อดีตอัยการกางข้อกม.ชี้ชัดๆ เอาผิดวาดพระอุลตร้าแมนได้หรือไม่

ไม่ควรลากหาข้อกม.ใดๆ! อดีตอัยการกางข้อกฏหมายชี้ชัดๆ เอาผิดวาดพระอุลตร้าแมนได้หรือไม่

จากกรณีเมื่อวันที่ 11 กันยายน ดร.จรูญ วรรณกสิณานนท์ และนายพงศ์นรินทร์ อมรรัตนา ทนายความ ร่วมกับกลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดิน ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.หญิง จิราภรณ์ วันโท รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ป. ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.)   เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อนักศึกษาสาวที่วาดภาพพระพุทธรูปอุลตร้าแมน พร้อมอาจารย์ผู้สอนและผู้จัดสถานที่ รวมถึง อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินชื่อดัง และนายเดชา กิติวิทยานันท์ ทนายคลายทุกข์ ที่ออกความเห็นสนับสนุนรวมทั้งหมด 5 คนนั้น

 

ล่าสุดวันนี้(14ก.ย.) นายถาวร เชาว์วิชารัตน์ อดีตอัยการอาวุโส สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีแพ่ง 9 มีนบุรี ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก  ถาวร เชาว์วิชารัตน์  โดยรุว่า

 

ขอคุยมั่ง

 

ยอมรับว่าบทวิจารณ์ต่อไปนี้ เขียนโดยไม่ได้เปิดตัวบท ซึ่งไม่ใช่วิสัยนักกฏหมายที่ดีนัก แต่คิดว่าเรื่องนี้น่าจะว่ากันตามเจตนารมณ์กฏหมาย มากกว่าการตีความตัวบท แบบลากเข้าวัด

 

พระพุทธรูปอุลตร้าแมน

 

 

 

1. ผมเห็นว่าความผิดอันเกี่ยวกับการดูหมิ่นศาสนานั้น ไม่ว่าจะทำด้วยประการใดก็ตาม เจตนารมณ์

ของกฏหมายอาญาน่าจะมุ่งไปถึงการดูหมื่น สิ่งของ วัตถุหรือสถานที่อันเป็นที่เคารพ(ปูชนียะ) ที่คนทั่วไปเขาให้ความเคารพศรัทธาอยู่ก่อนแล้ว กฏหมายมาตรานี้น่าจะมุ่งหมายปกป้องไม่ให้ใครไปล่วงเกินศรัทธาของประชาชนที่เขามีต่อ "สิ่งอันพึงเคารพศรัทธาที่มีอยู่ก่อน" แล้วเท่านั้น เพราะการล่วงเกินเช่นนั้นเป็นการทำลายความรู้สึกที่ดีของประชาชนที่มีต่อสิ่งที่เขาเคารพนับถือ ใครทำการล่วงเกินศรัทธาเช่นนี้ จึงมีความผิด

 

๒. แต่ในกรณีที่ สิ่งของนั้นยังมิได้เป็นสิ่งเคารพนับถือของประชาชนทั่วไป ก็ไม่น่าจะเรียกว่า เป็นสิ่งที่คนเคารพบูชาทางศาสนา ที่กฏหมายจะต้องเข้าไปคุ้มครองหรือจัดการแต่อย่างใด

 

ยิ่งถ้าเป็นเพียง วัตถุชิ้นหนึ่งที่มีคนทำขึ้นเป็นส่วนตัวของเขา เช่นในกรณีนี้ ไม่พึงถือว่าเป็นวัตถุอันเป็น

ปูชนียะ แต่อย่างใด เพราะยังไม่เห็นมีใครที่จะไปแสดงกิริยาอาการเคารพกราบไหว้ด้วยศรัทธา จึงน่าจะมิใช่กรณีจำเป็นที่กฏหมายจะมุ่งคุ้มครอง

 

กลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดิน

 

