนกี้ที่เขียนถึงตูน แปลโดยเว็บของสยามสปอร์ต ซึ่งแปลได้ดีมากๆ
ลองอ่านกันดูนะครับ
............
เบื้องหลังสู่เป้าหมาย: ความมุ่งมั่นของไนกี้ช่วยเพิ่มศักยภาพตูน ใน ‘ก้าวคนละก้าว’
นอกจากร่างกายต้องพร้อมแล้ว เสื้อผ้า รองเท้าก็เช่นกัน ‘ความมุ่งมั่นของไนกี้ในการช่วยเพิ่มศักยภาพของผมในครั้งนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ผมพยายามมากขึ้นไปอีก’ ตูนกล่าว
เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน อาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ‘ตูน บอดี้แสลม’ เริ่มต้นการวิ่งครั้งประวัติศาสตร์ กับระยะทาง 2,191 กิโลเมตร (1,361 ไมล์) เป็นเวลา 55 วัน จากอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ทางตอนใต้ของประเทศ ไปจนถึงอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายทางภาคเหนือ ไม่ได้มีอะไรรอเขาอยู่ที่เส้นชัย แต่เขาก็ไม่ได้วิ่งเพื่อตนเอง ตูน กำลังวิ่งเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยด้วยการระดมทุนครั้งใหญ่ มูลค่ากว่า 20 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 700 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาล 11 แห่งในประเทศไทย และถ้าคนไทยช่วยกันบริจาคเพียงคนละ 10 บาท (30 เซ็นต์สหรัฐ) เป้าหมายนี้ก็จะบรรลุได้ภายใน 25 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดการวิ่ง
“นอกจากจะระดมทุนเพื่อพัฒนาโรงพยาบาลในประเทศไทยแล้ว 
อีกจุดประสงค์คือให้คนไทยหันมาออกกำลังกายและใส่ใจสุขภาพ”
อาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม กล่าว
สิ่งที่น่าสนใจไปกว่าเส้นทางการวิ่งและเป้าหมายการระดมทุนของเขาก็คือความจริงที่ว่าตูนไม่ใช่นักวิ่งมืออาชีพ เขาเป็นนักร้องนำของวงร็อกระดับแนวหน้าของประเทศ “บอดี้สแลม” และตูนเองก็เป็นร็อกเกอร์ชื่อดัง แต่เขาเป็นผู้หลงใหลในการวิ่ง และสิ่งนี้เองที่ทำให้เขาตัดสินใจออกเดินทางครั้งสำคัญในครั้งนี้
เพื่อช่วยให้ตูนบรรลุเป้าหมายได้โดยการเพิ่มศักยภาพและลดการบาดเจ็บระหว่างวิ่ง ไนกี้ได้เชิญตูนไปเยี่ยมสำนักงานใหญ่ของไนกี้ ณ เมืองเบเวอร์ตัน รัฐโอรีกอน โดยเขาได้พบกับผู้เชี่ยวชาญและทีมงาน Breaking2 ของ Nike Sports Research Lab (NSRL) เพื่อมองหาวิธีที่จะช่วยให้เขาวิ่งได้ดีขึ้น นอกจากนี้ตูนยังได้พบกับผู้เชี่ยวชาญเรื่องรองเท้าและเสื้อผ้า ทางทีมงานได้วิเคราะห์ร่างกายของตูนเพื่อทำความเข้าใจความเร็วในการวิ่ง อัตราการเต้นของหัวใจ ปริมาณน้ำและแคลอรีที่ต้องการ การพักฟื้น รวมถึงรองเท้าและเสื้อผ้าที่จะมาช่วยเขาตลอดการเดินทางครั้งนี้
ทีมงานได้วิเคราะห์ร่างกายของตูนเพื่อทำความเข้าใจความเร็วในการวิ่ง อัตราการเต้นของหัวใจ ปริมาณน้ำและแคลอรีที่ต้องการ การพักฟื้น
