- 04 ธ.ค. 2561
กรณีสามีโหด ทำร้ายภรรยาจนบาดเจ็บ บริเวณหน้าร้านนวดเเผนไทย จ.ฉะเชิงเทรา
จากกรณี เมื่อวันที่ 1ธ.ค. ที่ผ่านมา ทาง หมอมิ้นต์ อายุ 32 ปี เจ้าของธุรกิจร้านนวดแผนไทย จ.ฉะเชิงเทรา เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางคล้า หลังถูกแฟนหนุ่มที่เพิ่งคบหากันมาเเค่10เดือน ทำร้ายร่างกาย จนได้รับบาดเจ็บสาหัส คิ้วเเตกต้องเย็บถึง 6เข็มม ซึ่งก็มีภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกเหตุการณ์ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30พ.ย. ที่ผ่านมา
โดยในโลกออนไลน์ได้มีการเเชร์คลิป นายนิรุตต์ ธรรมกูล อายุ 40 ปี ได้ลงมือทำร้ายร่างกาย น.ส.นิ่ม (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี เจ้าของธุรกิจร้านนวดแผนไทยแห่งหนึ่งใน อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา จนเกิดกระเเสวิพากษ์วิจารณ์ไปในวงกว้าง ว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ทำร้ายเพศเเม่อย่างป่าเถื่อน รุนเเรง
.
ซึ่งทาง นายนิรุตต์ เป็นสามี น.ส.นิ่ม ที่เพิ่งคบหาอยู่กินกันมาได้แค่ 10 เดือน วันเกิดเหตุเข้าทำร้ายร่างกาย น.ส.นิ่ม จนได้รับบาดเจ็บสาหัส มีบาดแผลฟกช้ำทั่วร่างกาย และต้องเย็บบาดแผลที่เหนือคิ้วด้านซ้ายถึง 6 เข็ม หลังจากเข้าแจ้งความ น.ส.นิ่ม ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจยึดอาวุธปืนของนายนิรุตต์ที่อยู่ในบ้านออกไป
เพราะเกรงว่าจะถูกนายนิรุตต์กลับมาทำร้ายอีก จนอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ซึ่งต่อมา น.ส.นิ่ม กลับเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานล่าช้า หวั่นจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดีจึงได้ร้องสื่อมวลชนเพื่อขอความเป็นธรรม
ความคืบหน้าล่าสุดนั้น นายนิรุตต์ ธรรมกูล อายุ 40 ปี ผู้ก่อเหตุ ได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว พร้อมจะแจ้งความกลับแฟนสาว โดยนายนิรุตต์ เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า สาเหตุของการทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายกันนั้น
สืบเนื่องจากทั้งคู่ทำอาหารกินกันที่บ้าน แต่แฟนสาวไม่ยอมนำจานที่กินอาหารเสร็จแล้วไปวางให้แม่บ้านเพื่อที่จะล้าง กินเสร็จแล้วลุกไปเลย จึงเกิดมีปากเสียงกัน ด้วยความโมโหตนได้ปาแก้วน้ำลงพื้นแตก และพยายามเดินหนีไปขึ้นรถเพื่อจะขับออกไปข้างนอกแต่ถูกฝ่ายแฟนสาวเดินตามมาที่รถ มาด่า และตบหน้าตนก่อน ทำให้ตนเองระงับอารมณ์ไม่อยู่จึงเกิดเป็นการทำร้ายร่างกายกลับไปตามในคลิป ซึ่งหลังเกิดเรื่องตนเองก็มีการส่งข้อความไปขอโทษแฟนสาวแล้ว
ซึ่งตนเองยังรักแฟนสาวเสมอ เราทั้งคู่อยู่ระหว่างเตรียมแต่งงาน ซึ่งตนคิดไว้ว่าจะส่งแฟนสาวไปเรียนต่อต่างประเทศ และปีใหม่ที่จะถึงก็มีการวางเเผนไว้แล้วว่าจะไปฉลองที่ต่างประเทศด้วยกัน
ขอบคุณ
อัมรินทร์ ทีวี