- 25 ม.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.mouthkrajay.com
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"สภาพอากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน กับฝนตกหนักและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค.- 2 ก.พ. 2561) "
ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 25 มกราคม 2561
ในช่วงวันที่ 25-28 มกราคม 2561 ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นกับมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคใต้ เนื่องจากลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และ
อ่าวไทย เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลางตอนล่าง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมทั้งภาคใต้
ส่วนในช่วงวันที่ 29 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2561 ประเทศไทยตอนบนจะมีสภาพอากาศแปรปรวน โดยมีฝนฟ้าคะนองในระยะแรก หลังจากนั้นจะมีอากาศหนาวเย็นลง อุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง โดยเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นๆ รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และเกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
สำหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 31 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2561
ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรง
ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และติดตามข้อมูลจากเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ประกาศ ณ วันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 05.00 น.
กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปใน วันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 11.00 น.
(ลงชื่อ) วันชัย ศักดิ์อุดมไชย
(นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย)
อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา
ประเทศไทยตอนบนมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล กับมีฝนหนักบางแห่งในภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย เกษตรกรบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง ระมัดระวังความเสียหายที่อาจเกิดกับผลผลิตเนื่องจากฝนตกไว้ด้วย สำหรับภาคเหนือยังคงมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป ส่วนยอดดอยมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่
ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลางตอนล่าง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมทั้งภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ในระยะนี้ กับจะมีฝนตกหนักบางแห่ง ในภาคใต้ ในขณะที่กระแสลมฝ่ายตะวันตกในระดับบนยังคงพัดปกคลุมภาคเหนือตอนบน ลักษณะเช่นนี้ยังคงทำให้ภาคเหนือตอนบนมีอากาศหนาวเย็นและมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่
อนึ่ง ในช่วงวันที่ 29 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2561 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีสภาพอากาศแปรปรวน โดยมีฝนฟ้าคะนองในระยะแรก หลังจากนั้นจะมีอากาศหนาวเย็นลง อุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง ซึ่งจะเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นๆ รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
ภาคเหนือ
ทางตอนบนของภาค อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศาเซลเซียส
ส่วนทางตอนล่างของภาค อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส
โดยมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่
อุณหภูมิสูงสุด 29-35 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 1-11 องศาเซลเซียส
และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่
ลมตะวันตก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่
โดยมีฝนบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 9-15 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง
มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากจังหวัดกาญจนบุรี นครปฐม ราชบุรี สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี
นครศรีธรรมราช และพัทลุง
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง
อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.