พี่สาวฟอสจัดหนัก แม่สปาย แฉทุนจริงที่ใช้สร้างเรือนหอ!

จากคดีที่ ทางนายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน พร้อมพวก เป็นผู้ต้องหาฆ่าน.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือ สปาย อายุ 20 ปี และนายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือฟอส อายุ 20 ปี ที่เขาชีจรรย์ จ.ชลบุรี  ซึ่งหลังจากที่ ทางการไทยได้ดำเนินการ ประสานงานกับประเทศกัมพูชา เพื่อขอตัว นายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน กลับมาดำเนินคดีในไทย ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2561 ที่ผ่านมา   

 

โดยเมื่อกลางดึกวันที่ 21 สิงหาคม 2561 เสี่ยอ้วนถูกส่งตัวกลับมาถึงกรุงเทพฯ โดยมี ความคืบหน้าการนำตัวนายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน ผู้ต้องหาที่บงการและลงมือสังหาร น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือน้องสปาย และนายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือน้องฟอส ไปชี้จุดเกิดเหตุเพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดต่างๆ

 

 

เหตุการณ์ขณะที่นำตัวเสี่ยอ้วน เดินลงมาจากห้องขังเพื่อจะขึ้นรถขนผู้ต้องหาที่จอดรออยู่หน้าโรงพัก เสี่ยอ้วนได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่มารอทำข่าวว่า “เสียใจครับ เสียใจในสิ่งที่เกิดขึ้น เงิน 7 ล้านมีการโอนจริงครับ ให้พ่อแม่น้องสปาย โดยหลักฐานเป็นสลิปการโอนได้ส่งมอบให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. แล้ว รวมทั้งจะมีการดำเนินการฟ้องร้องเรื่องทรัพย์สิน โดยมอบให้ญาติเป็นผู้จัดการ

 

 

"ผมเชื่อแล้วในความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ และได้กราบขอขมาแล้ว วันที่ยิงน้องสปาย-น้องฟอส กระสุน 3 นัดไม่ออก แต่ทุกอย่างต้องจัดการต่อ ส่วนเงินที่โอนให้ครอบครัวน้องสปาย ทีแรกเมื่อรู้ว่าผิดคำพูดกันแล้ว กะว่าจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายคืน แต่ด้วยไม่เคยถูกหยาม ไม่อยากเสียศักดิ์ศรี จึงมอบความตายให้" เสี่ยอ้วน กล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวขึ้นรถขนผู้ต้องหาออกไปทันที

 

 

นอกจากนี้ "เสี่ยอ้วน" ได้เปิดเล่าเรื่องระหว่างตนกับสปายให้ ชุดจับกุมถึงความคับแค้นที่มีจนต้องวางแผนอฆ่าว่า ตั้งแต่แอบชอบและได้คบหากับน้องสปายมานานกว่า 3 ปี ได้มีการพาไปฮันนีมูนที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อปลายปี 60 และบินกลับไทยในต้นปี 61 โดยมีการวางแผนการแต่งงานมาโดยตลอด กระทั่งมีการตกลงกับน้องสปายว่าจะแต่งงานกัน จึงมีการโอนเงินจำนวน 5 ล้านบาท ให้ไว้เป็นค่าใช้จ่ายซื้อบ้านซื้อรถ และไถ่ถอนที่ดิน และโอนให้น้องสปายอีก 2 ล้าน ไปทำศัลยกรรม

 

นอกจากนี้แหล่งข่าวชุดสอบสวน ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า “เสี่ยอ้วน” บอกความในใจแบบหมดเปลือก สาเหตุที่ต้องฆ่า “น้องสปาย นายฟอส” เนื่องจากแอบชอบฝ่ายหญิงมาเป็นเวลานานแล้ว กระทั่งเทใจให้รักมาก แล้วยังยอมรับว่า ที่ผ่านมาเขาจะได้ชื่อเป็นเสือผู้หญิง ผ่านการมีภรรยาสวยๆ มาแล้วมากมาย แต่ก็แพ้ใจให้กับเธอคนนี้

“ยอมอดเปรี้ยวไว้กินหวาน ไม่คิดล่วงเกิน หรือหักหาญน้ำใจข่มเหง น้องสปาย  แถมยังวางแผนพาไปเที่ยวฮันนีมูนไกลถึงประเทศญี่ปุ่น เมื่อช่วงปลายปี 60 ก่อนจะบินกลับมาประเทศไทยต้นปี 2561 เพื่อวางแผนแต่งงาน หวังจะได้เชยชม น้องสปาย  ให้สมกับการรอคอย ยอมทุ่มเงินเป็นจำนวนมากถึง 5 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายซื้อบ้าน ซื้อรถ ไถ่ถอนที่ดินให้ฝ่ายหญิง”

รวมถึงได้โอนเงินอีกจำนวน 2 ล้านบาท ให้ น้องสปาย ทำไปศัลยกรรม แต่ต้องมาผิดหวัง เพื่อหญิงคนรักหนีไปกับชายอื่น จึงส่งลูกน้องนายสายัณฑ์ไปตีสนิท เพื่อนซี้น้องสปาย เพื่อรายงานความเคลื่อนไหว จนสืบได้แน่ชัด น้องสปาย มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนายฟอสจริง ทำให้ทนไม่ได้ ทั้งรัก ทั้งแค้น บุกไปยิงดังกล่าว
 

 

และเรื่องราวยิ่งเข้มข้นขึ้นไปอีกเมื่อมีการขุดหลักฐานการโอนเงินที่เสี่ยอ้วนมอบให้ครอบครัวน้องสปาย ซึ่งรวมๆแล้วมีจำนวนสูงถึง 7 ล้านบาท! และที่สำคัญทางฝั่งครอบครัวของน้องสปายไม่ยอมมาชี้แจงที่มาที่ไปของเงินนั้นอย่างเปิดเผยเต็ม 100 ทำให้มีข้อสงสัยในอีกหลายๆประเด็น ซึ่งประเด็นหนึ่งก็คือบ้านของน้องสปาย ซึ่งมีการรายงานด้วยว่าบ้านหลังนี้จะถูกนำมาใช้เป็นเรือนหอระหว่างน้องสปายกับเสี่ยอ้วน แต่เมื่อเกิดเรื่องแม่น้องสปายได้ชี้แจงว่าเงินที่ใช้สร้างบ้านนั้นเป็นเงินส่วนตัวของครอบครัวที่ได้รับเป็นมรดกมารวมกับค่าถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลอีก 2 แสน รวมๆแล้วทุนสร้างบ้านนี้มีทั้งหมดเพียง 6 แสนบาทเท่านั้น

แต่ทว่าล่าสุดในรายการโหนกระแส ได้เชิญตัวนายโจ้ เพื่อนเสี่ยอ้วน และ ไอซ์ พี่สาวของฟอส มาสัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นข้อสงสัยต่างๆ โดยนายโจ้ตั้งคำถามว่าหากบ้านหลังนี้เป็นเงินทุนของครอบครัวน้องสปายไม่เกี่ยวข้องกับเสี่ยอ้วนจริงๆเหตุใดต้องส่งรูปภาพบ้านตั้งแต่เริ่มก่อสร้างให้กับเสี่ยอ้วน ทำเพื่ออะไร

 

 

 

 

ด้านไอซ์ พี่สาวของฟอสได้เล่าว่าจริงๆแล้วเฟซบุ๊กของน้องสปายนั้นแม่น้องสปายก็ร่วมใช้ด้วยและคงจะเป็นคนที่คอยส่งรูปบ้านและรถไปให้กับเสี่ยอ้วน ส่วนตัวคิดว่าเรื่องเงินค่าสร้างบ้าน 6 แสนบาทนั้นตนไม่เชื่อ เพราะเท่าที่ดูโคมไฟแชนเดอเรียนั้นก็คงเกือบหลักแสน และผ้าม่านอีก แค่ม่านปกติราคาติดตั้งก็ปาเข้าไป 3 หมื่นกว่าแล้ว แต่นี่ยิ่งเป็นผ้าม่านชุดของแบรนด์หรูของหลุยส์วิตตอง ราคาต้องไม่ต่ำกว่าหลักแสนแน่นอน เพราะฉะนั้นตนยืนยันเลยว่าเพียง 6 แสนบาทไม่สามารถสร้างบ้านได้ขนาดนี้แน่นอน พร้อมฝากทิ้งท้ายอยากให้ครอบครัวของน้องสปายออกมาพูดความจริงเพราะสาเหตุที่น้องทั้ง2ต้องมีจุดจบเช่นนี้ก็คือเรื่องเงินอย่างแน่นอน 

 

 

 

 

 

 

ขอบคุณ รายการโหนกระแส