นายช่างทำกุญแจชี้แจงเกี่ยวกับภรรยาที่ไปเข้าช่วยเหลือหนูน้อย

จากกรณีที่เกิดเหตุเด็กติดอยู่ในรถยนต์ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่บริเวณหลังตลาดกิมหยง เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ เป็นรถเก๋งเอ็มจีสีขาว ทะเบียน 8 กฌ 3105 กรุงเทพมหานคร เนื่องจากประตูล็อคทั้ง 4 ด้าน

จากกรณีที่เกิดเหตุเด็กติดอยู่ในรถยนต์ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่บริเวณหลังตลาดกิมหยง เขตเทศบาลนครหาดใหญ่  เป็นรถเก๋งเอ็มจีสีขาว ทะเบียน 8 กฌ 3105 กรุงเทพมหานคร เนื่องจากประตูล็อคทั้ง 4 ด้าน และมีเด็กหญิงอายุประมาณ 1 ขวบ ติดอยู่ในรถนั่งอยู่บนเก้าอี้เด็กตรงเบาะหลัง

 

โดยสาเหตุมาจากแม่ซึ่งเป็นคนขับได้ลงจากรถโดยดับเครื่องและวางกุญแจซึ่งเป็นกุญแจแบบรีโมทไว้ในรถเมื่อปิดประตูรถจึงล็อคทันที กระทั่งชาวบ้านในระแวกนั้นพร้อมทั้งภรรยาช่างทำกุญแจได้เข้ามาช่วยเหลือ จนในที่สุดทางเจ้าของรถจึงใช้วิธีประสานไปยังบริษัทเจ้าของรถช่วยปลดล็อครีโมทแบบทางไกลให้ประตูจึงเปิดออกทันที ทำให้เด็กออกมาอย่างปลอดภัย

 


แต่ทว่าเหตุการณ์นี้ทางหญิงสาวเจ้าของรถไม่พอใจที่ประตูรถมีรอยขูดขีด และถามหาความรับผิดจากชอบคนที่เข้ามาพยายามช่วยปลดล็อค เธอจึงให้เบอร์โทรทิ้งไว้หากต้องการที่จะให้ชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นเพื่อพูดคุยเจรจากันภายหลัง

 

นายช่างทำกุญแจชี้แจงเกี่ยวกับภรรยาที่ไปเข้าช่วยเหลือหนูน้อย

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ลูกสาวติดในรถคนหาดใหญ่แห่ช่วย แม่โวยเอาเรื่องเมียช่างกุญแจใช้ลวดทำเก๋งเป็นรอย

 

กระทั่งภรรยาช่างกุญแจที่พอมีประสบการณ์คนดังกล่าวได้เปิดใจว่า "รู้สึกงงมาก พยายามช่วย แต่กลับถูกเจ้าของรถให้ชดใช้ค่าเสียหาย ทั้งๆที่ตอนนั้นไม่มีใครว่าง แต่สามีจึงแนะนำวิธีเปิดให้ ก็พอรู้เรื่องอยู่บ้างจึงพยายามช่วยเปิดให้ และมีพลเมืองดีอีกหลายคนที่เข้ามาช่วยแต่ก็ไม่สำเร็จ

 

 

ทั้งนี้ ทนายเกิดผล แก้วเกิด โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กชี้ว่า การที่เด็กติดอยู่ในรถ เพราะความประมาทของตัวเอง แล้วมีคนไปช่วยลูก แทนที่จะสำนึกบุญคุณเขา กลับคิดจะเอาเรื่อง แบบนี้ใครอยากจะช่วยครับ แต่ถึงแม้รถคุณจะเสียหายแค่ไหน ผู้ที่เข้าไปช่วยเด็กก็ไม่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่งและอาญา แม้แต่สลึงเดียว

 

นายช่างทำกุญแจชี้แจงเกี่ยวกับภรรยาที่ไปเข้าช่วยเหลือหนูน้อย


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ทนายดังแจงข้อกม.ชัด คุณแม่ขู่เอาผิดคนช่วยลูกทำรถเป็นรอย ไม่มีทางได้เงินแม้แต่สลึงเดียว

 

ความคืบหน้าล่าสุดมีรายงานแจ้งมาว่าได้รับการเปิดเผยจากช่างทำกุญแจ ซึ่งเป็นสามีของฝ่ายผู้หญิงที่เข้าไปช่วยเปิดประตูให้กับหนูน้อยวัย 1 ขวบที่ติดอยู่ในรถ ว่า ตนกับสามีของแม่เด็กเป็นเพื่อนรักกัน โดยทางเพื่อนของตนอยู่ที่กทม.เปิดร้านทำกุญแจเหมือนกัน 

 

นายช่างทำกุญแจชี้แจงเกี่ยวกับภรรยาที่ไปเข้าช่วยเหลือหนูน้อย

 

ในช่วงที่เกิดเหตุได้โทรศัพท์มาจากกรุงเทพฯ บอกตนที่อยู่หาดใหญ่ว่าให้ไปเปิดรถเก๋งให้ด้วย เพราะลูกสาวติดอยู่ในรถ ตนไม่ว่างก็เลยให้ภรรยาไปเปิดแทน เนื่องจากมีความรู้เรื่องกุญแจเหมือนกัน แต่ทางฝั่งภรรยาของเพื่อนไม่ทราบเรื่อง จึงเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ได้จบลงแล้วและไม่มีการเอาเรื่องเอาราวอะไรทั้งสิ้น ขณะที่ทางฝั่งตนก็สงสารฝ่ายครอบครัวของเพื่อน เนื่องจากถูกสังคมโจมตีอย่างมาก

 

 

ทั้งนี้จากที่สังคมมองว่าแม่เด็กมั่วแต่เล่นโทรศัพท์มือถืออยู่นั้นก็เพราะ เธอกำลังทำตามคำแนะนะจากศูนย์ของรถยนต์ยี่ห้อดังกล่าว ซึ่งที่ประตูรถล็อกนั้น เป็นไปได้ 2 กรณี คือ ลืมรีโมตไว้ในรถ แล้วมือเด็กอาจไปโดนปุ่มล็อกบนรีโมต หรือเด็กในรถอาจจะไปโดนปุ่มเซ็นทรัลล็อก ที่ประตูฝั่งคนขับ

 


อย่างไรก็ตามทางศูนย์ MG ยืนยันว่า ไม่ได้สั่งปลดล็อกรีโมตแบบทางไกล ตามที่เป็นกระแสข่าว เพราะไม่สามารถทำได้ แต่แม่เด็กได้โทร. มาขอคำปรึกษาที่ศูนย์ เจ้าหน้าที่จึงแนะนำให้แม่เด็กเปิดมือถือ และสั่งปลดล็อกประตูผ่านแอปพลิเคชันของ MG ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ เรียกว่า "ไอสมาร์ต" ซึ่งเจ้าของรถสามารถสั่งล็อกหรือปลดล็อกประตู โดยไม่ต้องใช้วิธีงัดแงะรถ หรือสามารถสั่งรถเปิดไฟหน้า ไฟท้ายเอง รวมถึงสั่งบีบแตรก็ทำได้อีกด้วย

 

นายช่างทำกุญแจชี้แจงเกี่ยวกับภรรยาที่ไปเข้าช่วยเหลือหนูน้อย