- 26 ต.ค. 2561
ติดตามรายละเอียด www.tnews.co.th
รัฐบาลเตรียมย้ายหัวลำโพงไปบางซื่อ และจะเปลี่ยนเป็นสถานีกลางที่ครบวงจรสุดในอาเซียน โดยจะเปิดไฟเขียวให้นักลงทุนออกแบบ ก่อสร้าง หาเงินทุน บริหารจัดการ และส่งมอบในระยะสัมปทาน 30 ปี
โดยเรื่องนี้ นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.กระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 200 ปี ของ กทม. ที่จะเกิดเปลี่ยนแปลงฮวงจุ้ย เดิมทีศูนย์กลางของเมืองพัฒนาเกิดจากเกาะรัตนโกสินทร์ หรือเขตสัมพันธวงศ์ ซึ่งมีสถานีรถไฟกลางอยู่ที่หัวลำโพง ปัจจุบันใน กทม.ขยายตัวมีผู้อยู่อาศัยมากกว่า 10 ล้านคน
สถานีกลางบางซื่อมีขนาดพื้นที่ใหญ่จึงจำเป็นต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับ โดยมีการจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาพื้นที่ศูนย์คมนาคมพยลโยธิน พื้นที่รวม 2,325 ไร่ แบ่งเป็น 9 แปลง มีระยะการพัฒนา 3 ระยะได้แก่
เฟส 1 พื้นที่ 9.58 ไร่ พัฒนาเป็นย่านค้าปลีก ร้านค้า ร้านอาหาร
เฟส 2 พื้นที่ 8.95 ไร่ พัฒนาเป็นอาคารสำนักงานและ Co-Working Space รวมถึงกิจการขนส่งโลจิสติกส์
เฟส 3 พื้นที่ 13.58 ไร่ พัฒนาเป็นโรงแรมและธุรกิจท่องเที่ยว
ทั้งนี้ เบื้องต้นการรถไฟแห่งประเทศไทยจะนำพื้นที่เชิงพาณิชย์แปลง A เนื้อที่ประมาณ 32 ไร่ มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท ตั้งอยู่บริเวณทิศใต้ของสถานีกลางบางซื่อมาพัฒนาเป็นศูนย์กลางธุรกิจครบวงจร โดยเป็นแหล่งรวมอาคารสำนักงาน โรงแรม และพื้นที่การค้าปลีก เพื่อให้สอดรับกับการเปิดให้บริการของสถานีกลางบางซื่อในปี2564 โดยนักลงทุนจะลงทุนในรูปแบบ PPP ทั้งการออกแบบ ก่อสร้าง หาเงินทุน บริการจัดการ และส่งมอบ ในระยะสัมปทาน 30 ปี
ด้าน นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย เผยว่า ศูนย์คมนาคมพหลโยธินจะเป็นศูนย์กลางระบบรางอย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งรถไฟทางไกล รถไฟชานเมือง รถไฟฟ้าในเมือง และรถไฟความเร็วสูง มีการเชื่อมต่อกับระบบขนส่งอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียง ทั้งยังนำหลักการพัฒนาพื้นที่โดยรอบศูนย์กลางคมนาคมมาใช้เป็นต้นแบบในการพัฒนาพื้นที่ เมื่อแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี 2566 สถานีกลางบางซื่อจะเป็นสถานีรถไฟที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอาเซียน มีมาตรฐานเทียบเท่าสถานีกลางทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการบางส่วนได้ในปี 2564 รับกับการเปิดเดินรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต และจะเปิดบริการสมบูรณ์แบบในปี 2566 รองรับเปิดเดินรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินอีอีซี






