ตีแผ่ 5อันดับ..แรงอาถรรพ์ความโหดเหี้ยมอำมหิต!! ของ“ไสยศาสตร์”มนตร์ดำ-ศาสตร์อวิชชาชั่วร้าย!!สามารถปลิดชีพคนได้ในชั่วระยะเวลาสั้นๆ!! ไม่เชื่ออ

บทความนี้เราจะมาพูดถึงเรื่อง"ความลี้ลับอาถรรพ์ของ ไสยศาสตร์ 5 อันดับของประเทศต่างๆที่จัดว่ามีความอาถรรพ์รุนแรงร้ายกาจมากที่สุด”ซึ่งในปัจจุบันสิ่งเหล่านี้ก็ยังคงมีอยู่จริงและมีมากขึ้นกว่าในสมัยโบราณเสียอีกโดยมีสาเหตุหลักอันเนื่องมาจาก คนยุคสมัยนี้มีจิตใจต่ำทรามลงไปมากอุปนิสัยเห็นแก่ตัวขี้อิจฉาริษยามีความอยากได้อยากมีที่ไม่สิ้นสุดดำรงชีวิตแหวกว่ายเวียนวนอยู่ในกองกิเลส จึงมีดวงตาและจิตใจที่มืดบอดสนิทแยกแยะดีชั่วไม่เป็นมักเห็นผิดเป็นชอบเสมอไร้ซึ่ง หริโอตัปปะ หรือที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่า” ไม่มีความละอายเกรงกลัวต่อบาปกรรม”เฉกเช่น คนสมัยโบราณ  ทำให้ ไสยศาสตร์ มีโอกาสกลับมาแพร่ขยายแตกสาขาลุกลามไปอย่างรวดเร็วดุจเชื้อมะเร็ง

โดยมีจุดศูนย์รวมแหล่งใหญ่อยู่ใน กรุงเทพมหานคร เรานี่เองค่ะ และมีทุกศาสตร์ทุกแขนงในด้านไสยอวิชชา กันเลยทีเดียวค่ะ เนื่องจากสังคมเมืองใหญ่ในประเทศไทยเรามีการแข่งขันชิงดีชิงเด่นกันอยู่ในทุกสาขาอาชีพทุกระดับชนชั้น นี่แหละคือสาเหตุจุดชนวนความอิจฉาริษยาโกรธเกลียดชิงชังอาฆาตแค้นในใจของเพื่อนร่วมงานในทุกสาขาอาชีพรวมไปถึงคนใกล้ชิดที่คิดไม่ซื่อทั้งหลาย ที่ต่างก็คิดหาหนทางเพื่อเอาชนะผลักดันตัวเองให้โดดเด่นก้าวหน้าประสบความสำเร็จมีความเป็นสุขสบายกว่าใครๆด้วยวิธีการอันสกปรกโดยการหันไปพึ่งพาอาศัยอาถรรพ์แห่งศาสตร์อวิชชาเข้ามาช่วยและยึดเอา ไสยศาสตร์ มนตร์ดำ ศาสตร์อวิชชา ทุกแขนงเป็นสรณะด้วยความอยากได้อยากมีที่ไม่สิ้นสุดปล่อยให้กิเลสกับอารมณ์มีบทบาททำหน้าที่ขับเคลื่อนวงจรชีวิตนำพาไปในทางเสื่อมหันหลังให้คุณธรรมความดีความถูกต้อง มีจิตใจที่เพิกเฉยต่อความละอายเกรงกลัวในบาปกรรม “นึกคิดเพียงแค่ว่าอะไรที่ข้าอยากได้ข้าต้องได้เท่านั้น”ที่ดีๆต่อหน้าล้วนใส่หน้ากากปั้นหน้าสวยงามเข้ากันหน้าฉากหลักฉากต่างฝ่ายต่างหากลวิธีกำจัดซึ่งกันและกัน ตรงนี้ให้ท่านผู้ชมไปฝึกสังเกตกันเอาเองนะคะว่าจริงไหม? บางคนถูกเจ้านายและคนรอบข้างรุมเกลียด บางคนจู่ๆหน้าที่การงานรุดไปไวแบบก้าวกระโดดข้ามหลายๆขั้นทั้งที่เดิมทีไม่มีความโดดเด่นอะไรแม้แต่ผลงานแถมเจ้านายหัวหน้าเรียกหาบ่อยๆ บางคนเกิดเจ็บป่วยตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุไม่พบในที่สุดก็ตาย บางคนถูกแย่งแฟนถูกฉกสามีไปแบบต่อหน้าต่อตา บางคนหน้าตาหมองคล้ำไม่มีสง่าราศีพบเจอแต่เรื่องซวยซับซ้อนดวงดิ่งต่ำครอบครัวแตกแยกและอีกหลายๆสาเหตุที่มาจากการถูกกระทำคุณไสยใส่ตัวให้มีเหตุความเป็นไปตามความต้องการของผู้กระทำซึ่งได้ว่าจ้างให้หมอกระทำที่ประกอบอาชีพด้านศาสตร์อวิชชาทุกรูปแบบลงมือดำเนินการสั่งด้วยพิธีกรรมลี้ลับอาถรรพ์ หรือเรียกว่าพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ นั่นเองค่ะ 