อาจกล่าวได้ว่า กฏหมายมุ่งคุ้มครองศรัทธาของคน มากกว่าคุ้มครองวัตถุ ดังนั้น เมื่อของสิ่งนั้นยังไม่เคยได้รับความศรัทธาจากใครเลย จึงน่าจะไม่เข้าข้อกฏหมายทีเดียวนัก (ผมว่าแม้คนที่สร้างเองเขาก็คงไม่ได้ศรัทธาตอนที่สร้างขึ้น แต่ตอนนี้เขาอาจศรัทธาขึ้นบ้างก็ได้ ถ้าคนที่ประมูลขายภาพได้จะ เอาเงินไปแบ่งให้เขาบ้าง อย่างที่ประกาศไว้ ยินดีด้วย)

 

๓. การตีความกฏหมายอาญานั้น ถือว่าต้องตีความอย่างเคร่งครัด จะตีความไปตามอารมณ์หรือโทสะของตนไม่ได้ ไม่ใช่คิดเอาเองตามใจชอบ ทั้งจะต้องตีความให้เห็นว่ามุ่งคุ้มครองสิทธิของประชาชน ไม่ใช่เอาเหตุที่ขุ่นใจเป็นการส่วนตัวไปเป็นเหตุโยงเข้าหากฏหมายเรื่อยเปื่อย

 

กฏหมายไม่ได้คุ้มครองอารมณ์คน เพราะอารมณ์เกิดได้ ดับได้ (หลวงพ่อเทศน์ไว้อย่างนี้หรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะไม่เคยบวช)

 

พระพุทธรูปอุตต้าแมน

 

๔. จริงอยู่ที่เหตุกรณีเรื่องนี้มีความไม่เหมาะสม ไม่ถูกใจอยู่มาก ผมเองโดยส่วนตัวก็ไม่ถูกใจ แต่การที่จะมีปฏิกิริยาตอบโต้เพียงใดจึงจะสมควรแก่เหตุนั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

 

แต่จะลากเข้าวัดไปไกลจนถึงกับจะบอกว่าผิดกฏหมาย ก็น่าจะไม่ใช่

 

การกระทำอันที่เกิดขึ้นนั้น แค่ทำให้เราขุ่นมัวไปบ้าง ก็ตอบโต้ไปเพียงเท่านั้นตามสมควร จะบ่นหรือแม้แต่จะด่า (อย่าให้เขาได้ยิน คนด่ามีความผิด) เพื่อให้รู้สึกสบายใจขึ้น เท่าที่ผ่านมา ก็พอสมควรแก่เหตุแล้ว

 

๕. ความจริงเรื่องนี้ ผมมีความเห็นเป็นส่วนตัวว่า ไม่ควรจะลากเข้าไปหาข้อกฏหมายใดๆด้วยซ้ำไป เพราะเจตนาของคนวาดก็เห็นมาแต่แรกแล้วว่า เขาสร้างงานศิลปของเขาเอง ข้อวิพากษ์จึงควรอยู่แค่ในกรอบของงานศิลป คนสร้างเขาไม่ได้มุ่งหมายให้เป็นสิ่งเคารพทางศาสนาแต่อย่างใด คนไปคิดกันเอง

แต่หากเห็นว่า ไม่เหมาะสม (ผมก็เห็นด้วยเช่นนั้น ) ก็แค่ตำหนิ แค่บ่นก็พอแล้วมั้ง

 

นายถาวร เชาว์วิชารัตน์

 

 

 

ขอบคุณเฟซบุ๊ก : ถาวร เชาว์วิชารัตน์ 

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-เนื่องจากดราม่าภาพพระอุลตร้าแมน! เอกชัยลั่นไม่นับถือศาสนาพร้อมสั่งเสียหากตาย
-หนุ่มลวงโลก อาศัยความเชื่อทางศาสนา สร้างเรื่องนำเงินไปสร้างวัด หลอกเงินนับล้านบาท (คลิป)
-พระภิกษุผิวสีรูปแรก นำพระพุทธศาสนา เผยแพร่ในแอฟริกา
-2 ศิลปินแห่งชาติจวกหนัก พวกด่านักศึกษาวาดภาพพระอุลตร้าแมน แต่ละคำจุกอกทั้งนั้น (คลิป)