กินให้เป็นยา!! 22 โรค ที่รักษาได้ เพียงแค่กินอาหารให้ถูกกับโรค แต่ละอย่างหาทานง่ายได้ทั้งนั้น พิชิตโรคร้ายโดยไม่ใช้ยา! ของดีบอกต่อ!

#ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่เพจความจริง

เนื่องด้วยทุกวันนี้อาหารที่เราทานเข้าไปทุกวัน อาจมีการปนเปื้อนของสารเคมี และอาจก่อให้เกิดโรคภัยต่างๆตามมา ทั้งเหตุผลด้านความสะอาด และสารพิษตกค้าง แต่คุณรู้หรือไม่ว่า นอกจากจะมีอาหารที่ก่อโรคแล้ว มันยังมีอาหารที่รักษาโรคอีกด้วย ทางเพจ คนรักสมุนไพร โดย นายหลินจือ ได้โพสต์แบ่งปันไว้ในเรื่องของการทานอาหารโดยได้ระบุว่า “อาหารเป็นยา บอกไปได้บุญ” 
 

22 โรค ที่รักษาได้ด้วยการกิน กินอาหารอย่างไรให้เป็นยา

1. ไขมันในเลือดสูง แทนที่จะหายามากินให้ปวดหัว ตับพัง ก็หากระเทียมสดมากินวันละ 10 กลีบ กินหอมหัวใหญ่สดวันละครึ่งหัว

 

กินให้เป็นยา!! 22 โรค ที่รักษาได้ เพียงแค่กินอาหารให้ถูกกับโรค แต่ละอย่างหาทานง่ายได้ทั้งนั้น พิชิตโรคร้ายโดยไม่ใช้ยา! ของดีบอกต่อ!

 

2. ปวดหัว ให้หาผักคะน้าหรือปวยเล้ง(แมกนีเซียม) กินวันละ 4 ขีดและกินปลาทูอีกวันละ 2 ตัว (น้ำมันปลาลดการอักเสบได้)หรือจะชง โกโก้กินก็ช่วยได้

 

กินให้เป็นยา!! 22 โรค ที่รักษาได้ เพียงแค่กินอาหารให้ถูกกับโรค แต่ละอย่างหาทานง่ายได้ทั้งนั้น พิชิตโรคร้ายโดยไม่ใช้ยา! ของดีบอกต่อ!

 

3. เป็นหวัด ไอ จามบ่อย ให้หมั่นแปรงลิ้น และกินกระเทียม หอม พริกให้มากๆ

 

กินให้เป็นยา!! 22 โรค ที่รักษาได้ เพียงแค่กินอาหารให้ถูกกับโรค แต่ละอย่างหาทานง่ายได้ทั้งนั้น พิชิตโรคร้ายโดยไม่ใช้ยา! ของดีบอกต่อ!

 

4. ภูมิแพ้ แค่กินฝรั่งวันละ 4 ชิ้นกินเมล็ดฝักทองวัน ละ 1 กำมือ(สังกะสี)

5. แพ้ฝุ่นละอองไรฝุ่น หาโยเกิร์ตรสธรรมชาติและนมเปรี้ยวไม่ หวานจัดมากินTreatment during an asthma attack
 

6. โรค หืดหอบ ไอเรื้อรัง กินต้มยำไก่ กินหัวหอมใหญ่ หอมแดง ต้นหอมและเอาหอมซุดไว้ใต้หมอน

7. ไขข้ออักเสบ หาปลาเนื้อมันกินวันละ 2 ขีด เช่นปลาทู ปลาสวาย ปลาแซลมอน หรือปลากระป๋อง

8. กระเพาะปัสสาวะอักเสบบ่อย กินน้ำกระเจี๊ยบไม่หวานจัดวันละ 3 มื้อ

9. ท้องอืด แก๊สมาก ให้กินกล้วยหักมุกปิ้งหรือขิงบ่อยๆ

 

กินให้เป็นยา!! 22 โรค ที่รักษาได้ เพียงแค่กินอาหารให้ถูกกับโรค แต่ละอย่างหาทานง่ายได้ทั้งนั้น พิชิตโรคร้ายโดยไม่ใช้ยา! ของดีบอกต่อ!

