หญิงชราได้กลิ่นไหม้ ในห้องนอนก่อนเหลือบเห็นประกายไฟ ขนของหนีไม่คิดชีวิต

เวลา 21.30 น. วันที่ 24 ธันวาคม 2562 ร.ต.อ.อิทธิศักดิ์ ภิรมย์ราบ รอง สว. สอบสวน สน.บางกอกใหญ่ รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ภายในซอยอิสรภาพ33 แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อม ประสานรถดับเพลิง จากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจัดรถดับเพลิงเข้าสนับสนุนในจุดเกิดเหตุ

 

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเดินไปถึงที่เกิดเหตุ พบว่า บ้านต้นเพลิงเกิดขึ้น ที่บ้านเลขที่725/2 ซอยอิสระภาพ33 แขวงวัดท่าพระ เขต บางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร จึ่งเร่งต่อสายฉีดนำ้เข้าสกัดกันเพลิงไม่ให้ลุกลาม โดยใช้เวลาในการดับและควบคุมเพลิง ประมาณ 30 นาที เพลิงจึงสงบ โดยทราบชื่อเจ้าของบ้านหลังทีเกิดเหตุต่อมา ชื่อ นางสุดา บุญนาค อายุ 91 ปี ซึ่งเป็นบ้านต้นเพลิง โดยบ้านหลังเกิดเหตุ เป็นบ้าน_ลักษณะเป็นบ้านปูนความสูง 2 ชั้น โดยมีการต่อเติมหน้าบ้านเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวซึ่งปลูกติดกับตัวบ้านหลังใหญ่ โดยอยู่ภายในรั้วบ้านเดียวกัน ส่วนด้านข้างบ้านที่ต่อเติมยังทำเป็นที่จอดรถ ซึ่งต้นเพลิงนั้นเกิดขึ้นที่บ้านไม้ชั้นเดียวที่ต่อเติมขึ้นมา แล้วลุกลามไปยังตัวบ้านหลังใหญ่อย่างรวดเร็ว และยังไหม้รถยนต์ที่จอดใว้ติดกับตัวบ้านหลังดังกล่าวเสียหายไป1คัน โดยเพลิงยังลุกลามไปติดบ้านหลังข้างๆได้รับความเสียหายไปด้วยอีกถึง2หลัง ซึ่งในส่วนตัวเจ้าของบ้านก็ได้รับบาดเจ็บจากการถูกไฟลวก เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร จึงช่วยกันปฐมพยาบาลก่อนนำส่งโรงพยาบาลกลาง 

 

 

จากการสอบถาม นางพรเพ็ญ  ทรัพย์สถิตย์กุล อายุ 78 ปี เจ้าของบ้านข้างๆ ที่ได้รับความหายไปด้วย เล่าว่า"ระหว่างเกิดเหตุ อยู่กัน 2 กับสามี ดูทีวีอยู่ชั้นล่าง ตนอยู่ชั้นบน ห้องนอน ได้กลิ่นและได้ยินเสียง พึบพับ มองไปเห็นไฟแดงฉานแล้ว จึงพากันวิ่งออกนอกบ้าน ด้วยความตกใจ และห่วงของในบ้านตนเอง เพราะยังไม่ได้ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าเหมือนกัน จะวิ่งเข้าไป แต่โดนอาสาท้วงไว้ ว่าเข้าไม่ได้แล้ว ไฟกำลังโหมแรง อาสาก็รีบฉีดน้ำระงับไม่ให้รุกลามไปมากกว่านี้"

 

ส่วนบ้านอีกหลังซึ่งอยู่ทางด้านหลังบ้านต้นเพลิง เจ้าของบ้านชื่อนายธีรวัฒน์ จันทร์จิระพร อายุ 65 ปี เล่าว่า " ตอนเกิดเหตุ อยู่ภายในบ้าน ได้กลิ่นและมองออกมาเห็นควันขึ้นดำมาก จึงออกมาดู ได้ยินเสียงตะโกนไฟไหม้ จึงมองไปรอบๆ บ้านว่า บ้านตนได้ไหม้ด้วยไหม แต่โดนแค่ความร้อน ทำให้กระจกที่ติดกับตัวบ้านแตก พลาสติกไหม้ เท่านั้น แต่บ้านต้นเพลิงนั้น ไฟโหมแรงมาก"

 

 

ทั้งนี้ทางพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลบางกอกใหญ่ จะทำการสืบสวนหาสาเหตุการเกิดเหตุเพลิงไหม้อีกครั้ง โดยจะประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบในจุดเกิดเหตุ