จำได้ไหม เพื่อนสนิท กลายเป็นเมียน้อยพ่อ ล่าสุดทำแสบ

จากกรณีเรื่องโด่งดังในโลกออนไลน์ สำหรับกรณีของ วันนี้ (21/04/2562) สาวรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลระบุว่า เก็บโพสนี้ไว้เตือนใจล่ะกัน อุทาหรณ์ อย่าไว้ใจคน ขอเล่าเรื่องที่เจอล่ะกัน ประมาณเดือนสิงหาปีที่แล้ว มีเพื่อนของพ่อเราเค้าได้เอาลูกเลี้ยงเค้ามาฝากให้ทำงานที่บ้าน ด้วยความที่บ้านเราเป็นคนให้โอกาศคนเลยให้นางมาทำงานขายรถที่บ้าน แรกๆนางก็เป็นคนเงียบๆ ไม่ยุ่งกับใครพออยู่ไปเรื่อยๆก็สนิทกับครอบครัวเรามากขึ้น เพราะนางเป็นคน อยู่เป็น พูดเป็น ขี้ประจบ แต่นางมาแรกๆไม่มีเงินเลย เสื้อที่ใส่ก็ขาด ตังจะกินก็ยังไม่มีแต่อยู่ไปเรื่อยๆพอนางมีปัญหาก็คอยปรึกษาทุกๆคนในครอบครัวเรา บ้านเราเอ็นดูนางมาก เวลาครอบครัวเราไปไหนนางไปด้วยทุกที่ แม่เราเลี้ยงนางเหมือนลูกอีกคนนึ่งด้วยความเอ็นดู แล้วนางก็อายุเท่ากับเรา เราก็สนิทกับนางเหมือนเพื่อนรักไปไหนไปกันทุกที่อยู่ด้วยกันตลอดคือมีไรเราก็ปรึกษานางหมดแต่ทุกเรื่องที่เราปรึกษาไม่นานทุกๆคนก็รู้ นกสองหัว เอาเรื่องไปบอกคนอื่นหมด นางพยายามยุแยงให้ทุกๆคนในบ้านทะเลาะกัน ทำตัวเป็นคนดี แล้วเอาตัวเองไปเป็นคนกลาง 

 

นางจะทำแบบนี้ตลอดเวลา นางพยายาม เจาะข้อมูลทุกๆคนในบ้านว่าแต่ละคนนิสัยยังไงจุดแข็งจุดอ่อนยังไง มีอยู่ครั้งนี้นางขอยืมกล้องบอกจะเอาไปซ่อมให้ เอาไป2เดือนกว่าแต่เราก็เจอกับนางบ่อยนะเพราะนางอยู่บ้านเรา มานอนอยู่ห้องนอนเรา สนิทจนย้ายมาอยู่ห้องนอนเดียวกัน นางบอกกล้องเราอยู่ที่ร้านมอไซร์ที่มันทำงาน แล้วลืมเอามาให้ แต่ที่จริงนางเอากล้องไปจำไว้แล้วไปบอกพ่อเราว่าเราเอาไปจำเอาเงินไปเล่นการพนันหมด เรื่องนี้ทำให้เราทะเลาะกับพ่อมากขึ้น แต่พ่อเราฟังนางทุกอย่าง มันทำทุกวิธีที่ที่ให้เราออกไปอยู่นอกบ้าน และนางทำสำเร็จ พอเราไม่กลับบ้าน นางก็ทำตัวนางเอกจ้าาา นางทักมาทำดีด้วยนางบอกมีอะไรปรึกษานางได้ทุกเรื่อง บอกถ้าไม่มีเงินใช้บอกนะเดี๋ยวนางโอนให้ เดี๋ยวมันจ่ายค่าเทอมให้ เดี๋ยวนะอีดอกกก แต่ช่วงที่เราไม่ได้กลับบ้านนางก็มีเงินใช้มากขึ้น เงินในร้านก็หายบ่อยบางวันหายเป็นหมื่น แถมนางมีทองใส่แล้วปล่อยเงินกู้อีกด้วย รถที่ร้านก็หาย. ไม่รู้นางเอาเงินมาจากไหน ทักไปคุยกับเพื่อนเราว่าทำอะไรก็ไม่มีใครเห็นความดีเลย ตอแหลไปอี๊กกกกก แต่ทุกเรื่องที่มันพูดกับเราและพูดกับเพื่อนเรา มันไม่ตรงกันเลยไปปั่นคนอื่นให้ทะเลาะกับกูแล้วมาทำดีด้วยคือรายยย ต้องการไรจากสังคม

นางให้ไลน์ลุงกับพ่อและแม่เรา นางบอกลุงเป็นพันตำรวจเอก เป็นคนดูแลมาตั้งแต่เด็ก บางวันลุงนางจะทักมาหาคนในบ้านทุกคนว่าดูแลน้องเบ้นดีๆ ฝากน้องเบ้นด้วยนะ เพราะเวลานางทำอะไรครอบครัวเราจะคุยกับลุงนางตลอด แต่เรื่องจริงคือ นางสร้างไลน์ขึ้นมาเอง นางก็คือลุง ลุงนางคนนี้เค้าเกลียดนางมากเพราะนางไปเอากล้องของลูกลุงคนนี้ไปขาย แล้วตอนนี้ลุงก็ไม่สบายนอนอยู่กับที่ แม้งหลอกลวง นางสร้างไลน์ขึ้นมาเองเพื่อที่จะหลอกทุกคนในครอบครัวเรา อันนี้ล่าสุด นางกลับไปบ้านเราที่ใต้กับครอบครัวเรา แล้วนางก็ดูแปลกๆกับพ่อเราเหมือนมีซิมติงกันแอบไปไหนด้วยกันสองต่อสอง เรื่องนี้มันยิ่งชัดมากขึ้นตอนนางไปบ้านเราที่ใต้ เวลาพ่อเราคุยกับผญคนไหนนางก็จะเอามาปั่นแม่เราให้แต่ด่าพ่อ แต่แม่ไม่สนใจ แต่นางกลับโกดเองแม่จะคอยสังเกตุทุกเวลา จนกระทั่งกลางคืนก่อนนอนมันยุแหย่ให้พ่อกับแม่ทะเลาะกัน จนพ่อแยกห้องนอนกับแม่ประมาณ2เดือน

 

แล้วช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราไม่ได้กลับบ้านด้วย มันก็แอบเข้าไปมีอะไรกับพ่อเราในห้องนอน แถมยังทิ้งยาคุมฉุกเฉินไว้ให้ดูต่างหน้าอีกจ้าาา มันทำอย่างนี้มาตลอด พอแม่สงสัยก็พ่อก็เริ่มโมโหแล้วไปเล่าให้นางฟัง(กินบนเรือน ขี้รดบนหลังคา เค้าเลี้ยงอย่างดี ให้มาเป็นเพื่อนลูก) จนกระทั้งวันสงกรานต์ ครอบครัวเรากลับบ้านที่ใต้นางก็ขอไปด้วย พอวันที่15นางได้แอบหยิบโทรศัพท์แม่เราเข้าแอพธนาคารแล้วโอนเงินเข้าบัญชีตัวเอง 90000บาทวันที่16นางโอนอีก7000 แล้วนางก็ลบแอพโทรศัพท์และเมดเสจในเครื่องแม่ทิ้ง(ที่นางรู้รหัสเพราะนางคอยเจาะข้อมูล ตีสนิทตลอด)นางขโมยโทรศัพท์ไปโอนเงินตอนเที่ยงคืน นางทำตัวปกติถึงวันที่18แม่เราไปธนาคารจะไปกดตัง แล้วเงินหายไป97000 เลยโทรไปหานาง นางก็ไม่รับ แถมตัดสายทิ้งหนีไปกับพ่อจนถึงวันนี้ #แล้วแอบเป็นเมียน้อยพ่อกูอีกอีกดอก คงนอนเอากันใน ห้องกูกับห้องพี่กู เมื่อก่อนกูพูดไร18+ทำเป็นรับไม่ได้ 

