- 17 เม.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
สืบเนื่องจากกรณีที่โลกโซเชียลได้มีการแชร์เรื่องราวที่หญิงสาวรายหนึ่งได้ออกมาโพสต์สิ่งที่ตนเองได้พบเจอ เมื่อแท็กซี่่โกงค่าโดยสาร ทั้งยังปล่อยทิ้งไว้กลางทางนั้น (อ่านข่าวก่อนหน้า : ใครเจอก็ต้องด่า!! สาวอัดคลิประบายเจอแท็กซี่ปล่อยทิ้งกลางทาง พีคสุดเหน็บผู้โดยสารที่เป็นคนไทย (คลิป) )
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ภายหลังจากที่เรื่องดังกล่าวถุกเผยแพร่ออกไป และได้รับการแชร์วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากมายนั้น พ.ต.อ.อำนาจ โฉมฉาย ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไม่ได้นิ่งนอนในได้ประสานนายกิตติพงษ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อขอข้อมูลแท็กซี่คันดังกล่าว จนกระทั่งทราบว่าแท็กซี่คันที่ก่อเหตุเป็นแท็กซี่ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเรียกเข้ามาเสริม เนื่องจากในช่วงดังกล่าวมีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมากจึงทำให้แท็กซี่ของสุวรรณภูมิขาดช่วงไม่พอให้บริการจึงเรียกรถแท็กซี่ภายในอกเข้ามาเสริม แต่ก็มีการทำประวัติรถและผู้ขับขี่เอาไว้จึงทราบว่าผู้ขับขี่แท็กซี่คันดังกล่าวคือนายบุญช่วย พิมพ์นนท์ อายุ 34 ปี ซึ่งขับรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า สีชมพู ทะเบียน ทส-9435 กรุงเทพมหานคร จึงสั่งการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ ช่วยติดตามจับกุม
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวนายบุญช่วย ได้พร้อมรถแท็กซี่คันที่ก่อเหตุ และจากการตรวจค้นภายในรถยังพบยาไอซ์ ซุกซ่อนอยู่ที่ซอกเบาะนั่งคนขับน้ำหนัก 0.4 กรัม และอุปกรณ์ในการเสพยาเสพติดซุกซ่อนอยู่ภายในรถแท็กซี่คันดังกล่าว จึงคุมตัวพร้อมของกลางมาทำการสอบสวน นายบุญช่วย ได้ให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง เนื่องจากเห็นแท็กซี่คันอื่น ๆ ทำกันได้จึงได้ทำบ้างโดยไม่เปิดแท็กซี่แต่ใช้การเรียกเหมาในการใช้บริการต่อครั้ง
นอกจากนี้นายบุญช่วย ยังมีการเสนอเงินติดสินบนเจ้าพนักงาน เป็นเงิน 5,000 บาท ในขณะเข้าตรวจค้น เพื่อแลกอิสระ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เล่นด้วยจึงถูกแจ้งข้อกล่าวเพิ่มอีก 1 กระทง ซึ่งเจ้าตัวยังให้การรับสารภาพว่าตนเองติดยาเสพติดชนิดยาไอซ์มานานหลายปีโดยจะต้องเสพทุกวัน ซึ่งจะซื้อมาในราคาถุงละ 200 บาท
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ยาไอซ์ ไว้ในความครอบครองเพื่อเสพโดยผิดกฎหมาย เป็นผู้ขับขี่รถสาธารณะเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ยาไอซ์ โดยผิดกฎหมาย ไม่ใช้มาตรวัดค่าโดยสาร ไม่ส่งผู้โดยสาร ตามสถานที่ตกลงกันไว้หรือพาผู้โดยสารไปทอดทิ้งระหว่างทาง และติดสินบนเจ้าพนักงาน ก่อนควบคุมตัวไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
