โซเชียลกระหน่ำล่ารายชื่อ!!ผลุดแคมเปญใครเกี่ยวข้องปม"น้องเมย" ต้องลาออก แถมยกเลิก"ธำรงวินัย" ใช้ความรุนแรง!!??

โซเชียลกระหน่ำล่ารายชื่อ!!ผลุดแคมเปญใครเกี่ยวข้องปม"น้องเมย" ต้องลาออก แถมยกเลิก"ธำรงวินัย" ใช้ความรุนแรง!!??

สืบเนืองจากกรณีการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของ นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือน้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 หลังครอบครัวออกมาร้องเรียนสงสัยการตายผิดปกติ และไม่พบอวัยวะในร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณสมองซึ่งไม่ปรากฏอยู่ในศพ นอกจากนี้ภายในยังถูกยัดกระดาษเอาไว้ด้วย จนกลายเป็นประเด็นที่หลายคนสงสัยต้องการหาคำตอบการตายในครั้งนี้

 

จนนำมาสู่คำสั่งย้าย ของ พล..ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ลงนามคำสั่งกองทัพไทยที่ 104 /2560 สั่งย้าย พ.อ.ฉัตรชัย ดวงรัตน์ ผู้บังคับกรมนักเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศไปดำรงตำแหน่งนายทหารปฏิบัติการประจำกองบัญชาการกองทัพไทย และให้ พ.อ.เบญจพล เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา รองผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ดำรงตำแหน่งแทน 

 

นอกจากนี้ยังมีคำสั่งย้าย ..โทนพสิษฐ์ เพียรชอบ ผู้บังคับกองพัน นักเรียนกรมนักเรียนโรงเรียนเตรียมทหารไปประจำหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และให้ น.ท.ประเสริฐศิลป์ วรสิษฐ์ หัวหน้านายทหารฝ่ายสภาวุตหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินไปดำรง ตำแหน่งแทน

 

โซเชียลกระหน่ำล่ารายชื่อ!!ผลุดแคมเปญใครเกี่ยวข้องปม"น้องเมย" ต้องลาออก แถมยกเลิก"ธำรงวินัย" ใช้ความรุนแรง!!??

ล่าสุดทางโลกออนไลน์ได้เกิดกระแส การรณรงค์โดยให้ประชาชนร่วมลงชื่อส่งไปยัง “กองทัพบก” ในหัวข้อ “เจ้าหน้าที่และผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ “น้องเมย” ต้องลาออก” โดยผ่านทาง เว็บไซต์ change.org  ขณะที่ตรวจสอบได้มีผู้สนับสนุน 58,223 คน มีเนื้อหาดังต่อไปนี้

 

17 ตุลาคมที่ผ่านมา นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ “น้องเมย” นักเรียนเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ได้เสียชีวิตหลังจากกลับเข้ารับการฝึกที่โรงเรียนนายร้อยได้เพียง 1 วัน โดยทางโรงเรียนได้แจ้งกับทางญาติว่าน้องเมยเสียชีวิตจากสภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ ทุกๆ ปี นักเรียนนายร้อย และทหารเกณฑ์ จำนวนไม่น้อยต้องเสียชีวิตจากวัฒนธรรมการใช้ความรุนแรงของการทัพ ไม่ว่าจะเป็นการซ้อม การซ่อม หรือการ “ธำรงวินัย” นอกจากนี้ ผู้นำระดับสูงของกองทัพ และรัฐบาล ยังได้แสดงทัศนคติต่อเหตุการณ์ดังกล่าวราวกับเป็นเรื่องปกติ อีกทั้งยังอ้างว่าน้องเมยเสียชีวิตด้วยปัญหาสุขภาพของตนเอง ความพยายามของการทัพในการสร้างความชอบธรรมให้กับวัฒนธรรมป่าเถื่อนรุนแรงของตัวเองเช่นนี้ จึงเท่ากับการบอกกับสังคมไทยว่า “น้อยเมยจะไม่ใช่ศพสุดท้าย” และวัฒนธรรมการใช้กำลังภายในกองทัพก็จะยังคงอยู่คู่สังคมไทยต่อไป

โซเชียลกระหน่ำล่ารายชื่อ!!ผลุดแคมเปญใครเกี่ยวข้องปม"น้องเมย" ต้องลาออก แถมยกเลิก"ธำรงวินัย" ใช้ความรุนแรง!!??

 

ในฐานะประชาชนไทย เราไม่ต้องการเห็นลูกหลานของพวกเราที่มีหัวใจรับใช้ชาติต้องประสบกับชะตากรรมดังกล่าว แคมเปญนี้จึงเกิดขึ้น เพื่อสะท้อนเสียงแห่งความไม่พอใจของประชาชนให้กองทัพนำไปปรับปรุงและพัฒนาองค์กรของตนให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชนสากล และคุณค่าประชาธิปไตย โดยมีข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้

1. กองทัพจะต้องดำเนินการสอบสวนเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของน้องเมยอย่างครอบคลุมและโปร่งใสตั้งแต่ระดับผู้บังคับบัญชา จนถึงเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และเปิดเผยผลการสอบสวนต่อสาธารณะ

 

2. ให้มีตัวแทนจากองค์กรอิสระ เช่น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เข้าร่วมในการสอบสวนด้วย ทั้งนี้เนื่องจากที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเกิดการทุจริต หรือการใช้ความโดยเจ้าหน้าที่ของกองทัพ กองทัพมักจะทำหน้าที่ตรวจสอบกองทัพด้วยกันเอง ซึ่งถือเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ (conflict of interests) ทำให้สาธารณชนไม่สามารถมั่นใจได้เลยว่ากระบวนการตรวจสอบของกองทัพโดยกองทัพ จะทำให้ได้ข้อมูล และข้อเท็จจริงที่ครบถ้วน

 

3. เมื่อดำเนินการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว เจ้าหน้าที่ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดทุกคนจะต้องลาออกจากราชการ และถูกดำเนินคดีจนถึงที่สุดทั้งในทางวินัย แพ่ง และอาญา โดยต้องไม่มีการปกป้องพวกพ้อง หรืออะลุ่มอะล่วยใดๆ

 

4. กองทัพจะต้องชดเชยค่าเสียหาย และค่าเยียวยาจิตใจ ให้กับครอบครัวของเหยื่ออย่างครอบคลุม

 

5. ยกเลิกมาตรการการ “ธำรงวินัย” ที่ใช้ความรุนแรง และหามาตรการอื่นที่สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน และความปลอดภัยในชีวิตของผู้รับการฝึก

 

ทั้งนี้ เราเชื่อว่าการปฏิบัติตามข้อเรียกร้องดังกล่าวจะเป็นสร้างบรรทัดฐาน และส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านสิทธิมนุษยชนให้กับทางกองทัพ และประเทศชาติได้เป็นอย่างดี

 

โซเชียลกระหน่ำล่ารายชื่อ!!ผลุดแคมเปญใครเกี่ยวข้องปม"น้องเมย" ต้องลาออก แถมยกเลิก"ธำรงวินัย" ใช้ความรุนแรง!!??