เปิดนาทีหน่วยหนุมานกองปราบฯ จู่โจมล็อคตัว “ลุงบุญช่วย” พร้อมลูกชาย หลังพบหลักฐานชี้ชัดฮุบที่ดินธรณีสงฆ์ 3,800 ไร่

9 มิถุนายน 2563 พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พ.ต.อ.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ รอง ผบก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ หนุมาน กองปราบปราม จำนวน 20 นาย และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.2 บก.ป. ติดอาวุธครบมือ นำหมายค้นจากศาลอาญาเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 32/21 ม.10 ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกูฎ จ.จันทบุรี เพื่อเข้าจับกุมตัวนายบุญช่วย เจริญสถาพร อายุ 80 ปี และนายกิตติพงษ์ เจริญสถาพร อายุ 43 ปี บุตรชาย ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “เบิกความเท็จต่อศาล ให้การเท็จต่อเจ้าพนักงานและเจ้าหน้าที่,ร่วมกันยักยอกทรัพย์

 

 

ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมไปถึงพบบ้านหลังดังกล่าวมีลักษณะคล้ายกับอาคารสำนักงานตั้งอยู่ภายในไร่ จึงวางกำลังเข้าปิดล้อมเพื่อความรัดกุมและปิดเส้นทางหลบหนี จากนั้นได้บุกเข้าไปในตัวอาคารพบผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ยังคงนอนหลับพักผ่อนอยู่ในบ้าน เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการหนุมาน จึงแสดงตัวขอจับกุมพร้อมกับเข้าตรวจยึดเอกสารหลักฐานบางอย่างจากภายในบ้านพักจำนวนหลายรายการไว้เป็นหลักฐาน

 

สำหรับการจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 ก.พ.61 ทางมูลนิธิอธิธรรมมหาธาตุวิทยาลัย ได้ส่งตัวแทนเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อแจ้งความเอาผิดกับนายบุญช่วย ซึ่งเป็นน้องชาย ของพระกิตติวุฑโฒ ภิกขุ อดีตประธานมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุ จากกรณียักยอกที่ดินในพื้นที่ ต.พลวง ต.ตะเคียนทอง อ.เขาคิชณกูฎ และบางส่วนใน อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ของมูลนิธิ จำนวน 3,800 ไร่ ไปเป็นของตนเองโดยมีการสวมสิทธิ การครอบครองและนำไปออกโฉนดโดยมิชอบ

 

 

เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดี จึงได้นำกำลังลงพื้นที่สืบตรวจสอบข้อเท็จจริง กระทั่งพบว่า เดิมทีที่ดินผืนนี้เป็นที่ดินสปก. มีนายสมพล โกศลานันท์ เป็นผู้ครอบครอง ปี 2513-2515 พระกิตติวุฒโฑ ได้มีการก่อตั้งมูลนิธิอธิธรรมมหาธาตุวิทยาลัย พร้อมกับเปิดรับบริจาครวบรวมเงินของชาวบ้านมาเป็นทุนซื้อที่ดินจากนายสมพล เพื่อนำมาใช้ปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ของพระสงฆ์ ในราคา 12 ล้านบาท แต่จ่ายเงินไปเพียง 8 ล้านบาท อีก 4 ล้านบาทยังไม่ได้ชำระ แต่ทางนายสมพล เห็นว่าจะนำที่ดินไปใช้ประโยชน์ทางศาสนา จึงมอบที่ดินให้ไปใช้ประโยชน์ก่อน

 

 

หลังจากที่ได้ที่ดินมาแล้วพระกิตติวุฒโฑ ได้มอบหมายให้นายบุญช่วย ซึ่งเป็นน้องชายของตัวเองเป็นผู้ดูแลที่ดิน แต่เมื่อพระกิตติวุฒโฑ ได้มรณภาพในปี 2548 นายบุญช่วย และบุตรชาย กลับเริ่มวางแผนที่จะเข้าครอบครองที่ดินมาเป็นของตนเอง โดยในปี 2550 นายบุญช่วย ได้ไปยื่นเรื่องฟ้องร้องนายเรวัฒิ โกศลานันท์ ลูกชายของนายสมพล ในฐานะเป็นผู้รับมรดกเพื่อให้โอนที่ดินมาเป็นของตัวเอง โดยมีนายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ ทนายความชื่อดัง เป็นทีมทนายความ กระทั่งศาลจังหวัดจันทบุรี มีคำพิพากษาให้ทายาทของนายสมพล โอนที่ดินไปเป็นชื่อของนายบุญช่วย ตามที่ร้องขอ

 

 

จากนั้นปี 2554-2555 นายบุญช่วย ได้ไปยื่นขอเปลี่ยนที่ดินสปก.เป็นโฉนดที่ดิน เพื่อทำให้มีมูลค่าสูงขึ้น ทาง น.ส.เขมจิรา บัณฑูรนิพิท และพล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ ซึ่งเป็นทายาทรุ่นหลานของนายสมพล จึงเริ่มพบเห็นความผิดปกติ และเกิดความไม่พอใจเพราะเห็นว่า ที่ดินไม่ได้ถูกนำไปใช้ประโยชน์ทางศาสนา ตามวัตถุประสงค์เดิม จึงเกิดการฟ้องร้องเป็นคดีขึ้นหลายคดี แต่เป็นทางฝ่ายทายาทที่แพ้คดีมาโดยตลอด รวมถึงยังลุกลามบานปลายจนกลายเป็นมูลเหตุทำให้ พล.ต.ต.ธารินทร์ ตัดสินใจใช้อาวุธปืน กราดยิงใส่นายบัญชา นางสุภาพร ภรรยานายบัญชา นายวิชัย อุดมธนภัทร และนายวิจัย สุขรมย์ ทีมทนายภายในศาลจังหวัดจันทบุรี ขณะกำลังรอพยานฝ่ายจำเลย และรอผู้พิพากษาขึ้นนั่งบัลลังก์นัดสืบพยานฝ่ายจำเลยนัดแรก เพื่อรับฟังการพิจารณาคดีการฟ้องร้องทางแพ่งปลีกย่อยเกี่ยวกับที่ดินผืนดังกล่าว

 

จนเป็นเหตุให้นายบัญชา และนายวิจัย เสียชีวิต ส่วนนางสุภาพร และนายวิชัย ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่พล.ต.ต.ธารินทร์ เองภายหลังก่อเหตุก็ได้ถูกนายธนากร ธีรวโรดม เสมียนทนายนำอาวุธปืนของ ร.ต.อ.ขจร บรรจง ตำรวจประจำศาลจังหวัดจันทบุรี ยิงใส่จนเสียชีวิตด้วยเช่นกัน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 พ.ย.62 ที่ผ่านมา ซึ่งภายหลังเกิดเรื่องขึ้นมาทำให้คดีเป็นที่สนใจจากสังคมที่เกิดความไม่ชอบมาพากล

 

ทางตำรวจกองปราบปราม จึงได้รับโอนสำนวนคดีทั้งหมดมาอยู่ในความดูแล พร้อมกับสืบสวนข้อเท็จจริงจนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานนำไปสู่การออกหมายจับ และจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน โดยหลังการเข้าจับกุมตัวและตรวจค้นหาพยานหลักฐานต่าง ๆ ภายในบ้านเสร็จสิ้นแล้ว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เร่งนำตัวทั้ง 2 คน มายังกองปราบปราม เพื่อทำการสอบสวนในทันที

 

 

ขอบคุณ แนวหน้า

ชมคลิป https://www.facebook.com/591395124402982/videos/1328201960722539/