เศร้าหนัก..ชนวนมรณะ!! แม่หนุ่มมือยิงโหดรพ.นครปฐม ยัน 2 คนรักกันมาก รู้เครียดเมียป่วยยื้อภาระถาโถม!?? (คลิป)

จากกรณีเกิดเหตุสามีคือนายชัยพร เชาวนะกมล อายุ 31 ปี บุกยิงภรรยาคือ น.ส.ธัญญมาศ ทะนามศรี อายุ 29 ปี และ นายสัมพันธ์ ทะนามศรี อายุ 60 ปี พ่อตา เสียชีวิต ก่อนจะยิงตัวตายตามแต่อาการสาหัส นอกจากนี้ยังพบผู้บาดเจ็บถูกกระสุนลูกหลงมีบาดแผลโดนสะเก็ดบริเวณขาซ้ายด้านนอกนั้น (ด่วนที่สุด!!หนุ่มปืนโหด..พลาดหวังง้อสาว รัวยิงสนั่นรพ.ศูนย์นครปฐมมีตาย 2 ศพ ก่อนลั่นไกใส่ตัวเองหนีผิด!??)
 
 

 

จากการสอบสวนทราบว่า น.ส.ธัญญมาศ เพิ่งคลอดลูกได้ 5 เดือน จากนั้นก็ได้มาตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ตอนแรกตั้งใจจะมากับสามี แต่มีปัญหากัน นายสัมพันธ์จึงได้พามาแทน หลังจากมาถึงที่โรงพยาบาลเพื่อเตรียมรอพบแพทย์

 

 

 

 
 

 

ผู้ก่อเหตุได้เดินเข้ามาหาทั้ง 2 คนแล้วพูดคุยกัน จากนั้นทั้ง 3 คนก็เดินออกไปข้างนอก ประมาณครึ่งชั่วโมง น.ส.ธัญญามาศ และนายสัมพันธ์ ก็กลับเข้ามานั่งที่เดิม ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะตามมาจ่อยิงเข้าที่ศีรษะนายสัมพันธ์ แล้วยิง น.ส.ธัญญมาศ จากนั้นก็ใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัส  

 

 

อ่านข่าวก่อนหน้า : โหดสยอง!!เปิดปมมรณะ..ผัวโหดยิงเมียลูกอ่อนวัย 6 เดือนตายคารพ.นครปฐม ต้นเหตุเริ่มจากพ่อตาจุดชนวนเดือด ล่าสุดมือปืนสิ้นใจแล้ว!??

 

แม่ของนายชัยพร
 

 
ด้านแม่ของผู้ก่อเหตุเปิดเผยว่า ลูกชายรักภรรยามาก แต่ไม่รู้ว่าเกิดปัญหาอะไรกัน แต่เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ลูกชายมารับจากฟารม์กุ้งให้ไปช่วยคุยกับบ้านของภรรยาที่อำเภอบางเลน แต่พอไปถึงก็ไม่พบใครอยู่บ้าน และติดต่อครอบครัวภรรยาไม่ได้ ตนก็ได้แต่บอกลูกให้ใจเย็น ๆ ที่ผ่านมาลูกชายเป็นคนเก็บตัวเงียบไม่ค่อยพูดกับใคร เป็นคนอารมณ์ร้อน แต่รักภรรยามาก ไม่คาดคิดว่าลูกจะมาก่อเหตุสลดใจแบบนี้ 

 

 
ขณะที่เพื่อนบ้านของทั้งสองเล่าว่า ทั้งสองคนรักกันมาก ไม่เคยมีปัญหาทะเลาะกันมาก่อน แต่ช่วงหลังที่ภรรยาป่วยหนัก หลังจากคลอดลูก แม่ของฝ่ายหญิงมาช่วยเลี้ยงหลานและดูแลอาการป่วยของลูกสาว แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางครอบครัวฝ่ายหญิงได้ย้ายภรรยาและลูกของนายชัยพรไปดูแลที่บ้านพักในอำเภอบางเลน ตอนนั้นสังเกตว่านายชัยพรมีอาการเหงา ซึม มาบ่นกับตนเสมอว่าคิดถึงลูกและเมีย 

 

 

ด้าน นายแพทย์ สุนัย จันทร์ฉาย รองผอ.รพ.นครปฐม เปิดเผยอาการบาดเจ็บของนายชัยพร ว่าตอนนี้อากรยังคงโคม่า เพราะกระสุนทำลายสมองอย่างรุนแรง แพทย์ทำการผ่าตัดและห้ามเลือดในสมองได้แล้ว ต้องเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด 

 

 

 

 

ขอบคุณที่มา : รายการเรื่องเล่าเช้านี้