- 01 มิ.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
จากกรณีเหตุการณ์ชาย 4 คน อุ้มน.ส.อุมาพร หอยสังข์ หรือ กิ๊ฟ ออกจากผับแห่งหนึ่ง ก่อนพาไปข่มขืน แล้วกิ๊ฟเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังจากเมื่อวันที่ 30 พ.ค. 61 เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาได้ แต่ทางครอบครัวผู้เสียชีวิต ยังคาใจปมการเสียชีวิต
ล่าสุดทีมข่าวอัมรินทร์ทีวีได้โทรศัพท์สอบถาม สิริ หญิงสาวที่ปรากฏในภาพจากกล้องวงจรปิด โดยเปิดเผยเป็นครั้งแรกว่า ตนคือหญิงสาวที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดจริง พร้อมเล่าว่า ตนได้เดินทางมาที่ผับแห่งนี้ช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. พร้อมกับเพื่อน เมื่อถึงเวลาผับใกล้จะปิด เพื่อนบางคนเริ่มเดินทางกลับ จึงได้เดินไปส่งเพื่อนที่รถด้านนอกผับ
แล้วตนจึงได้เดินทางกลับเข้ามาในผับอีกครั้ง เพื่อที่จะมาหาเพื่อนที่นั่งรออยู่ด้านใน พร้อมมาเอากระเป๋า แล้วเดินทางกลับบ้าน แต่เมื่อเดินเข้ามาก็เห็นกิ๊ฟ ยืนเต้นอยู่ที่โต๊ะผู้ต้องหา ที่มีผู้ชายอยู่ที่โต๊ะประมาณ 4-5 คน โดยอยู่ข้างโต๊ะตนเอง แต่ตอนนั้นตนไม่เห็นเพื่อนของกิ๊ฟแม้แต่คนเดียว และตนก็ไม่ใช่เพื่อนของกิ๊ฟ พร้อมยืนยันว่า ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
นอกจากนี้ เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 15 นาที คล้ายกับว่ากิ๊ฟเมาแล้วล้มลงหมดสติ กลุ่มผู้ต้องหาจึงได้เข้าไปช่วยเหลือ แต่ตนไม่ทราบว่าผู้ต้องหาจะพาไปที่ไหน เมื่อตนเห็นเช่นนั้นตามสัญชาตญาณของมนุษย์ จึงได้เข้าไปช่วยเหลือด้วยการช่วยพยุงและถือกระเป๋า ก่อนที่จะเดินไปที่หน้าโซฟาของสถานบันเทิง ตนถามกลุ่มผู้ชายว่าบุคคลนี้คือใคร จนทราบว่ากิ๊ฟรู้จักกับหนึ่งในชายที่อยู่ในโต๊ะของผู้ต้องหา และจะพาไปส่งที่บ้าน
ตนจึงตัดสินใจที่จะพาไปที่รถของกลุ่มชายเหล่านั้น แล้วเดินกลับเข้าไปในผับอีกครั้งหนึ่ง เมื่อตนเดินกลับมาที่รถ ก็เห็นว่ากิ๊ฟไม่ได้อยู่ในชุดสายเดี่ยวเช่นเดิม เพราะทราบมาว่า กลุ่มผู้ต้องหาได้หยิบเสื้อยืดมาจากภายในรถ เพื่อที่จะใส่ทับให้ เพราะเห็นว่ากิ๊ฟใส่เสื้อสายเดี่ยวดูไม่ดี
ทั้งนี้ สิริ ยืนยันว่า ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้อง ที่จะให้กลุ่มชายดังกล่าวพากิ๊ฟไปข่มขืน และไม่ได้ร่วมวางแผนด้วย ซึ่งที่ตนไม่ได้รู้สึกแปลกใจ เพราะขณะที่พากิ๊ฟไปที่รถกระบะ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินผ่านมา และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนั่งข้างรถกระบะอยู่ด้วย
ส่วนจากภาพคลิปที่ตนคล้ายกับลุกลี้ลุกลน เพราะตนรีบร้อนที่อยากจะให้ช่วยเหลือกิ๊ฟเท่านั้น แต่เรื่องที่กระเป๋าที่มีการฉีกขาด ตนคิดว่ากระเป๋าน่าจะขาดมาตั้งแต่ด้านในผับ เพราะตอนที่ตนสังเกตคือกระเป๋าเปิดมาตั้งแต่ตอนแรก และที่ดูกระเป๋าก็ไม่พบว่าด้านในจะมีโทรศัพท์ของผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด แต่การที่ตนอยากหาโทรศัพท์ เพราะอยากที่จะติดต่อทางเพื่อนของผู้เสียชีวิตให้มารับ ภายในกระเป๋ามีเพียงเงินจำนวน 200-300 บาท และตลับแป้งเพียงเท่านั้น แล้วเมื่อตนส่งกิ๊ฟที่ท้ายรถกระบะแล้ว หลังจากนั้นตนเดินทางกลับทันที เพราะเพื่อนรอตนอยู่ที่รถ
อย่างไรก็ตาม เจตนาของตนที่เดินไปกับกลุ่มผู้ต้องหาเป็นเพราะตนอยากช่วยเหลือเพียงเท่านั้น เนื่องจาก เห็นว่าเจ้าตัวหมดสติเท่านั้น พร้อมยืนยันคำเดิมว่า ไม่ได้เป็นคนหลอกผู้หญิงคนดังกล่าวมาที่ผับแห่งนี้ และตนไม่ได้ปล่อยเงินกู้เพื่อนำกิ๊ฟมาขัดดอกอย่างที่มีกระแสข่าว ในขณะที่ ทีมข่าวได้โทรศัพท์พูดคุยกับ คุณสิริ อยู่นั้น คุณน้าของสิริ ได้พูดแทรกขึ้นมาว่า เรื่องเงินกู้หลานตนไม่รู้ พร้อมยืนยันว่า หลานตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว
ขอบคุณ รายการทุบโต๊ะข่าว อัมรินทร์ทีวี HD34