 

10. ท้องผุก ชงน้ำผึ้งดื่มวันละ 3 ช้อนโต๊ะ และให้กินน้ำ มะขามต้มติดเนื้อมาก เช้า/เย็น

11. โรคกระเพาะอาหาร หากล้วยหักมุกปิ้งกิน. กล้วยน้ำหว้าหรือ กระหล่ำปีเยอะให้มากเวียนหัว

 

กินให้เป็นยา!! 22 โรค ที่รักษาได้ เพียงแค่กินอาหารให้ถูกกับโรค แต่ละอย่างหาทานง่ายได้ทั้งนั้น พิชิตโรคร้ายโดยไม่ใช้ยา! ของดีบอกต่อ!

 

12. เวียนหัว คลื่นไส้ง่าย ให้หาอาหารทำจากขิงรับประทานเช่น ปลาผัดขิง ไก่ผัดขิง น้ำขิง ชาขิง

13. วัยทอง วูบวาบ อารมณ์แปรปรวน ให้กินปลาทูน่าให้มากและกินเต้าหู้เหลือง วันละ 1 แผ่นหรือถั่วลิสงวันละ 1 กำมือ

14. หงุดหงิดง่าย ให้กินอาหารร่าเริง คือ ข้าวเหนียวดำ ข้าวโพด กลอย กล้วยหอมและทูน่า

15. กระดูกพรุน ให้กินงาดำวันละ 4 ช้อนโต๊ะ(ได้แคลเซียมมาก)

16. ความจำไม่ดี ให้กินปลาทูวันละ 2 ขีด หอยแครงและหอย นางรมซึ่งมีธาตุสังกะสีช่วยสมองได้

17. มะเร็งเต้านม ให้กินบร็อกโคลีหรือคะน้าวันละ 5 ขีด

 

กินให้เป็นยา!! 22 โรค ที่รักษาได้ เพียงแค่กินอาหารให้ถูกกับโรค แต่ละอย่างหาทานง่ายได้ทั้งนั้น พิชิตโรคร้ายโดยไม่ใช้ยา! ของดีบอกต่อ!

 

18. มะเร็งปอดทางเดินหายใจ ให้กินเสาวรส ฝรั่ง ส้ม มะนาว มะขามป้อม มะละกอ มะม่วงให้มากเพราะวิตามินซีช่วย สมานหลอดเลือดในปอดได้ดี

 

กินให้เป็นยา!! 22 โรค ที่รักษาได้ เพียงแค่กินอาหารให้ถูกกับโรค แต่ละอย่างหาทานง่ายได้ทั้งนั้น พิชิตโรคร้ายโดยไม่ใช้ยา! ของดีบอกต่อ!

 

19. ท้องเสีย ลำไส้แปรปรวน กินแอปเปิ้ลเขียววันละ 1-2 ผลหรือน้ำแอปเปิ้ลเขียวปั่นทั่งกากจะเป็นการล้างพิษ ไปในตัว

20. เจ็บอกโรคหัวใจ หลอดเลือดตีบ กินปลาทะเล น้ำมันมะกอก ผลอโวคาโด เพราะเหล่านี้มีไขมันดีไปช่วยขับตะกรัน น้ำมันเก่าออกถ้าชอบดื่มชาให้หาชาเขียว สดมาชงดื่มวันละถ้วย

21. ความดันสูงต้องงดบุหรี่และความเค็ม ลองหาข้าวโอ๊ตไม่ขัดสีมากินหรือผักขึ้น ฉ่ายสดหรือปั่นก็ได้จะช่วยควบคุมความดัน ให้ดีขึ้น

22. เบาหวานถามหา ให้เลี่ยงแป้งกับน้ำตาล และกินผักเขียวจัดอย่างคะน้า บร็อกโคลี ผักโขมให้มากถ้าอยากหวานให้กินส้มโอ และฝรั่งเพราะมีน้ำตาลอยู่น้อยมาก

 

กินให้เป็นยา!! 22 โรค ที่รักษาได้ เพียงแค่กินอาหารให้ถูกกับโรค แต่ละอย่างหาทานง่ายได้ทั้งนั้น พิชิตโรคร้ายโดยไม่ใช้ยา! ของดีบอกต่อ!

 

หากเราเลือกรับประทานให้ถูกกับโรค ก็จะถือว่าเป็นการบำบัดรักษาไปในตัวด้วยการกิน นับว่าเป็นวิธีที่ดีหากเราเลือกที่จะรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพราะนอกจากรักษาโรคแล้วเรายังได้รับสารอาหารที่ดีจากอาหารเหล่านี้ด้วย แต่เราควรเลือกรับประมานอาหารให้หลากหลายด้วย ไม่ควรทานอะไรซ้ำๆเดิมๆ เพราะอาจก่อให้เกิดผลเสียได้

 

 

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก คนรักสมุนไพร โดย นายหลินจือ