ชัดตรงทุกประเด็น!!! "กนก"ปล่อยหมัด ซัด คนจะมีบารมี มิได้ขึ้นอยู่กับภาพลักษณ์ต้องร่ำรวย จากนี้ไปเวลาพูดถึงท่าน ทุกคนก็จะล้อเลียนแต่เรื่อง

จากกรณี ปมแหวนเพชร และนาฬิกาหรู ของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม  ที่ได้ยกมือขึ้นกันแสงแดด แต่แสงไปกระทบแหวนเพชร ทำให้สื่อพากันแซว จน พล.อ.ประวิตร ถึงกลับหันหัวแหวนกลับเข้าด้านในแทน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ที่ผ่านมา กลับนำมาสู่การวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เพราะ พล.อ.ประวิตร ไม่ได้ระบุนาฬิกาหรูในบัญชีทรัพย์สินหนี้สิน

 

แต่เรื่องนี้ไม่ได้จนง่ายๆ กลับบานปลายอย่างต่อเนื่อง ชาวโซเชี่ยล สื่อหลัก สื่อรองตามพากันขุดคุ้ยสมบัติ และแฉกันจนกลายเป็นเรื่องเป็นรายใหญ่โต ถึงที่มาของทรัพย์สินทั้ง2ชิ้น จนวันนี้บานปลายเป็นชิ้นที่3และไม่รู้จะมีชิ้นที่4ชิ้นที่5ตามมาอย่างต่อเนื่อง จนถึงวันนี้ก็ยังไม่เห็นความคืบหน้าคำชี้แจงเรื่องนี้ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ปปช.

 

ล่าสุด วันที่ 16 ม.ค.61 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกระแสเรียกร้องให้พักงาน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หลังถูกตรวจสอบจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประเด็นไม่แจ้งข้อมูลเรื่องนาฬิกาหรูในการยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ว่า ขอให้กลไกการตรวจสอบได้ทำงานให้เกิดความชัดเจนก่อน ระหว่างนี้ขออย่านำเรื่องนี้มาเป็นวาทกรรมเพื่อหาประโยชน์ทางการเมือง และเรื่องนี้ พล.อ.ประวิตร จะเป็นผู้ชี้แจงเอง

 

ซึ่งก่อนหน้านี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่สังคมตั้งข้อสงสัยถึงนาฬิกาของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า ไม่ได้ชี้แจงต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า เรื่องนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน โดยก่อนอื่นต้องพิสูจน์ว่า นาฬิกามีอยู่จริงหรือไม่ ถ้าจริงต้องอธิบายว่าเป็นของใคร และถ้ามั่นใจในคำชี้แจง ก็ไม่มีอะไรเสียหายที่จะบอกต่อสาธารณชน 

นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวอีกว่า แต่ที่น่าเป็นห่วง คือ ตอนนี้เรื่องยืดเยื้อและประชาชนไม่พอใจ พลันจะลามไปถึงนายกรัฐมนตรีด้วย เพราะเป็นเรื่องอื้อฉาวที่กระทบต่อภาพลักษณ์ อย่างไรก็ตาม ถ้ายังจำกันได้ในสมัยที่ตนเป็นรัฐบาล เพียงแค่เกิดเรื่องราวขึ้นยังไม่ได้พิสูจน์ว่าจริงหรือไม่ เช่น กรณีของ นายวิทยา แก้วภราดัย ที่ต้องลาออกจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จากกรณีข้อสงสัยการทุจริตในโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการ "ไทยเข้มแข็ง 2555"  หรือกรณี นายวิฑูรย์ นามบุตร ยังขอลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อตัดไฟแต่ต้นลมไม่ให้เกิดปัญหา ซึ่งตนจำคำพูดของนายวิทยาบอกได้ว่า 'ผมไม่อยากเป็นภาระของรัฐบาล

 

 

 

ล่าสุดเฟซบุ๊ก Kanok Ratwongsakul Fan Page ได้ออกมาโพสต์ข้อความโดยมีเนื้อหาดังนี้

 

วันนี้ท่านพูด ไม่ใช่การชี้แจง หลังจากบอกปัด หลบเลี่ยงนักข่าวตลอดมาถ้าถามเรื่อง "แหวนมารดา นาฬิกายืมเพื่อน" นับแต่เรือนที่ 1 วันที่ 4 ธันวาคม 2560 จนถึงเรือนที่ 24 ในวันนี้!

และเป็นการพูดยอมรับกลายๆแล้วว่า "นาฬิกายืมเพื่อน" จริงๆ เพียงแต่ยังไม่ได้แจงว่า ยืมเพื่อนกี่คน? กี่เรือน? เพื่อนเป็นใคร? เป็นนักธุรกิจใช่ไหม? เพื่อนตายไปแล้วหรือเปล่า?

มีทั้งหมดกี่เรือน? เป็นของตัวเองกี่เรือน? แล้วแหวนล่ะ? และ...ทำไมไม่แจ้งตอนที่ต้องแสดงทรัพย์สินต่อ ปปช.? (เรือนที่ 16 ใส่ปี 2553 และเรือนที่ 20 ใส่ปี 2557)

คนจะมีบารมี..ได้รับความเคารพนับถือจากสังคมนั้น มิได้ขึ้นอยู่กับภาพลักษณ์ต้องร่ำรวย มีเครื่องประดับราคาแพงแต่อย่างใด

กรณีนี้เห็นชัดเจนว่า ขีดความน่าเชื่อถือ ได้สูญสลายหมดแล้ว จะโบ้ยไปที่ ปปช. เขาก็ตามไปยี้ใส่ เพราะทุกคนเขารู้ว่า ตัวประธาน ปปช.นั้น คืออดีตรองเลขาธิการรองนายกฯ คือ เด็กท่าน!

จากนี้ไปเวลาพูดถึงท่าน ทุกคนก็จะล้อเลียนแต่เรื่อง นาฬิกา ท่านกลายเป็น ซุปเปอร์ฮีโร่แบบไทยๆ "ยอดมนุษย์ Watch Man"

"เนื้อข่าว"

วันนี้ (16 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังประชุม ครม. ถึงการถูกตรวจสอบเรื่องนาฬิกาหรู โดยล่าสุด มีเรือนที่ 24 ปรากฏผ่านทางโซเชี่ยลมีเดีย ว่า

“มันวนกันไป เอาเรือนเก่าออกมา ก็ไม่เป็นไร ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบและชี้มูลว่าผมผิด ผมก็ออก ผมไม่นอยด์อะไร ไม่มีอะไร”

ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเห็นว่า หากพล.อ.ประวิตร ชี้แจงเรื่องนี้ไม่ชัดเจน จะส่งผลกระทบต่อนายกรัฐมนตรี และภาพลักษณ์รัฐบาลได้ พล.อ.ประวิตร กล่าวย้อนว่า...

"ก็พูดกันไป พูดอย่างไรก็พูดได้ ตนไม่มีนาฬิกาสะสม แต่มีเพื่อนที่เอามาให้ใส่แค่นั้น แล้วตนก็คืนหมดทุกเรือนซึ่งไม่ใช่การซื้อมาฝาก และตนก็มีเป็นของส่วนตัวแต่ไม่พูดว่ามีกี่เรือน"

ต่อข้อถามถึงกระแสข่าวการเล่นหุ้นนาฬิกาในแวดวงของทหาร รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่มี ไปเอาที่ไหนมา

 

Cr.Kanok Ratwongsakul Fan Page