- 28 พ.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
สืบเนื่องจากการที่ เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2561 อดีตพระสุวิทย์ ธีรธมฺโม หรือ พุทธะอิสระ แห่งวัดอ้อน้อย ถูกเจ้าหน้าที่จับกุม ในความผิด 2 ข้อหา คือ ปล้นทรัพย์ กับ เป็นหัวหน้าอั้งยี่ซ่องโจร ซึ่งเป็นความผิดที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2557 ขณะที่มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่ม กปปส. จากกรณีที่ตำรวจสันติบาลถูกการ์ด กปปส. แจ้งวัฒนะ ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และ ปล้นเอาทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ไปด้วย และตำรวจมีการแจ้งข้อหาแอบอ้างใช้ปรมาภิไธย ภปร. และ ส.ก. กรณีสร้างพระเครื่องพระนาคปรก รุ่นหนึ่งในปฐพีด้วย
จนทำให้มีการเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือ พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา เพราะฉะนั้นในวันนี้เราจะได้ย้อนไปดูการโพสต์ข้อความทั้ง 4 วัน
28 พ.ค.61 พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา ได้ฝากข้อความไว้ในเฟสบุคส่วนตัวระบุว่า ผมขอฝากแชร์ด้วยครับว่า รพ.มงกุฎวัฒนะ ไม่ขอรักษาควายในร่างคนครับ!...มีคนเป็นห่วงว่า รพ.มงกุฎวัฒนะ จะได้รับผลกระทบจากกลุ่มคนที่รังเกียจผมแล้วจะไม่มาอุดหนุน รพ.มงกุฎวัฒนะ
ผมขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า รพ.มงกุฎวัฒนะเผชิญสถานการณ์ต่อต้านไม่ใช้บริการจากกลุ่มคนที่รังเกียจผมมานานกว่า 4 ปีแล้ว แต่ รพ.มงกุฎวัฒนะ กลับมีผู้ใช้บริการมาอุดหนุนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 57 จนสามารถชำระหนี้คืน ธ.กรุงไทยมากกว่า 500 ล้านบาทได้อย่างหมดสิ้นใน 8 เดือน ทั้งยังมีเงินซื้อที่ดินโดยรอบโรงพยาบาลอีก 200 ล้านบาท
ทำให้ รพ.มงกุฎวัฒนะ ขยายอาณาเขตจากที่ดินเดิมก่อนปี 57 ที่มีเพียง 4 ไร่เป็น 9 ไร่ในปี 58 และจะก่อสร้างอาคารใหม่อีก 3 หลังจนเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ขนาด 440 เตียงที่มีพื้นที่อาคารมากกว่า 70,000 ตารางเมตรโดยไม่ต้องกู้เงินจากธนาคาร ดังนั้นท่านทั้งหลายจึงไม่ต้องห่วงว่า รพ.มงกุฎวัฒนะ จะเดือดร้อนนะครับ ...
ผมกลับขอให้ท่านทั้งหลายช่วยกันแชร์ให้สาธารณชนทราบทั่วกันว่า ไอ้พวกต่อต้านผมด้วยการต่อต้าน รพ.มงกุฎวัฒนะ มันยิ่งทำให้คนดีๆ เห็นใจและมาใช้บริการ รพ.มงกุฎวัฒนะ มากยิ่งขึ้น เพราะเป็นโรงพยาบาลของคนที่มีจิตสำนึกดี ไม่ใช่โรงพยาบาลรักษาควายในร่างคน พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา
หากย้อนดูโพสต์ก่อนหน้านี้ 27 พ.ค.61 พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา ได้โพสต์ข้อความเอาไว้ระบุว่า เหรียญทอง แน่นหนา
กราบเรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี , คณะรัฐมนตรี และ คสช....ผมเป็นคนหนึ่งที่ให้กำลังใจและประกาศยืนหยัดสนับสนุนท่านและคณะในการเดินหน้าแก้ปัญหาของชาติมาโดยตลอด ผมขอขอบคุณที่ทั้งท่านและ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ ตักเตือนตำรวจมิให้เกิดการปฏิบัติการ ‘ถ่อย’ เช่นนี้อีก แต่มันไม่เพียงพอเพราะความเสียหายต่อศรัทธาในรัฐบาลและ คสช.มันทวีความรุนแรงขึ้นซึ่งจะส่งผลต่อความมั่นคงของชาติ โดยเฉพาะการดำเนินการตามโรดแมปที่อาจมีปัญหาและจะเป็นสาเหตุให้ขบวนการสามานย์ปลุกระดมให้เกิดความไม่สงบสุขในที่สุด กรณีที่เกิดขึ้นนี้อาจเป็นเพียง ‘น้ำผึ้งหยดเดียว’ ที่ทำลายความสงบสุขของชาติ ผมขอความกรุณาจากท่านและคณะจงอย่าประมาทมองข้ามเรื่องนี้ไป
ผมขอเสนอให้ท่านใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งย้าย ผบ.ตร., ผู้บังคับบัญชาและฝ่ายอำนวยการที่เกี่ยวข้องกับชุดปฏิบัติการบุกจับหลวงปู่พุทธะอิสระ ผมขอให้ท่านอย่าได้กังวลใจว่าข้อเสนอของผมนี้จะทำลายขวัญกำลังใจของตำรวจ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมันล้มเหลว มันทำลายความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประชาชนกับตำรวจซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญยิ่งต่อภารกิจพิทักษ์สันติราษฎร์ ทำลายภาพลักษณ์ขององค์กรตำรวจอย่างต่ำช้าทำให้ตำรวจดีๆต้องพลอยรับกรรมชั่วๆจากตำรวจเลวๆ อีกทั้งข้อเสนอของผมนี้จะเป็นโอกาสให้ท่านได้ส่งเสริมนายตำรวจดีๆตามแนวทางพระบรมราโชวาทของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในการส่งเสริมคนดีให้ขึ้นมาทำหน้าที่ปกครองปรับปรุงแก้ไขเพื่อเรียกความศรัทธาเชื่อมั่นคืนจากประชาชน
26 พ.ค.61 พลตรีเหรียญทอง แน่นหนา ได้โพสต์สรุปผลการปฏิบัติการจับกุมหลวงปู่พุทธะอิสระ...จากพยานหลักฐานวีดีโอที่บันทึกโดยชุดปฏิบัติการพบว่ามีพวกกุ๊ยสวมเครื่องแบบตำรวจจำนวนมากได้เข้าไปทำลายกุฎิพระและแสดงอาการก้าวร้าวเหมือนพวกอั้งยี่ ทั้งนี้ถือว่าการปฏิบัติดังกล่าวถูกต้องตามมาตรฐานทางยุทธวิธีของตำรวจไทยที่ประชาชนไม่คุ้นชิน โดยหลวงปู่พุทธะอิสระผู้ถูกกล่าวหาตามหมายจับว่าเป็นอั้งยี่นั้นได้รับทราบข้อกล่าวหาด้วยอาการสงบเรียบร้อย ภายหลังจากปฏิบัติการแล้ว พวกกุ๊ยสวมเครื่องแบบได้หายหน้าหายตาไปจากสังคม
25 พ.ค.61 พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา โพสต์ ปฏิบัติการถ่อย...ปฏิบัติการบุกจับหลวงปู่พุทธะอิสระที่ปรากฎตามคลิปที่เผยแพร่นั้น คือ ปฏิบัติการที่ล้มเหลวของตำรวจและส่งผลเสียหายต่อภาพลักษณ์ของตำรวจเป็นอย่างมาก การปฏิบัติการใดก็ตามผู้บังคับบัญชาและฝ่ายอำนวยการจะต้องประเมินสถานการณ์ให้ได้ว่าจะเกิดผลการโต้ตอบหรือไม่ อย่างไร และหากมีการโต้ตอบขึ้นจะมีระดับใดและมีขั้นตอนการปฏิบัติอย่างไร การไม่สามารถประเมินสถานการณ์ได้เช่นนี้มันจึงส่งผลให้เกิดปฏิบัติการอย่างบ้าบิ่น อย่างโง่ๆ ทำให้เกิดการแสดงออกซึ่งความต่ำทรามและส่งผลเสียหายต่อภาพลักษณ์ของตำรวจ ทำให้ปฏิบัติการที่เกิดขึ้นกลายเป็น ปฏิบัติการถ่อย ผมไม่คิดเลยว่าผู้บังคับบัญชาและฝ่ายอำนวยการในการปฏิบัติการครั้งนี้จะมีระดับสติปัญญาเพียงแค่นี้ บอกตรงๆครับว่า...โง่ชะมัด