- 08 ม.ค. 2561
กรมอุตุฯ ประกาศ ฉ.2 บริเวณประเทศไทยตอนบนอากาศหนาวเย็นลง และคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 9-15 ม.ค. นี้ (รายละเอียด)
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"อากาศหนาวเย็นลงบริเวณประเทศไทยตอนบน และคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 9-15 มกราคม 2561)"
ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 08 มกราคม 2561
ในช่วงวันที่ 9-11 ม.ค. 61 ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนในระยะแรก และมีอากาศหนาวเย็นลงกับลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอย่างรวดเร็ว โดยเริ่มที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อนซึ่งอุณหภูมิจะลดลง 6-8 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียสในวันที่ 10 ม.ค. 61 หลังจากนั้นอุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย และเกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบนแล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยในคืนนี้ (8 ม.ค. 61) หลังจากนั้นจะแผ่ปกคลุมภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกในวันที่ 10 ม.ค. 61
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 10-15 ม.ค. 61 ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝน
ตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ประกาศ ณ วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 17.00 น.
กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปใน วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 23.00 น.
(ลงชื่อ) วันชัย ศักดิ์อุดมไชย
(นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย)
อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา
ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนเกิดขึ้นในระยะ 1-2 วันนี้ โดยจะมีอากาศหนาวเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอย่างรวดเร็ว โดยเริ่มที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ซึ่งอุณหภูมิจะลดลง 6-8 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียสในวันที่ 10 ม.ค. 61 ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย และเกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย สำหรับบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบนแล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยในคืนนี้ (8 ม.ค. 61) หลังจากนั้นจะแผ่ปกคลุมภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกในวันที่ 10 ม.ค. 61
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 10-15 ม.ค. 61 ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง
ภาคเหนือ
อากาศเย็น โดยมีฝน ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง
พะเยา แพร่ และน่าน
อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-14 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 6-8 องศาเซลเซียส โดยมีฝน ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 17-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-29 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ภาคกลาง
มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝน ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์
ลพบุรี และพระนครศรีอยุธยา
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝน ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดสระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง
สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่
อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
มีเมฆเป็นส่วนมาก โดยมีฝน ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
อ่านข่าวพยากรณ์อากาศเพิ่มเติม :
*** พรุ่งนี้เตรียมหนาวอีกระลอก!!! กรมอุตุฯ ประกาศ ฉ.1 ฝนตกหลายพื้นที่ - อุณหภูมิลดฮวบ!