เอาล่ะเรามาดูความหมายของ”ไสยศาสตร์ “กันต่อเลยค่ะท่านผู้ชม ซึ่งจากการสืบค้นผู้เขียนพบว่า คำนี้หมายถึง วิชาทางไสย อันเป็นลัทธิเกี่ยวกับเวทมนตร์คาถาที่เชื่อว่ามาจากศาสนาพราหมณ์โดยเฉพาะจากคัมภีร์อถรรพเวท ที่มีพิธีเพื่อให้เกิดสิริมงคลป้องกันอันตรายต่อตนเองหรือใช้ทำอันตรายต่อผู้อื่นให้มีอันเป็นไปต่างๆนาๆตามความพอใจของผู้กระทำที่มีต่อผู้ถูกกระทำว่ามีเจตนาแค่สั่งสอนหรือต้องการให้เจ็บปวดทุกข์ทรมานกระทั่งตาย ท่านผู้ชมคะมนต์ดำเขมรหรือว่าไสยศาสตร์จากดินแดนที่ได้ชื่อว่ามีของขลังน่ากลัวที่สุดแห่งหนึ่งบนโลกใบนี้คงจะนึกได้มากมายไม่ว่าจะเป็น การเสกสิ่งของเข้าท้องทั้ง หนังควาย, ตะปู, ควายธนู, เส้นผม, ใบมีด, สัตว์เลื้อยคลาน, ต่อ, แตน, แมลงต่างๆ และอื่นๆ อีกมากมายที่นึกอยากจะทำร้ายใครก็เพียงแค่ตั้งคาถาและเสกสิ่งเหล่านั้นลงไปในท้องของคนที่โดน ซึ่งคนที่โดนก็จะมีอาการแตกต่างกันออกไปตามของที่ถูกเสกแต่ในท้ายที่สุดอาการจะจบลงไม่ต่างกันคือไม่เสียชีวิตก็ขอร้องให้เอาของออกจากตัวและกลายเป็นคนที่เสียสติไปเลย นอกจากการทำมนต์ดำไสยศาสตร์ใส่กับคนแล้ว ความน่ากลัวของมนต์ดำเขมรยังมีออกมาเป็นที่พึ่งสำหรับคนที่ต้องการด้วยไม่ว่าจะเป็นเสน่ห์ยาแฝด, น้ำมันพราย, กุมารทอง, กุมารี, ไอ้งั่งตาแดง, แม่เป๋อตาแดง และอีกมากมายหลากหลายวิญญาณที่จะสามารถเสกออกมาได้เพื่อตอบสนองความต้องการของใครคนใดคนหนึ่ง หรือหากว่าต้องการให้ชีวิตของใครคนใดคนหนึ่งพังไปตลอดชีวิตโดยที่ไม่ได้ต้องการฆ่ากันแต่ต้องการให้เหมือนตกนรกทั้งเป็นก็อาจจะใช้วิชาที่มาพร้อมกับของสกปรกหรือของต่ำโดยมีการนำสิ่งของบางอย่างมาอยู่ในพิธี อาทิ เลือดประจำเดือน, ปัสสาวะ, ดินป่าช้า, ดินใต้โลงศพ, เถ้ากระดูก, เลือด, น้ำลาย, เศษเนื้อหนัง และอื่นๆ สุดแท้แต่ว่าต้องการสิ่งของประเภทไหนเอาไปใช้ในการทำพิธี
ถ้าจะให้พูดกันสำหรับในยุคปัจจุบันแม้เรื่องของเทคโนโลยีจะพัฒนาไปไกลมากขึ้น วิทยาศาสตร์สามารถพิสูจน์เรื่องราวได้หลายสิ่งมากขึ้นบนโลกใบนี้ แต่เรื่องของมนต์ดำเขมร หรือไสยศาสตร์ยังคงเป็นสิ่งที่หาคำตอบไม่ได้ในหลายๆ เรื่องว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ทางที่ดีถ้าหากว่าใครไม่อยากจะต้องพบเจอกับสิ่งเหล่านี้ก็อย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวจะเป็นการดีที่สุดค่ะ