*** สิ่งที่ทีมงานได้ค้นพบก็คือ
ผู้เชี่ยวชาญด้านรองเท้าของไนกี้แนะนำให้ตูนสลับใช้รองเท้าทั้งหมด 5 คู่ ไม่ว่าจะเป็น Nike Zoom Fly หรือ Nike Zoom Vaporfly 4% ตลอดการวิ่ง 55 วันนี้
หลังจากจำลองสภาพอากาศของประเทศไทยที่ NSRL แล้ว (ตูนต้องทดลองวิ่งด้วยอัตราที่กำหนดและใส่เสื้อผ้าที่คาดว่าจะใช้ในการวิ่งจริง) นักวิทยาศาสตร์ได้สร้างแผนเพื่อกำหนดว่าควรจะดื่มน้ำเมื่อไหร่ ปริมาณเท่าไหร่ เพื่อให้ร่างกายอยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุด
การที่จะวิ่งได้วันละ 50 กิโลเมตร ต่อเนื่องเป็นเวลา 55 วันนั้นต้องใช้พลังงานสูงมากและร่างกายต้องทำงานหนัก นักวิทยาศาสตร์จึงได้แนะนำว่าควรรับประทานอาหารประเภทใดระหว่างการวิ่งต่อเนื่องครั้งนี้ (แนะนำว่าให้รับประทานข้าวอบกรอบรสน้ำผึ้งและแยมโรลชิ้นเล็ก เป็นต้น)
นอกจากนี้ ตูนยังได้รับชุดเซ็นเซอร์เพื่อใส่ระหว่างการวิ่ง เพื่อที่จะได้วิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับร่างกายของเขาในทุก
ๆ ก้าว ทุกการตอบสนอง และจะนำมาวิเคราะห์กับตูนทุกๆ 2-3 สัปดาห์
ก่อนที่ตูนจะเดินทางกลับประเทศไทย ทีมงานได้เซอร์ไพรส์เขาด้วยรองเท้า Nike Air Max 1 (ตูนกล่าวว่าเขาชอบรองเท้ารุ่นนี้มาก) พร้อมลายเซ็นของทิงเกอร์ แฮ็ทฟิลด์ (Tinker Hatfield) ดีไซเนอร์ในตำนานของไนกี้ ผู้อยู่เบื้องหลังการออกแบบรองเท้าไนกี้ชื่อดังหลายๆ รุ่น
“เรามีความยินดีที่ได้สนับสนุนตูนในภารกิจครั้งสำคัญครั้งนี้เพื่อแสดงให้คนไทยได้เห็นถึงความมหัศจรรย์ของการวิ่ง ทั้งต่อตัวผู้วิ่งและต่อสังคม” คุณพรรณี ศานติวิวัฒน์กุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ไนกี้ ประเทศไทย กล่าว “การกระทำของตูนสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนเป็นอย่างมาก เขาแสดงให้เห็นว่ากีฬาสามารถเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้อย่างแท้จริง”
*** ตูนเริ่มการวิ่งครั้งนี้ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ติดตามการเดินทางของเขาได้ที่นี่
เพื่อเฉลิมฉลองเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ของตูน ไนกี้ขอเชิญทุกท่านเข้าร่วมวิ่ง 10 กิโลเมตรสุดท้ายไปกับเขาในวันที่ 25 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเดินทางครั้งประวัติศาสตร์ ณ จังหวัดเชียงราย
และถ้าคุณอยู่ในกรุงเทพฯ วันที่ 25 ธันวาคม สามารถร่วมเฉลิมฉลองความสำเร็จของตูนไปพร้อมกับทีมไนกี้ได้ในกิจกรรม Nike Run Club ในเวลาเดียวกับที่ตูนปิดท้ายการวิ่งที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
https://news.nike.com/…/join-a-rock-star-on-his-epic-55-day…
http://gadgets.siamsport.co.th/as-part-of-the-major-rally-…/