ป.ป.ช. แถลงความคืบหน้านาฬิกา พลเอกประวิตร เหลือพยานอีก 1 ปาก คาด สรุป ก.พ.นี้!!!

ป.ป.ช. แถลงความคืบหน้านาฬิกา พลเอกประวิตร เหลือพยานอีก 1 ปาก คาด สรุป ก.พ.นี้!!!

นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. แถลงถึงความคืบหน้าการตรวจสอบนาฬิกาและแหวนเพชรของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ 
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมว่า เนื่องจากข่าวเกี่ยวกับเรื่องนาฬิกาและแหวนเพชรดังกล่าวได้ปรากฏข่าวออกมาอย่างต่อเนื่อง 
ล่าสุดเป็นนาฬิกาจำนวน 25 เรือน สำนักงาน ป.ป.ช. จึงจำเป็นต้องให้ พล.อ.ประวิตร ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้เพิ่มเติม ซึ่งเป็นการชี้แจงครั้งที่ 3 
ทั้งนี้ที่ผ่านมา มีการชี้แจงผ่านสื่อว่านาฬิกาไม่ใช่ของท่าน ก็เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช.ต้องตรวจสอบเพื่อยืนยันข้อมูล ทั้งนี้ 
จากการที่สื่อนำเสนอข้อมูลนาฬิกาทั้ง 25 เรือนนั้น บางเรือนมีรูปที่ไม่ชัดเจน บางเรือนเห็นเพียงแค่สาย 
จึงต้องตรวจสอบว่าข้อมูลเท็จจริงเป็นอย่างไร มี 25 เรือนจริงหรือไม่ หรืออาจเป็นภาพซ้ำ ซึ่งความจริงแล้วอาจมีแค่ 15 เรือน 
และต้องตรวจสอบว่าเป็นนาฬิกาของใคร ใครเป็นเจ้าของ

ส่วนการสอบพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้น สัปดาห์ที่ผ่านมาสอบพยานไปทั้งหมดแล้ว ยังเหลือพยานอีก 1 ราย ซึ่งเป็นพยานสำคัญ 
ขณะนี้อยู่ระหว่างเดินทางไปต่างประเทศ โดยจะกลับมาสัปดาห์หน้า และมีการนัดหมายที่จะไปรับฟังการชี้แจงในสัปดาห์หน้า 
นอกจากนั้นได้มีหนังสือไปยังบริษัทตัวแทนจำหน่ายนาฬิกาภายในประเทศที่ปรากฏเป็นข่าว จำนวน 13 แห่ง เพื่อขอทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวด้วย 
โดยอยู่ระหว่างรอผลการตรวจสอบจากบริษัทเอกชนดังกล่าวซึ่งยังตอบมาไม่หมด อย่างไรก็ตามคิดว่าต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบสักพัก 
เพราะต้องตรวจสอบนาฬิกาทั้ง 25 เรือน ซึ่งคาดว่าถ้ารวบรวมข้อมูลครบถ้วนเรียบร้อยข้อเท็จจริงยุติตามแผน ก็สามารถสรุปได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้

“ในการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.เมื่อวันที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมา ผมได้นำเสนอความคืบหน้าในการรวบรวมข้อมูลกรณีดังกล่าวเสนอต่อที่ประชุม 
โดย พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. ได้แถลงต่อที่ประชุมว่า เมื่อสำนักงาน ป.ป.ช. ดำเนินการแล้วเสร็จ 
และเสนอสำนวนการตรวจสอบทรัพย์สินคดีนี้ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.แล้ว พล.ต.อ.วัชรพล ขอถอนตัวจากการพิจารณาสำนวนการตรวจสอบทรัพย์สินคดีดังกล่าว”

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการสอบถามพยานพูดเป็นเสียงเดียวกันหรือไม่ว่า 
พล.อ.ประวิตร ยืมนาฬิกาเพื่อนมา นายวรวิทย์ กล่าวว่า ขอให้เรื่องเหล่านี้อยู่ในสำนวน หลังจากการตรวจสอบแล้ว ป.ป.ช.จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง ขอให้รออีกสักหน่อย

เมื่อถามว่า ถ้านาฬิกาเป็นของบุคคลอื่น 
พล.อ.ประวิตร ไม่จำเป็นต้องแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินใช่หรือไม่ นายวรวิทย์ กล่าวว่า หากนาฬิกาเป็นของบุคคลอื่น 
พล.อ.ประวิตรไม่ต้องแสดง เพราะจะต้องแสดงเฉพาะทรัพย์สินที่เป็นของตัวเอง และคู่สมรส พร้อมบุตร หากทรัพย์สินเป็นของ พล.อ.ประวิตร
ต้องถามว่าได้มาเมื่อใด ก่อนหรือหลังเข้ารับตำแหน่ง ถ้าได้มาก่อนจะมีคำถามว่า เหตุใดจึงไม่แจ้งในบัญชีทรัพย์สิน แต่ถ้ามาได้หลังเข้ารับตำแหน่งจะถือว่า 
ยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องแจ้ง ยืนยันว่าการแสดงรายการทรัพย์สินนั้นต้องเป็นของตนเอง คู่สมรส และบุตร ทรัพย์สินที่จะยื่นนั้นต้องเป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเอง 
ส่วนทรัพย์สินที่ได้ครอบครองเฉยๆ ไม่จำเป็นต้องยื่น

เมื่อถามว่า หากเป็นของบุคคลอื่น จะเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 103 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 
เกี่ยวกับการให้หรือรับสิ่งของหรือไม่ นายวรวิทย์ กล่าวว่า ให้หรือไม่ยังไม่ทราบ เพราะเจ้าตัวยังไม่ได้บอกเลยว่าเป็นการให้ที่ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของตน

ถามต่อว่า จะเป็นบรรทัดฐานให้นักการเมืองคนอื่นๆ ใช้เหตุผลเรื่องการยืมมาเป็นข้ออ้างในอนาคตหรือไม่ นายวรวิทย์ กล่าวว่า จะต้องรอดูว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
และ ป.ป.ช.ไม่ใช่ว่าจะเชื่อตามที่มีการกล่าวอ้างมา

เมื่อถามว่า กรณีการให้หรือรับ ถ้ามีราคาเกิน 3,000 บาท ปกติ ป.ป.ช.จะต้องตรวจสอบใช่หรือไม่ นายวรวิทย์ กล่าวว่า ป.ป.ช.จะดูให้ครอบคลุมทั้งหมด 
ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับกฎหมายมาตราใด เจ้าหน้าที่จะดูครอบคลุมและรอบด้านอยู่แล้ว รอให้เจ้าหน้าที่ได้วินิจฉัยก่อนแล้วกัน 
ส่วน พล.อ.ประวิตรจะยืมนาฬิกาใครมานั้นยังไม่ขอเปิดเผย เพราะ 
พล.อ.ประวิตร
ไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณชน

เมื่อถามว่า ได้มีการสอบถามไปยังบริษัทตัวแทนจำหน่ายนาฬิกาหรือไม่ว่า เจ้าของมีการซื้อ – ขายจริงหรือไม่ อย่างไร นายวรวิทย์ กล่าวว่า 
ตอนนี้บริษัทนาฬิกายังตอบมาไม่หมด ส่วนพยานปากสำคัญที่ระบุว่าจะมีการไต่สวนในสัปดาห์หน้าขอไม่เปิดเผย อย่างไรก็ตาม การรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจสอบ
ถ้าเป็นไปตามที่เรากำหนดไว้ คาดว่าจะสรุปและเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่ ได้พิจารณาในเดือนกุมภาพันธ์นี้ 
ซึ่งในการรวบรวมพยานหลักฐานนั้นจะเป็นไปตามข้อเท็จจริงที่คณะทำงานแสวงหาข้อเท็จจริงได้พิจารณา

เมื่อถามถึงเหตุผลที่ 
พล.ต.อ.วัชรพล ขอถอนตัวไม่ร่วมพิจารณาเรื่องนี้คืออะไร นายวรวิทย์ กล่าวว่า โดยปกติแล้ว กรณีที่กรรมการ 
ป.ป.ช. จะไม่สามารถเข้าร่วมพิจารณาได้คือ มีส่วนได้เสียกับเรื่องนั้น 
แม้ พล.ต.อ.วัชรพล จะไม่ได้เข้าข่ายตามที่กฎหมายกำหนด แต่เพื่อให้เกิดความโปร่งใสจึงขอถอนตัวไม่ร่วมพิจารณากรณีนี้

ในช่วงท้ายของการแถลงข่าว ได้มีชายอายุประมาณ 30 – 40 ปี สวมเสื้อโปโลสีดำ กางเกงยีนส์ และสวมแว่นดำ ลุกขึ้นไปหน้าเวทีพร้อมพูดว่า 
มีของที่ระลึกจะมอบให้กับเลขาธิการป.ป.ช. จากนั้นได้เปิดภาพลิง 3 ตัว ใส่นาฬิกา ตัวละ 2 เรือน สวมใส่แหวนเพชรเม็ดใหญ่ทุกตัว กำลังปิดหู ปิดตา ปิดปาก มีโบว์รูปธงชาติอยู่กลางภาพ 
และภาพหมูสีแดง ในชุดเครื่องแบบทหารระดับสูง โดยระบุกับนายวรวิทย์ว่า ให้ไปหาข้อมูลว่า ตัวการ์ตูนดังกล่าวคืออะไร จากการ์ตูนอนิเมชัน 
เรื่อง แอนนิมัลฟาร์ม ซึ่งเจ้าหน้าที่ป.ป.ช. ได้มารับภาพดังกล่าวแทน พร้อมเชิญตัวออกจากห้องไป

ทั้งนี้ ทราบชื่อภายหลังคือ นายเอก อัตถากร ซึ่งเป็นผู้ที่เคยไปยื่นป้าย Respect My Vote ที่เข้าไปป่วนในงานปฏิรูปของพรรคประชาธิปัตย์ 
เมื่อต้นปี 2557
 

ขอบคุณ : สำนักข่าวตรงประเด็น