 

ทีนี้เรามาดูความน่าสะพรึงในความลี้ลับอาถรรพ์ของไสยศาสตร์ 5 อันดับของแต่ละประเทศที่จัดว่ามีความอาถรรพ์รุนแรงร้ายกาจมากที่สุดกันเลยค่ะ โดยเราจะเริ่มดูที่อันดับที่5ก่อนและทยอยไล่เรียงดูไปจนถึงอันดับที่1 เชิญรับชมได้ดังนี้ค่ะ

ประเทศต่างๆล้วนมีอารยธรรมจารีตประเพณีขนบธรรมเนียมความเชื่อถือตามรูปแบบของแต่ละท้องถิ่นที่มีความแปลกแยกแตกต่างกันไป โดยผู้คนส่วนใหญ่ต่างก็ย่อมมีความเชื่อถือในอารยธรรมจารีตประเพณีขนบธรรมเนียมของกลุ่มตนเองที่ได้รับการสืบทอดต่อๆกันมาจากบรรพบุรุษของชนชาตินั้นๆอย่างหลากหลายรูปแบบ มีทั้งทางด้านของอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ทางด้านสิ่งเหนือธรรมชาติ อีกทั้งรูปแบบหนึ่งที่เรารู้จักกันดีคือรูปแบบของ "ไสยศาสตร์" โดยได้มีการจัดเรียงอันดับตามความรุนแรงไว้ 5 ระดับ ค่ะดังต่อไปนี้

อันดับที่ 5ไสยศาสตร์ไทย
ไสยศาสตร์อันดับที่ 5 ต้องยกให้เป็นของไทย คุณไสยไทยทำนี้อ่อนวิชาที่สุด เพราะไปยืมวิชาเขามาใช้ ตัววิชาไทยจริงๆนั้นส่วนใหญ่มีไว้รักษาและป้องกันมากกว่าการทำร้ายคน เนื่องมาจากคนสมัยก่อนชอบเข้าวัดทำบุญ เลยปฏิบัติธรรมกันเยอะ แต่ที่โหดที่สุดคงยกให้เป็นการสู้รบ ก็น่ากลัวอยู่หรอกนะ แต่ถ้าสู้กับเขมร ขอม พม่า อันนี้ก็อ่อนวิชาไสยกว่าเขาเยอะ ต้องใช้ความสามารถทางการทหารและกลอุบายสู้ล้วนๆ เหนื่อยหน่อย แต่พระสงฆ์ไทยสมัยก่อนก็มีวิชาเขมรอยู่บ้าง เอามาปรับเป็นพุทธคุณ กลายเป็นยันต์ทางพุทธคุณ พลังป้องกันมีอานุภาพสูงสุดในหมู่คุณไสยทั้งหมด เรายังมีการรวมอาณาจักรล้านนาเข้ากับไทยทำให้มีไสยศาสตร์ของล้านนาด้วย แล้วก็ยังดัดแปลงเอาวิชาของมอญ พม่า ลาว มาผสมผสานผนวกเข้าด้วยกันปนเปไปหมด 

