- 20 มิ.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
จากกรณีข่าวการประหารชีวิตนักโทษเด็ดขาดชาย มิก ธีรศักดิ์ หลงจิ อายุ 26 ปี เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา สร้างแรงกระเพื่อมในสังคมขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากนับเป็นรายแรกในรอบ 9 ปี ที่ถูกประหารชีวิต ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้า (เปิดนาทีสำคัญ!!เพชรฆาตคุกบางขวาง เล่านาทีประหาร"นช.ธีรศักดิ์" ทุกคำทำขนลุก เอ่ยสุดท้ายก่อนตาย..เอ่ยอโหสิกรรม!??)
ต่อมา กระทรวงยุติธรรม เปิดเผยถึงขั้นตอนการประหารชีวิต รวมถึงคำสั่งเสียสุดท้ายของ นักโทษเด็ดขาดชายธีรศักดิ์ ที่ถูกตัดสินโทษ "ประหารชีวิต" ระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนช.ธีรศักดิ์มาที่ห้องประหารชีวิต ช่วงเย็นของวันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน ก่อนเข้าห้องประหาร เจ้าหน้าที่อนุญาตให้โทรศัพท์หาคนในครอบครัวได้
โดยทางนช.ธีรศักดิ์จึงโทรศัพท์หาแม่และภรรยา ซึ่งระหว่างการพูดคุยได้สั่งเสียและขอโทษที่ไม่ได้อยู่ดูแลครอบครัว และขอให้ภรรยาดูแลครอบครัวให้ดี รวมทั้งฝากดูแลลูก ๆ ด้วย ใช้เวลาคุยกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนเจ้าหน้าที่จะพาขึ้นบนเตียง แล้วเริ่มด้วยการฉีดเข็มแรก เป็นยานอนหลับ เข็มที่ 2 เป็นยาคลายกล้ามเนื้อ ตามมาด้วยเข็มสุดท้ายที่เป็นยาทำให้หัวใจค่อย ๆ หยุดเต้น
อย่างไรก็ตาม นช.ธีรศักดิ์มีประวัติการใช้ยาเสพติด ทำให้เจ้าหน้าที่คลำหาเส้นเลือดด้วยความยากลำบาก เพราะเส้นเลือดค่อนข้างตีบ ซึ่งหลังจากฉีดยาแล้ว เจ้าตัวได้อ่านบทสวดภาษาอาหรับ เนื่องจากเป็นมุสลิม สวดลักษณะพึมพำอยู่ในลำคอ ไม่ได้ส่งเสียงออกมาดังมากเท่าใด จนกระทั่งยาออกฤทธิ์ก็ค่อย ๆ สิ้นลมหายใจ จากไปอย่างสงบ
ทั้งนี้ ก่อนจะมาห้องประหาร เจ้าตัวพูดว่า ไม่ได้เป็นคนฆ่า และตลอดเวลาที่อยู่ในเรือนจำก็ได้ต่อสู้คดีมาตลอด ตอนที่อยู่ในห้องประหาร "ไม่ได้เป็นคนฆ่า ไม่ได้เป็นคนทำ"
ขณะที่ก่อนหน้านั้น น้องสาวของนช.ธีรศักดิ์ กล่าวว่า แม้จะทำใจมาตลอดแต่ก็เสียใจและทำใจไม่ได้ ที่พี่ชายถูกประหารชีวิตเป็นรายแรกในรอบ 9 ปี เพราะไม่มีการแจ้งญาติให้ไปดูใจ หรือร่ำลากันเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งแต่เดิมตั้งใจจะเดินทางไปเยี่ยมพี่ชายในวันนี้ เนื่องจากพี่ชายส่งจดหมายมาขอเงิน 2,000 บาท พร้อมวุฒิการศึกษา และทางพี่สาวก็ส่งไปให้แล้ว
ด้าน พ.ต.ท.เอกราช หุ่นงาม รอง ผกก.ป.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า...การเรียกร้องสิทธิบางสิทธิ มันต้องมองสองด้าน เมื่อต้องการปกป้องชีวิตคนที่เอาชีวิตคนบริสุทธิ์ ก็ควรคิดวิธีการปกป้องชีวิตคนบริสุทธิ์เสียก่อน อย่าปกป้องแต่ฝ่ายทำผิดฝ่ายเดียว มันไม่ยุติธรรมหรอก ลองถามใจตัวเองก่อนว่า ถ้าคนที่เรารักถูกคนฆ่าตาย เราจะอยากให้คนฆ่าเขามีชีวิตอยู่หรือไม่ โทษประหารผมมองว่าควรใช้ต่อไป แต่ควรพิจารณาให้รอบคอบว่าความผิดนั้น สมควรประหารจริงๆเท่านั้น!!
ขอบคุณที่มา : สารวัตรเอก หุ่น






