- 11 พ.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
วันนี้จะให้เหตุผลว่าทำไมเราจึงควรรับประทานสับปะรดทุกวัน เวลาไปเดินตลาด เดินห้าง หรือเดินผ่านรถเข็นขายผลไม้ตามข้างทาง แล้วสังเกตดีๆ จะพบว่า สับปะรด มักเป็นหนึ่งในผลไม้ที่มีวางขายอยู่เสมอ นั่นเป็นเพราะสับปะรดออกผลให้เราได้กินตลอดทั้งปีโดยไม่ต้องรอตามฤดูกาล
สับปะรดจัดเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพอีกชนิดหนึ่ง โดยประโยชน์ของสับปะรดนั้นมีอยู่หลากหลาย เพราะอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินต่าง ๆ จำนวนมาก ซึ่งได้แก่ คาร์โบไฮเดรต วิตามินซี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 กรดโฟลิก ธาตุแคลเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุแมงกานีส ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก ธาตุสังกะสี เป็นต้น ซึ่งเหล่านี้ถือว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายและสุขภาพเราเป็นอย่างมาก และสรรพคุณสับปะรดทางสมุนไพรนั้น ก็ช่วยรักษาอาการต่าง ๆ ได้ เช่น โรคบิด โรคนิ่ว ช่วยบรรเทาอาการแผลเป็นหนอง ขับปัสสาวะ เป็นต้น นอกจากนี้สับปะรดยังมีสรรพคุณดังนี้
สรรพคุณของสับปะรด
1. ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรง
2. ช่วยลดอัตราความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็ง
3. ช่วยบรรเทาและรักษาอาการหวัดได้
4. ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนได้ดีมากขึ้น
5. ช่วยให้สุขภาพในช่องปากแข็งแรง ป้องกันไม่ให้เกิดโรคเหงือก
6. ช่วยบรรเทาอาการร้อน กระสับกระส่าย หิวน้ำ
7. ช่วยแก้อาการท้องผูก ขับถ่ายไม่สะดวก
8. ช่วยในการย่อยอาหารจำพวกโปรตีน
9. ช่วยลดเสมหะในลำคอได้
10. ช่วยในการขับปัสสาวะ ปัสสาวะไม่ออก
11. ช่วยรักษาโรคนิ่ว
12. ช่วยรักษาโรคไตอักเสบ
13. ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง
14. ช่วยรักษาโรคหลอดลมอักเสบ
15. ช่วยบรรเทาอาการของโรคบิด
16. เชื่อว่าช่วยรักษาและบรรเทาอาการของโรคนิ้วล็อก (Trigger finger)
17. ช่วยรักษาอาการบวมน้ำ
18. ช่วยรักษาอาการแผลเป็นหนอง
19. ช่วยแก้ปัญหาส้นเท้าแตก
20. ช่วยลดการอักเสบจากบาดแผล
21. เป็นยารักษาโรคผิวหนัง
22. ใบสด นำมาใช้เป็นยาถ่ายหรือยาฆ่าพยาธิได้
23. ผลดิบสามารถนำมาใช้ห้ามเลือดได้
24. ผลดิบสับปะรดช่วยขับประจําเดือน
25. ส่วนของรากสับปะรดนำมาใช้เป็นยาแก้กระษัย บำรุงไตได้
26. หนามของสับปะรดช่วยแก้พิษฝีต่าง ๆ ได้
ซึ่งในสับปะรด 100 กรัม มีคุณค่าทางโภชนาการดังนี้
1. พลังงาน 50 กิโลแคลอรี
2. คาร์โบไฮเดรต 13.12 กรัม
3. น้ำตาล 9.85 กรัม
4. เส้นใย 1.4 กรัม
5. รูปสับปะรดไขมัน 0.12 กรัม
6. โปรตีน 0.54 กรัม
7. วิตามินบี 1 0.079 มิลลิกรัม 7%
8. วิตามินบี 2 0.032 มิลลิกรัม 3%
9. วิตามินบี 3 0.5 มิลลิกรัม 3%
10. วิตามินบี 5 0.213 มิลลิกรัม 4%
11. วิตามินบี 6 0.112 มิลลิกรัม 9%
12. วิตามินบี 9 18 ไมโครกรัม 5%
13. โคลีน 5.5 มิลลิกรัม 1%
14. วิตามินซี 47.8 มิลลิกรัม 58%
15. ธาตุแคลเซียม 13 มิลลิกรัม 1%
16. ธาตุเหล็ก 0.29 มิลลิกรัม 2%
17. ธาตุแมกนีเซียม 12 มิลลิกรัม 3%
18. ธาตุแมงกานีส 0.927 มิลลิกรัม 44%
19. ธาตุฟอสฟอรัส 8 มิลลิกรัม 1%
20. ธาตุโพแทสเซียม 109 มิลลิกรัม 2%
21. ธาตุโซเดียม 1 มิลลิกรัม 0%
22. ธาตุสังกะสี 0.12 มิลลิกรัม 1%
ขอบคุณข้อมูลจาก : medthai , naykhaotom