อันดับที่ 4ไสยศาสตร์อิสลาม ไสยเวทมุสลิม
ไสยศาสตร์อันดับที่ 4ไสยศาสตร์อิสลาม ไสยเวทมุสลิม อันนี้ก็น่าขนลุก เอาความดีของตัวเองมาเป็นค่าของไสยศาสตร์ คุณไสยนี้ในคัมภีร์อัลกุรอานว่าไว้อย่างชัดเจน และดูไปดูมาน่าจะเป็นข้อห้ามมากกว่า ถึงยังไงชาวมุสลิมก็ไม่ใช้ เพราะเคร่งศาสนามาก แต่ถ้าพวกนอกรีตก็ระวังให้ดี ไสยศาสตร์นี้จะน่ากลัวมากๆแม้ตามหลักศาสนาของอิสลามจะมีข้อห้ามในการแตะเรื่องไสยศาสตร์ แต่ก็ยังมีบางกลุ่มพวกที่ไม่เชื่อฟังคำสอนอยู่ดี การทำคุณไสยของอิสลามจะเรียกว่า “ญิน” อาการของผู้ที่ถูกญินสิงร่างจะถูกข่มขวัญและจิตใจ เป็นการข่มขี่ทางจิตวิทยา มองเห็นญิน ภาพหลอน หรือสัตว์ประหลาด ได้ยินเสียง สร้างความปั่นป่วนภายในจิตใจโดยการนำจุดอ่อนหรือข้อเสียของผู้ที่ถูกญินสิงมาพูดกรอกหู ยุแหย่ และนำพาไปสู่การกระทำที่ศาสนาห้ามค่ะ

อันดับที่ 3 ไสยศาสตร์ตะวันตกและเอเชียตะวันตก
ไสยศาสตร์อันดับที่ 3ไสยศาสตร์ตะวันตกและเอเชียตะวันตก คุณไสยพวกนี้ดูเป็นผู้ดีมีการศึกษามานิดหน่อย เพราะเกี่ยวเนื่องกับศาสนาและวิทยาศาสตร์ เมื่อเกิดเรื่องคนเรานี้ก็แปลกแต่ก็มีความคิดที่ดี เอาสิ่งที่มีเหตุผลมาอธิบายสิ่งไม่มีเหตุผล พยายามเอาวิทยาศาสตร์มาอธิบายไสยศาสตร์ เมื่อเกิดคดีพิศวง ไสยศาสตร์พวกนี้ดูไม่ค่อยมีพิษมีภัยอะไรนัก แต่คำสาปนั้นแหลมคม และแหลมคมกว่าคุณไสยประเภทอื่นทั้งหมด ซึ่งมีระดับตั้งแต่อ่อนถึงรุนแรงมาก

ตุ๊กตาวูดูหญ้าฟาง

อันดับที่ 2 ไสยศาสตร์จีน รวมไปจนถึงไสยศาสตร์ชนเผ่าชาวเขา
ไสยศาสตร์อันดับที่ 2 คือไสยศาสตร์จีน ก็น่ากลัวพอสมควร แต่มันคงไกลตัวเราไปหน่อย งั้นก็พูดกันง่ายๆว่า หนึ่งในสาขาวิชาไสยศาสตร์จีนคือวิชาไสยศาสตร์ของชาวเขาทางภาคเหนือ คราวนี้คงใกล้ตัวและคงรู้ถึงความน่ากลัวกันดี ทั้งหมอผีประจำชนเผ่า เช่น แม้ว เย้า กะเหรี่ยง ปกาเกอะญอ อาข่า อีก้อ มูเซอ เป็นต้นสายของ วิชาที่ขึ้นชื่อด้าน ยาสั่ง กินเข้าไปถึงตายแม้แต่ พระธุดงค์ที่ไม่ยังไม่แกร่งกล้าวิชาถ้าได้กินเข้าไปล่ะก็เป็นอันจบสิ้นชีวิตทันที

อันดับที่ 1ไสยศาสตร์เขมร อาถรรพ์รเวท
ไสยศาสตร์ที่มีความน่ากลัวเป็นอันดับที่1คือไสยศาสตร์เขมร ทั้งเสกตะปู เสกหนังควาย เสกควายธนู เสกใบมีดเสกเส้นผม เสกต่อแตน เสกอะไรต่อมิอะไร มาจากอาถรรพณ์เวทโดยตรงก็สมควรที่จะน่ากลัว เวลามีพิธีบูชายัญ ฆ่าสัตว์เป็นๆมันดูป่าเถื่อน เวลาใช้กับคนส่วนใหญ่เอาถึงตาย ทำคุณไสยแค่ขู่ก็แบบสาหัส หรือพิกลพิการ และที่สำคัญแก้ไขและรักษายาก ทำคุณไสยใส่ได้ในคนจำนวนมากๆพร้อมกัน จำพวกไสยศาสตร์เขมรก็จะประกอบไปด้วยมหาเสน่ห์ ยาแฝด น้ำมันพราย ไอ้งั่งตาแดง แม่เป๋อตาแดง พราย กุมารทอง กุมารี สารพัดผี ส่วนด้านการโจมตีก็วัวธนู ควายธนู ซึ่งมีมากมายหลายแขนงวิชา วิชาที่ต่ำๆก็มีการใช้เถ้ากระดูก กระดูก ดินป่าช้า ดินใต้โลงศพ ดินบนโลงศพ เลือดมนุษย์ น้ำหนองผี เลือดประจำเดือน ปัสสาวะ ดินเจ็ดบ่อน ดินเจ็ดตลาด เดินติดเท้า อะไรประมาณนี้ ส่วนของที่เขาจะเอาไปทำก็มีภาพถ่ายของเหยื่อ เส้นผมของเหยื่อ เล็บมือของเหยื่อ เศษหนังเศษเนื้อ น้ำตา น้ำลาย เลือด ปัสสาวะ ดินติดเท้าติดรองเท้า เสื้อผ้า แม้กระทั้งฟัน หรือเม็ดข้าวที่คายทิ้งหรือกินไม่หมด หรือ แม้แต่รอยมือรอยเท้าก็เอาไปทำคุณไสย์ได้แล้วค่ะ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ดีกว่านะคะท่านผู้ชม ระมัดระวังตัวกันไว้บ้างก็ดีนะคะเพราะสิ่งเหล่านี้อาจเกิดขึ้นกับเราและบุคคลรอบข้างได้ทุกเมื่อกันไว้ดีกว่าแก้ค่ะ

ขอขอบคุณท่านผู้เป็นเจ้าของเครดิตภาพที่ผู้เขียนได้นำมาจาก (อินเตอร์เน็ต)เพื่อใช้ในการแสดงประกอบเนื้อหาสาระข้อมูลนี้ค่ะ..และขอขอบคุณแหล่งที่มาของภาพและข้อมูลจาก:วิกิพีเดีย, และข้อมูลเพิ่มเติม(บางส่วน)จาก :อินเตอร์เน็ตค่ะ
เรียบเรียงโดย: โชติกา พิรักษา และ ศศิภา ศรีจันทร์ ตันสิทธิ์