กรมอุตุฯ เตือน 2 - 6 ก.พ. นี้ ความกดอากาศสูงจากจีนปกคลุมไทย ส่งผลให้พื้นที่ต่อไปนี้เกิดฝนฟ้าคะนอง อุณหภูมิลดลง 1 - 3 องศาฯ (รายละเอียด)

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.mouthkrajay.com

     ภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองลดลง และอากาศจะหนาวเย็น โดยอุณหภูมิลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศหนาวเย็น ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย สำหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นและคลื่นลมบริเวณภาคใต้ตอนล่างจะมีกำลังแรง มีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงนี้ 


     บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีสภาพอากาศแปรปรวน โดยมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และอุณหภูมิจะลดลง ส่วนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังคงมีอากาศหนาวเย็น สำหรับภาคใต้ มีลมตะวันออกที่พัดปกคลุมจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นและคลื่นลมมีกำลังแรงขึ้น

     ภาคเหนือ    
ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส 
ส่วนทางตอนล่างอากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อย 
อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส 
บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ 
อุณหภูมิต่ำสุด 1-10 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

     ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ    
อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส 
โดยมีฝนเล็กน้อย 
อุณหภูมิต่ำสุด 13-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 23-30 องศาเซลเซียส 
บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

     ภาคกลาง    
มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ 
ส่วนมากจังหวัดกาญจนบุรี และราชบุรี 
โดยมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

     ภาคตะวันออก    
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ 
ส่วนมากจังหวัดปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด 
และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. 
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

     ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)    
มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง 
บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา 
อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส 
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา: ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. 
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร 
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป: ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. 
ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

     ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)    
มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ 
ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ 
อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. 
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งทะเลคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

     กรุงเทพมหานครและปริมณฑล    
มีเมฆบางส่วน กับมีฝนเล็กน้อย 
โดยมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"สภาพอากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน กับฝนตกหนักและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 2 จนถึง วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2561) " 
ฉบับที่ 26 ลงวันที่ 02 กุมภาพันธ์ 2561
     ภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ยังคงมีสภาพอากาศแปรปรวนแต่ฝนฟ้าคะนองลดลง และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปเนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ และกระแสลมตะวันตกในระดับบนพัดปกคลุมภาคเหนือ 
        ในช่วงวันที่ 2-6 กุมภาพันธ์ 2561 บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิลดลงได้อีก 3-5 องศาเซลเซียส ทำให้บริเวณดังกล่าว

        มีอากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนอีกระลอกหนึ่งจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้

        มีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง 

        ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 2-6 กุมภาพันธ์ 2561 โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง 

        ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรระวังความเสียหาย

        ต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย และประชาชนบริเวณภาคใต้ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนที่เพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักที่จะเกิดขึ้น

        ในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย 

        ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และติดตามข้อมูลจากเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง 

       

        ประกาศ ณ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 เวลา 05.00 น. 

        กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปใน วันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 เวลา 11.00 น. 

       

        (ลงชื่อ) วันชัย ศักดิ์อุดมไชย 

        (นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย) 

        อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา