- 31 ม.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.mouthkrajay.com
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "สภาพอากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบนกับฝนตกหนักและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้(มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม จนถึง วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2561) " ฉบับที่ 19 ลงวันที่ 31 มกราคม 2561
ในช่วงวันที่ 31 มกราคม - 1 กุมภาพันธ์ 2561 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีสภาพอากาศแปรปรวนโดยมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และอุณหภูมิจะลดลง 2 - 4 องศาเซลเซียส เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่วนภาคเหนือมีกระแสลมตะวันตกในระดับบนพัดปกคลุม ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีอากาศหนาวเย็น
และในช่วงวันที่ 2 - 6 กุมภาพันธ์ 2561 บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิลดลงได้อีก 3-5 องศาเซลเซียส ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนอีกระลอกหนึ่งจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง
ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 1 - 6 กุมภาพันธ์ 2561 โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และเกษตรกรควรระวังความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย และประชาชนบริเวณภาคใต้ระมัดระวังอันตรายสภาวะฝนที่เพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย
ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และติดตามข้อมูลจากเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ประกาศ ณ วันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 11.00 น.
กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปใน วันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 17.00 น.
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ได้พยากรณ์อากาศประจำวันที่ 31 ธันวาคม 2561 กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ทำการ พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมง เมื่อเวลา 11.00 น. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง และอากาศจะหนาวเย็นลง โดยอุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือยังคงมีอากาศหนาวเย็น ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย
บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีสภาพอากาศแปรปรวน โดยมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณภาคเหนือ มีกระแสลมตะวันตกในระดับบนพัดเข้ามาปกคลุม ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีอากาศหนาวเย็น สำหรับภาคใต้ มีลมตะวันออกพัดปกคลุม ทำให้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่
ภาคเหนือ
อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า
โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดกำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 12-22 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 2-11 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์
อุณหภูมิต่ำสุด 13-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 23-30 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ภาคกลาง
มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากจังหวัดราชบุรี นครสวรรค์ ลพบุรี และสระบุรี โดยมีอากาศเย็นในตอนเช้า
และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่
ส่วนมากจังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี จันทบุรี และตราด
และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ฝั่งตะวันออก
มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา
อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา: ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป: ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้ฝั่งตะวันตก
มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่
อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.