#เพื่อนรักเอาพ่อไปทำผัว 
#อย่าไว้ใจคนคนแปลกหน้าที่เข้ามาตีสนิท
#อย่าให้ใจใครมากเกินไป
#เลี้ยงงูไว้ในบ้านสุดท้ายโดนมันกัด

 

สืบเนื่องจากประเด็นดังกล่าวนั้น ล่าสุดก็เหมือนว่ามีความคืบหน้า โดยในรายการทุบโต๊ะข่าว ได้รายงานความคืบหน้าว่า  น.ส.หยก (นามสมมติ) เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (5 พ.ค.) คนรู้จักโทรศัพท์มาบอกว่า เห็นพ่อมานั่งอยู่ที่หน้าร้านรถจักรยานยนต์ของครอบครัว ตนพร้อมด้วยพี่ชายและญาติ จึงขับรถตามไปดู และเห็นพ่อนั่งอยู่บริเวณหน้าร้าน พร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้าของ น.ส.เบนซ์ ตนจึงให้พี่ชายลงไปคุยกับพ่อ เพราะพี่ชายกับพ่อจะสนิทและคุยกันมาตลอด โดยพ่อบอกกับพี่ชายว่าถูก น.ส.เบนซ์ทิ้งไว้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งแถวบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนจะขับรถออกไป ซึ่งพ่อเองไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน จึงกลับมาที่ร้าน

โดย พี่ชายได้นำหลักฐานที่ น.ส.เบนซ์สร้างปัญหาและวีรกรรมให้พ่อดู แต่พ่อก็ไม่เชื่อ บอกเพียงว่าจะไปถามความจริงจาก น.ส.เบนซ์ ต่อมาพี่ชายรู้จากพ่อว่า น.ส.เบนซ์ได้นำรถป้ายแดงที่ใช้พาพ่อหนีไปจำนำไว้ที่ร้านแห่งหนึ่ง แต่เมื่อพี่ชายพยายามสอบถาม พ่อก็ไม่ยอมบอกอะไรเพิ่ม และเก็บตัวเงียบไม่พูดคุยกับใคร กระทั่งเมื่อวันอังคารช่วงสาย ขณะที่พี่ชายมาเปิดร้านสาขาที่พ่อพักอยู่ ระหว่างนั้นพ่อก็แอบขโมยกุญแจรถ และขับรถของพี่ชายออกไป โดยพี่ชายพยามยามติดต่อกับพ่อเพื่อให้กลับมา แต่พ่ออ้างว่าจะยืมรถเพื่อไปพูดคุยกับ น.ส.เบนซ์ถึงเรื่องทั้งหมด ทำให้ตนเสียใจและเสียความรู้สึกอย่างมาก เพราะไม่คิดว่าพ่อจะหลงเชื่อคำพูดของ น.ส.เบนซ์มากกว่าคนในครอบครัว

ครอบครัวได้รับแจ้งจากคนรู้จักว่าเห็นสามีกลับมาที่ร้านขายรถจักรยายนต์อีกสาขาของครอบครัว ลูก ๆ จึงรีบไปที่ร้านพร้อมกับญาติ แต่สามีไม่ยอมบอกว่า น.ส.เบนซ์อยู่ที่ไหน บอกเพียงว่าถูก น.ส.เบนซ์ทิ้งไว้ที่โรงแรม และไม่มีเงินติดตัวเลย จึงตัดสินใจกลับมาที่ร้านเพื่อจะตั้งตัวใหม่ แต่เมื่อลูก ๆ และญาติเล่าถึงวีรกรรม น.ส.เบนซ์ให้ฟัง สามีกลับไม่ยอมเชื่อ กระทั่งเมื่อวันอังคารลูกชายโทรศัพท์มาบอกว่า พ่อขโมยรถหนีไปแล้ว ตนเองก็รู้สึกตกใจ ไม่คิดว่าสามีจะเชื่อ น.ส.เบนซ์มากขนาดนี้ แต่เชื่อว่าอีกไม่นานสามีจะรู้ความจริงทุกอย่าง 
 

ขอบคุณคลิปจาก อมรินทร์ ทีวี